เตื่อยแจ๋ - กองทัพเรือเวียดนาม จะได้รับมอบเรือฟรีเกตชั้นเกพาร์ด (Gepard-class) 2 ลำใหม่เร็วๆ นี้ นับเป็นเรือฟรีเกตชั้นเกพาร์ดลำที่ 3 และ 4 ที่รัสเซียสร้างให้แก่เวียดนาม หลังอู่ต่อเรือเพิ่งต่อเรือเสร็จสมบูรณ์ตามการระบุของเว็บไซต์รัฐบาลที่อ้างรายงานจากสื่อรัสเซีย
รัสเซียเพิ่งเสร็จสิ้นขั้นตอนการต่อเรือฟรีเกต 2 ลำ สำหรับกองทัพเรือเวียดนาม ตามที่เว็บไซต์ข่าวรัสเซีย Sputnik ได้รายงานอ้างคำกล่าวของโฆษกอู่ต่อเรือซีเลโนโดลสก์ (Zelenodolsk) โดยอาวุธต่างๆ จะถูกติดตั้งบนเรือรบทั้ง 2 ลำในเร็วๆ นี้
เรือฟรีเกตชั้นเกพาร์ด 3.9 เป็นรุ่นสำหรับส่งออกภายใต้โครงการ 11661 ของรัสเซีย ที่ต่อขึ้นภายในอู่เรือซีเลโนโดลสก์ ในสาธารณรัฐทาทาร์สตัน ของรัสเซีย เรือทั้ง 2 ลำนี้จะถูกส่งมอบให้แก่เวียดนามทันทีที่อาวุธทั้งหมดติดตั้งแล้วเสร็จ
ในแง่ของคุณสมบัตินั้นเรือ 2 ลำใหม่เหมือนกันกับเรือชั้นเกพาร์ด 3.9 สองลำแรกที่อยู่ในการดูแลของกองทัพเรือเวียดนามในเวลานี้ แต่สิ่งที่แตกต่างคือ เรือฟรีเกตคู่ที่ 2 นี้จะติดตั้งอาวุธต่อต้านเรือดำน้ำ ท่อยิงตอร์ปิโด และอุปกรณ์ทันสมัยอื่นๆ ที่ใช้ตรวจจับเรือดำน้ำศัตรู โดยเรือยังใช้เครื่องกำเนิดไฟฟ้าทันสมัย
เรือรบใหม่ 2 ลำ ยังสามารถโจมตีเป้าหมายได้อย่างมีประสิทธิภาพทั้งในอากาศ บนผิวน้ำ และใต้น้ำ ตามการระบุของเว็บไซต์ Chinhphu.vn
เรือฟรีเกตชั้นเกพาร์ด 3.9 สองลำแรกของเวียดนาม คือ เรือดีงเตียนหว่าง (HQ-011) และเรือหลีท้ายโต๋ (HQ-012) สร้างขึ้นโดยบริษัท Rosoboronexport ที่อู่ต่อเรือซีเลโนโดลสก์ เช่นกัน โดยเข้าประจำอยู่ในกองเรือ 162 ของกองทัพเรือเขต 4 เมื่อ 4 ปีก่อน
กองทัพเรือเขต 4 เป็นหน่วยที่ดูแลจัดการ และป้องกันพื้นที่บริเวณหมู่เกาะสแปรตลีย์ เกาะฟู๊กวี๊ ทะเลเวียดนามตะวันออก และพื้นที่ชายฝั่งภาคกลางตอนใต้ตั้งแต่ จ.ฝูเอียน ไปจนถึงพื้นที่ตอนเหนือของ จ.บิ่งทวน ซึ่งประกอบด้วย จ.ฝูเอียน จ.แค้งฮว่า และ จ.นีงทวน
เรือฟรีเกตอเนกประสงค์นี้ถูกออกแบบให้ติดตาม และทำลายเป้าหมายผิวน้ำ และปฏิบัติภารกิจพิเศษ รวมทั้งการป้องกันทางอากาศ ต่อต้านเรือดำน้ำ คุ้มกัน และลาดตระเวน ซึ่งสามารถเข้าต่อสู้อย่างอิสระ หรือในแบบกองเรือ
เรือรบ 2 ลำล่าสุดนี้มีมูลค่าลำละ 350 ล้านดอลลาร์ ต่อขึ้นตามข้อตกลงที่ลงนามกันระหว่างเวียดนาม และรัสเซีย เมื่อวันที่ 12 พ.ค.2549 โดยติดตั้งเทคโนโลยีสเตลท์เพื่ออำพรางตัวจากจอเรดาร์ของศัตรู และอาวุธทันสมัยที่สุดที่มีจากรัสเซีย รวมทั้งขีปนาวุธพื้นสู่อากาศ Sosna-R ระบบปืน AO-18KD 30 mm จำนวน 2 กระบอก ติดขีปนาวุธต่อสู้เรือผิวน้ำ และเรือดำน้ำแบบอูราน-อี (Ural-E) ระบบป้องกันการโจมตีทางอากาศแบบปาลมา (Palma) พร้อมลานจอดเฮลิคอปเตอร์ต่อต้านเรือดำน้ำ Ka-27 Helix.