ASTVผู้จัดการออนไลน์ - กองทัพเรือสิงคโปร์ ได้จัดพิธีปล่อยลงน้ำ เรืออินดีเพนเด็นซ์ (RSV Independence) ปลายสัปดาห์ที่ผ่านมา ซึ่งเป็นลำแรกของเรือปฏิบัติการชายฝั่งชุด Littoral Mission Vessel จากทั้งหมด 8 ลำ ในโครงการจัดหาเรือยุคใหม่ เพื่อนำเข้าประจำการแทนเรือคอร์แว็ตชุดเก่า ที่ใช้งานมาเป็นเวลา 20 ปี การปล่อยเรือ LMV ลำแรกยังมีขึ้นหลังจากสิงคโปร์เพิ่งฉลองครบรอบปีที่ 50 การก่อตั้งกองทัพ ในวันที่ 1 ก.ค.นี้
กล่าวได้ว่า นี่คือเรือรบลำแรกในรอบเกือบ 20 ปี ของสิงคโปร์ “เจ้าสัว” แห่งเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ การเกิดของเรือชุด LMV ลำที่หนึ่ง จึงถือเป็นการเริ่มอีกยุคหนึ่งของกองทัพเรือที่มีขนาดเล็กกะทัดรัด แต่เลือกใช้ระบบอาวุธยุทโธปกรณ์ที่คุณภาพสูง ด้วยเทคโนโลยีก้าวหน้า พิธีเมื่อวันศุกร์จึงดำเนินไปอย่างคึกคัก มีรายงานเรื่องในนี้ในเว็บไซต์ของกองทัพ
“เรือชุด LMV ไม่ได้เป็นเพียงเรือลำใหม่ธรรมดาเท่านั้น แต่ในขณะเดียวกัน พวกเราได้นำหน้าในการใชเทคโนโลยีเพื่อเอาชนะความต้องการในเชิงปฏิบัติการ นั่นคือลักษณะพื้นฐานของสิงคโปร์ ในขณะที่เรากำลังจะฉลองครบรอบปีที่ 50..” นพ.อึงเอ็งเฮน (Unh Eng Hen) รัฐมนตรีกลาโหมกล่าวระหว่งพิธีสำคัญ
.
Timelapse video of littoral mission vessel (LMV) |
.
ชื่อ “อินดีเพนเด็นช์” หรือ “เอกราช” คัดมาจากรายชื่อที่มีผู้ส่งเข้าประกวดกว่า 12,000 ราย ในช่วงเดือน พ.ค.ที่ผ่านมา ทางการคัดเอาไว้อีก 7 ชื่อ สำหรับลำอื่นๆ ในชุดที่จะทยอบยติดตามกันออกมาในแผนการจัดหาที่จะดำเนินไปจนถึงปี 2563 ซึ่งได้แก่ Sovereignty (อธิปไตย) Unity (เอกภาพ) Justice (ยุติธรรม) Indomitable (ทรหด) Fortitude (อดทน) Dauntless (ไม่เกรงกลัว) และ Fearless (ไม่หวาดหวั่น) ตามลำดับ
ตามข้อมูลในเว็บไซต์กองทัพเรือ เรือ LMV จะเข้าประจำการแทนเรือชั้นเฟียร์เลส (Frearless-Class) ซึ่งเป็นเรือตรวจการณ์ (Patrol Vessel) โดย LMV มีขนาดใหญ่กว่าเล็กน้อย แต่ใช้เทคโนโลยีทันสมัยมากกว่า เร็วกว่า พร้อมรูปลักษณ์ “ล่องหน” (Stealth) ยิ่งกว่า ติดอาวุธได้หลายระบบและชนิดมากกว่าตามความต้องการ
เรือรบรุ่นใหม่เป็นขนาด 1,250 ตัน ยาว 80 เมตร กว้างสุด 12 เมตร ทำความเร็วสูงสุดได้กว่า 27 นอต (หรือกว่า 50 กิโลเมตร/ชั่วโมง) ใช้ลูกเรือราว 30 คน ระยะปฏิบัติการ 3,500 ไมล์ทะเล (6,482 กิโลเมตร) ในเวลา 14 วัน บนเรือมีเฮลิคอปเตอร์ประจำการ 1 ลำ รองรับได้ทั้งแบล็กฮอว์กของสหรัฐฯ และยูโรคอปเตอร์จากค่ายยุโรปในระดับเดียวกัน
.
2
3
4
5
6
7
8
9
10
เรืออินดีเพนเด็นซ์ ติดปืนใหญ่เรือโอโตเมลารา (Oto Melara) 76 มม. 1 ชุด เป็นปืนหลักประจำเรือ และยังติดปืนกลโอโตเมลารา “ฮิตโรล” (Hitrole) ขนาด 12.7 มม. ซึ่งเป็นปืนกลรีโมตคอนโทรลอีก 2 ชุด ติดระบบปืนยิงเร็วไต้ฝุ่น (Typhoon Weapon Station) ขนาด 25 มม. อีก 1 ชุด กับระบบจรวดต่อสู้อากาศยานไมก้า (Mica) พร้อมระบบท่อยิงแนวตั้ง 12 ท่อ ที่ส่วนหัวของเราซึ่งใช้เป็นระบบจรวดต่อต้านจรวดในขณะเดียวกัน ส่วนท้ายของเรือเป็นลานจอดสำหรับเฮลิคอปเตอร์ อีกทั้งเรือยังติดตั้งระบบเรดาร์กับระบบนำร่อง ตลอดจนระบบสื่อสารแบบบูรณาการที่ศูนย์กลางจากยุโรป
ตามรายงานในเว็บไซต์บริษัทราเฟล (Rafael) แห่งอิสราเอล กองทัพเรือสิงคโปร์เป็นเพียงแหงเดียวในย่านนี้ที่ใช้ระบบปืนไต้ฝุ่น ซึ่งเป็นปืนกลยิงเร็วที่สามารถใช้ได้ทั้งแบบอิสระ และแมนนวล หรือใช้ควบคู่กับระบบจรวดยิงเรือ เป็นระบบ Weapon Station ทั้งป้องกัน/โจมตี ติดตั้งบนตั้งบนแท่นยึดที่มั่นคง เป็นอิสระ ไม่โคลงไปตามเรือ ทำให้จับเป้าหมายได้อย่างมั่นคง แม้ในระยะไกลถึง 1 กิโลเมตร
ระบบ Typhoon Weapon Station มีปืนให้เลือกใช้หลายขนาด จนถึงขนาดใหญ่สุดคือ 30 มม. ซึ่งเป็นระดับปืนใหญ่เรือ ปัจจุบันระบบของราเฟล มีใช้ในราชนาวีออสเตรเลีย นิวซีแลนด์ กองทัพเรือศรีลังกา กับกองทัพเรือของอิสราเอลเอง และอีกรุ่นหนึ่งที่ก้าวหน้ามากกว่า ติดตั้งบนเรือลาดตระเวนชั้นติคอนเดโรกา (Ticonderoga Class Cruiser) ของกองทัพเรือสหรัฐฯ สิงคโปร์เป็นเพียงประเทศเดียวย่านนี้ที่เลือกใช้ระบบอาวุธนี้บนเรือรบ
กองทัพเรือสิงคโปร์ ได้ตอบคำถามนิตยสารเจนส์ดีเฟ็นซ์เมื่อเร็วๆ นี้ ยืนยันว่า เรือชุด LMV ไม่ได้ติดตั้งระบบอาวุธเพื่อสงครามใต้น้ำ คือ ไม่ได้ออกแบบมาเพื่อใช้ในภารกิจปราบปรามเรือดำน้ำ แต่สำหรับปฏิบัติการใกล้ฝั่งบนผิวน้ำโดยเฉพาะ นอกจากนั้น ยังติดตั้งระบบฉีดน้ำแรงสูง 2 ชุด กับระบบเสียงแจ้งเตือนระยะไกล พร้อมระบบไฟซีนอนส่องสว่างเพื่อปฏิบัติภารกิจที่ไม่จำเป็นต้องใช้อาวุธรุนแรงใดๆ อีกด้วย
เรืออินดีเพนเด็นซ์ มีกำหนดเข้าประจำการในไตรามาสแรกปี 2559.
.
.
ก้าวสู่อีกยุคหนึ่ง เฟซบุ๊ก/กองทัพเรือสิงคโปร์
11
12
13
14
15
16