ASTVผู้จัดการออนไลน์ - ทางการลาวได้ประกาศการปรับคณะรัฐมนตรีอีกระลอกหนึ่งในวันพุธ 8 ก.ค. ซึ่งรายชื่อผู้เกี่ยวข้องทั้งหมดได้รับอนุมัติจากที่ประชุมสภาแห่งขาติในวันเดียวกัน ในการ “ปรับเล็ก” ครั้งนี้มีการแต่งตั้งเจ้าแขวงขึ้นเป็นรัฐมนตรีว่าการถึง 3 กระทรวง และอีก 2 กระทรวงดึง รมช.ขึ้นคุม รวมทั้งตั้ง นายคำมะนี อินทิลาด ขึ้นกำกับดูแลการผลิตพลังงานและเหมืองแร่ ในฐานะเจ้ากระทรวงเต็มตัวอีกด้วย
ตามรายงานของสื่อทางการ นายคำหมั่น สูนวิเลิดอดีตเจ้าแขวงบ่อแก้ว เป็นรัฐมนตรีว่าการกระทรวงภายในคนใหม่ แทน นายไซสี สันติวง ที่ไปรับตำแหน่งใหม่ ขณะเดียวกัน นายคำแพง ไซสมแพง เจ้าแขวงหลวงพระบาง ได้ขึ้นว่าการกระทรวงแรงงานและสวัสดิการสังคม แท่นนางอ่อนจัน ทำมะวง และ นายคำเมิง พงทะดี เจ้าแขวงเวียงจันทน์ เป็นรัฐมนตรีประจำสำนักงานรัฐบาล
นายสมมาด พนเสนา อดีตรัฐมนตรีว่าการกระทรวงโยธาธิการและขนส่ง ที่ถูกโยกเข้าประจำสำนักงานรัฐบาล คราวนี้ได้ขึ้นว่าการกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม และ นายเพ็ด พมพิทัก รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงกสิกรรมและป่าไม้ ขึ้นเป็นรัฐมนตรีว่าการ แทนนายวิไลวัน พมเข นอกจากนั้น ยังแต่งตั้ง พลจัตวาสมแก้ว สีลาวง รักษาการ รมว.กระทรวงป้องกันความสงบ ขึ้นเป็นรัฐมนตรีว่าการด้วย
นายวิไลวัน เพิ่งจะพ้นจากตำแหน่งเลขาธิการพรรค กระทรวงกสิกรรมฯ ในการประชุมผู้แทนกระทรวงทั่วประเทศ ซึ่งเป็นการประชุมใหญ่ (Congress) พรรคสาขากระทรวง ที่จัดขึ้นเพียงหนึ่งสัปดาห์ก่อนหน้านี้ และ ที่ประชุมได้เลือก ดร.เพ็ด เป็นผู้นำคนใหม่
พล.จ.สมแก้ว รักษาการรัฐมนตรีว่าการ “กระทรวงตำรวจ” นี้มาตั้งแต่หลังเหตุการณ์เครื่องบินตกในแขวงเชียงขวาง เดือน พ.ค.2557 ซึ่ง นายสุบัน แสงอาพอน รัฐมนตรีว่าการกระทรวง กับผู้นำระดับสูงอีกหลายคนเสียชีวิต รวมทั้ง พล.ท.ดวงใจ พิจิต รมว.กระทรวงป้องกันประเทศ เหตุการณ์ดังกล่าวได้นำมาสู่การปรับปรุงตัวบุคคลในรัฐบาล ของนายทองสิง ทำมะวง อีกหลายระลอกในช่วงข้ามปีมานี้
ก่อนหน้านี้ ลาวได้เปลี่ยนแปลงตัวรัฐมนตรีว่าการ กับเจ้าแขวง ซึ่งเป็นระดับเดียวกันมาหลายนาย รวมทั้งกรณีล่าสุดเมื่อเร็วๆ นี้ ซึ่งมีการแต่งตั้งนายทหารระดับหัวหน้ากรมใหญ่ และระดับหัวหน้าสถาบันการศึกษาของกองทัพ ขึ้นเป็นรัฐมนตรีช่วยว่าการอีก 2 นาย
สำหรับ นายคำมะนี ได้ปฏิบัติหน้าที่รัฐมนตรีช่วยว่าการมานานหลายปี และเป็นผู้ที่ดูแลรับผิดชอบตัวจริงในการกำกับดูแลโครงการผลิตกระแสไฟฟ้าเพื่อส่งออก อันเป็นแขนงการลงทุนใหญ่ที่สุดในลาวปัจจุบัน เกี่ยวข้องต่อการลงทุนจากต่างประเทศมูลค่าหลายพันล้านดอลลาร์ กับการส่งออกไฟฟ้าซึ่งเป็นรายได้หลักอีกทางหนึ่งของประเทศ.