รอยเตอร์/ซินหวา - พม่าเผยผลสำรวจสำมะโนประชากรทั่วประเทศครั้งแรกในรอบ 30 ปี เมื่อวันศุกร์ที่ผ่านมา (29) แต่ไม่รวมชนกลุ่มน้อยชาวมุสลิมโรฮิงญาในประเทศ รวมทั้งข้อมูลอ่อนไหวเกี่ยวกับชาติพันธุ์ และความเชื่อทางศาสนาของประชากร 51.5 ล้านคน
ชาวโรฮิงญาส่วนใหญ่จากทั้งหมดราว 1.1 ล้านคนในพม่า เป็นคนไร้รัฐ และอยู่ในสภาพที่คล้ายกับการแบ่งแยกชนชาติในรัฐยะไข่ ชาวโรฮิงญาเกือบ 140,000 คน ไม่มีที่อยู่อาศัยเนื่องจากเหตุปะทะรุนแรงกับชาวพุทธส่วนใหญ่ในรัฐยะไข่เมื่อปี 2555 นอกจากนั้น ชาวโรฮิงญายังถูกปฏิเสธการเป็นพลเมืองของประเทศ
รัฐบาลพม่าได้ให้คำมั่นต่อผู้สนับสนุนต่างชาติว่า ชาวโรฮิงญาจะสามารถระบุตนเองได้อย่างเสรีในการสำรวจสำมะโนประชากรที่เริ่มสำรวจเมื่อเดือน มี.ค.-เม.ย.2557 แต่เพียงแค่หนึ่งวันก่อนเริ่มการสำรวจ ทางการพม่าได้เปลี่ยนท่าที และระบุว่า การใช้คำว่าโรฮิงญานั้นไม่ได้รับอนุญาต
“ในรัฐยะไข่ ประชากรส่วนหนึ่งไม่ได้มีส่วนร่วมในการสำรวจเนื่องจากเหตุตึงเครียดระหว่างชุมชนและความต้องการของประชาชนในท้องถิ่นที่จะระบุตนเองว่าเป็นโรฮิงญา อันเป็นข้อเรียกร้องที่ทางการไม่ยอมรับ“” วีเจย์ นามเบียร์ ที่ปรึกษาพิเศษด้านกิจการพม่าของสหประชาชาติ กล่าว
การสำรวจยังถูกวิพากษ์วิจารณ์หลังผู้จัดทำการสำรวจใช้ฐานรายชื่อกลุ่มชาติพันธุ์ 135 กลุ่ม ที่นักเคลื่อนไหว และนักวิจารณ์กล่าวว่า ล้าหลัง และไม่ถูกต้อง และสิ่งที่น่าประหลาดใจที่สุดของผลการสำรวจเบื้องต้นที่เผยแพร่ในเดือน ส.ค. คือ ข้อมูลระบุว่า ประชากรของพม่ามีจำนวนที่ 51.4 ล้านคน น้อยกว่าที่คาดการณ์ไว้ถึง 9 ล้านคน และการสำรวจสำมะโนประชากรอย่างสมบูรณ์ได้ยืนยันว่า พม่ามีจำนวนประชากรอยู่ที่ 51.5 ล้านคน
ผลการสำรวจสำมะโนประชากรยังระบุว่า อัตราการรู้หนังสือของผู้ใหญ่อยู่ที่ร้อยละ 90 และยังมีข้อมูลอื่นๆ ที่สะท้อนให้เห็นถึงการจัดการเศรษฐกิจไม่ดีภายใต้การปกครองของรัฐบาลทหารนาน 49 ปี จนทำให้ประเทศตกอยู่ในความยากจน ก่อนการปฏิรูปในปี 2554
ข้อมูลระบุว่า ประชากรเพียง 1 ใน 3 เข้าถึงไฟฟ้า อัตราการเสียชีวิตของทารกแรกคลอดอยู่ที่ 62 ต่อ 100,000 คน และอายุขัยของประชากรอยู่ที่ 66.8 ปี ขณะที่ประเทศเพื่อนบ้าน เช่น ไทย มีช่วงอายุขัยที่ 74 ปี ตามข้อมูลของธนาคารโลก
ส่วนข้อมูลด้านชาติพันธุ์ และศาสนา รวมทั้งอาชีพ และการตายของมารดา จะเผยแพร่ในปีหน้าหลังการเลือกตั้งทั่วไปในเดือน พ.ย.
ประธานาธิบดีเต็งเส่ง ที่เป็นประธานในการเปิดเผยผลสำรวจประชากรและที่อยู่อาศัยทั่วประเทศ ปี 2557 ที่กรุงเนปีดอ ได้แสดงความชื่นชมต่อการมีส่วนร่วม และความร่วมมือในการดำเนินการขั้นตอนสำรวจสำมะโนประชากรของบรรดาแกนนำกลุ่มชาติพันธุ์ต่างๆ ขณะที่ นายวีเจย์ นามเบียร์ ได้กล่าวยกย่องการสำรวจว่า เป็นความสำเร็จครั้งยิ่งใหญ่ที่จะเป็นประโยชน์ต่อทั้งการพัฒนาประเทศ และกระบวนการประชาธิปไตย แม้จะยังมีความท้าทายอุปสรรคที่จำเป็นต้องจัดการอยู่
การสำรวจสำมะโนประชากรครั้งแรกของพม่ามีขึ้นในปี 2415 ระบุว่า พม่ามีประชากรทั้งหมด 2.7 ล้านคน ส่วนการสำรวจสำมะโนประชากรครั้งที่ 2 มีขึ้นในปี 2526 ผลสำรวจระบุว่ามีประชากร 35.3 ล้านคน.