ASTVผู้จัดการออนไลน์ - ศาลของลาวได้ตัดสินประหารชีวิตผู้ร่วมขบวนการค้ายาเสพติดรายใหญ่ รวมทั้งสิ้น 7 ราย หลังจากถูกจับกุมเมื่อปีที่แล้ว และเจ้าหน้าที่ทางการจับยึดยาบ้าของกลางได้จำนวน 58,000 เม็ด โดยขนจากภาคเหนือเข้าสู่เมืองหลวง ในจำนวนนั้นมีสองสามีภรรยาที่ถือสัญชาติไทยรวมอยู่ด้วย 2 คน โดยเป็นชาวจังหวัดสุโขทัย
การตัดสินลงโทษด้วยการประหารชีวิตโดยศาลประชาชนนครเวียงจันทน์ปลายสัปดาห์ที่ผ่านมา นับเป็นการลงโทษขั้นสูงสุดในช่วงหลายปีมานี้ สำหรับผู้กระทำความผิดเกี่ยวยาเสพติด ซึ่งก่อนหน้านี้ มีผู้ค้ารายย่อยหลายรายถูกศาลตัดสินลงโทษจำคุกตลอดชีวิต หรือเป็นเวลาหลายสิบปี ตามความหนักเบาของการกระทำความผิดมาแล้ว
การลงโทษสูงสุดของศาลลาว ยังมีขึ้นในขณะที่ยาเสพติดหลากประเภท และชนิด โดยเฉพาะอย่างยิ่งยาบ้า เฮโรอิน และฝิ่น ถูกลักลอบขนจากภาคเหนือพม่าทะลักเข้าสู่ลาว เพื่อผ่านไปยังประเทศที่สาม ในนั้นมีปริมาณมหาศาลที่ตกค้างในลาวเอง เป็นพิษภัยแก่เยาวชน และสร้างปัญหาทางสังคมติดตามมา สื่อของทางการรายงาน
.
แก๊งนี้ที่แขวงคำม่วน เป็นรายเล็กและนับว่าโชคดี โดนคนละ 18 ปี แบบ "ทั้งจำทั้งปรับ". |
จำเลยที่ถูกศาลตัดสินประหารชีวิต ประกอบด้วย นางมอย อายุ 37 ปี ชาวเมือง (อำเภอ) แบง แขวงอุมดมไซ นายอุ่นแก้ว วัย 33 ปี ชาวเมืองสีสัดตะนาก นครเวียงจันทน์ นายสะเหน่ วัย 38 ปี กับนางดวงใจ อายุเท่ากัน เป็นสองสามีภรรยาสัญชาติไทยชาว อ.ทุ่งเสลี่ยม สุโขทัย นางกินนะลอน วัย 21 ปี นายจันสุก อายุ 18 ปี กับนายสมพร วัย 41 ปี โดย 3 คนหลังเป็นพี่น้องกัน เป็นชาวเมืองสีโคดตะบอง นครเวียงจันทน์ หนังสือพิมพ์ลาวพัดทะนารายงาน
คนทั้ง 7 ถูกจับที่บ้านสีสะหวาด เมืองจันทบูลี เวียงจันทน์ (ย่านอนุสาวรีย์ประตูชัย) พร้อมยาบ้า 58,000 เม็ด จึงถูกศาลตัดสินลงโทษตามกฎหมาย หนังสือพิมพ์ออนไลน์ของสมาคมนักข่าวแห่งชาติกล่าว
ลาวไม่ได้เป็นประเทศที่มีการผลิตยาเสพติด แต่เป็นทางผ่านของยาเสพติด โดยเฉพาะอย่างยิ่งยาบ้าที่ถูกจับได้นับจำนวนหลายล้านเม็ดในช่วงไม่กี่ปีมานี้่ ปริมาณมหาศาลทะลักออกไปยังเวียดนาม ไทย และรวมทั้งกัมพูชา อย่างเป็นกระบวนการ และยังไม่มีลู่ทางที่ชัดเจนในขณะนี้ว่า จะจัดการต่อผู้ค้ายาเสพติดรายใหญ่เหล่านี้อย่างไร
ถึงแม้ว่าเจ้าหน้าที่ของลาวจะเข้มงวดกวดขัน และทำการจับกุมมาเป็นระยะๆ ก็ตาม แต่การลักลอบขนยาเสพติดก็ยังดำเนินต่อไปอย่างไม่รู้สึกเกรงกลัว
.
.
วันที่ 7 มิ.ย.ที่ผ่านมา เจ้าหน้าที่ตำรวจ กระทรวงป้องกันความสงบภายใน ได้เข้าตรวจค้นรถยนต์โตโยต้า แลนด์ครุยเซอร์ปราโดได้คันหนึ่ง ซึ่งประสบอุบัติเหตุขณะแล่นเข้าทางตอนเหนือของเมืองหลวง และพบยาบ้านับจำนวนเกือบ 3 ล้านเม็ด จับตัวผู้ต้องสงสัยได้ 1 คน ซึ่งได้สารภาพต่อเจ้าพนักงานสอบสวนในเวลาต่อมาว่า ยาเสพติดทั้งหมดเป็นของตน และขนไปจากเขตสามเหลี่ยมทองคำ
ไม่ต้องสงสัยเลยว่า ผู้กระทำความผิดที่มีพยานหลักฐานครบถ้วนกับของกลางล็อตใหญ่เช่นนี้ กำลังจะถูกศาลลาวตัดสินลงโทษประหารชีวิตอีกราย
ตามรายงานของสื่อทางการ เมื่อสัปดาห์ที่แล้ว เจ้าหน้าที่ตำรวจแขวงหลวงพระบาง สามารถจับผู้ค้ายาเสพติดได้อีก 2 คน เป็นหญิงชาวลาววัย 37 และ 24 ปี พร้อมเฮโรอีนของกลาง จำนวน 41 แท่ง และจับยึดรถปิกอัพโตโยต้าไฮลักซ์วีโก้ ที่ใช้เป็นพาหนะลักลอบขนยาเสพติด 2 คัน หลักฐานเหล่านี้ทำให้ผู้กระทำผิดต้องโทษถึงประหารชีวิตตามกฎหมายของลาว
เมื่อปีที่แล้วเจ้าหน้าที่ได้เข้าตรวจค้นบ้านผู้ต้องสงสัยหลังหนึ่งในเมืองหลวง และจับยึดยาบ้าได้กว่า 1 ล้านเม็ด ของกลางอื่นๆ อีกมากมาย รวมทั้งทองรูปพรรณ กับบัญชีเงินสดกว่า 10 บัญชี และเงินสดอีกเป็นเงินหลายล้าน ทั้งเงินสกุลกีบ เงินดอลลาร์ และเงินบาทไทย.