ผู้บัญชาการกองทัพอเมริกันภาคพื้นแปซิฟิกแถลงที่รัฐสภาสหรัฐฯในวันพุธ (15 เม.ย.) ว่า ในที่สุดแล้วจีนอาจติดตั้งระบบเรดาร์และขีปนาวุธบนหมู่เกาะจำลองซึ่งกำลังสร้างขึ้นในทะเลจีนใต้ และประกาศเขตแสดงตนเพื่อการป้องกันภัยทางอากาศ (ADIZ) เหนือดินแดนที่เป็นข้อพิพาทกับเพื่อนบ้าน พร้อมกันนี้เขาชี้ว่า รัสเซียมีเคลื่อนไหวทหารในเอเชีย-แปซิฟิกเพิ่มขึ้นผิดหูผิดตาใกล้ๆ ระดับเดียวกับช่วงสงครามเย็น ทั้งนี้สอดคล้องกับที่ญี่ปุ่นก็รายงานว่า เครื่องบินไอพ่นแดนอาทิตย์อุทัยต้องรีบทะยานขึ้นสกัดอากาศยานจากจีนและรัสเซียเพิ่มขึ้นถึงระดับที่ไม่เคยปรากฏมาก่อนในรอบระยะเวลา 3 ทศวรรษ
พลเรือเอกแซมูเอล ล็อคเลียร์ ผู้บัญชาการของกองบัญชาการทหารอเมริกันภาคพื้นแปซิฟิก แถลงต่อคณะกรรมาธิการการทหารของสภาผู้แทนราษฎรสหรัฐฯ ว่า พฤติการณ์ที่จีนกำลังถมที่ถมทะเลและเดินหน้าโครงการก่อสร้างที่มั่นทางทหาร 8 แห่งกลางทะเลจีนใต้อยู่ในเวลานี้ ถือว่าเป็น “การก้าวร้าวรุกราน” โดยสิ่งซึ่งปักกิ่งกำลังทำอยู่นี้ มีทั้งการถมที่ถมทะเล “เป็นพื้นที่ใหญ่โตทีเดียว” ในหมู่เกาะสแปรตลีย์ และการปรับปรุงยกระดับสิ่งปลูกสร้างและสิ่งอำนวยความสะดวกต่างๆ ในหมู่เกาะพาราเซล
ทั้งนี้โครงการก่อสร้างในหมู่เกาะสแปรตลีย์ ครอบคลุมทั้งการขยายและยกระดับพื้นที่จอดเรือ รวมทั้งการสร้างสิ่งที่เชื่อกันว่าเป็นสนามบินบนเกาะปะการัง “เฟียรี ครอสส์” อันจะทำให้จีนสามารถนำเรือตรวจการณ์ไปประจำการในบริเวณดังกล่าวได้เพิ่มขึ้น ซึ่งเปิดทางให้ปักกิ่งสามารถแสดงอิทธิพลอย่างใหญ่โตในพื้นที่ซึ่งยังพิพาทแย่งชิงอยู่กับชาติอื่นๆ อยู่ รวมทั้งในที่สุดแล้วอาจนำไปสู่การติดตั้งประจำการอาวุธยุทโธปกรณ์อื่นๆ อย่างเช่นระบบเรดาร์พิสัยไกล กองทหาร และระบบขีปนาวุธขั้นสูง
ล็อคเลียร์เตือนว่า การดำเนินการดังกล่าวอาจกลายเป็นพื้นฐานรองรับสำหรับที่ปักกิ่งจะประกาศบังคับใช้เขตแสดงตนเพื่อการป้องกันภัยทางอากาศ (ADIZ)
ทั้งนี้ เมื่อปลายปี 2013 จีนได้ประกาศ ADIZ เหนือทะเลจีนตะวันออก โดยมีข้อกำหนดให้เครื่องบินทุกลำต้องรายงานตัวก่อนบินผ่านบริเวณดังกล่าว ทว่า ทั้งอเมริกา ญี่ปุ่น และอีกหลายประเทศต่างคัดค้านไม่ยินยอม
สำหรับทะเลจีนใต้ ถึงแม้ปักกิ่งปฏิเสธว่า ไม่ได้มีแผนประกาศ ADIZ เหนืออาณาบริเวณนี้ แต่การเร่งถมทะเลสร้างเครือข่ายหมู่เกาะจำลองขึ้นมาเช่นนี้ ก็ถูกหลายประเทศที่อ้างสิทธิ์ทับซ้อนกับจีน มองว่าเป็นสัญญาณเตือนภัย
พลเรือเอกแซมูเอล ล็อคเลียร์ ผู้บัญชาการของกองบัญชาการทหารอเมริกันภาคพื้นแปซิฟิก แถลงต่อคณะกรรมาธิการการทหารของสภาผู้แทนราษฎรสหรัฐฯ ว่า พฤติการณ์ที่จีนกำลังถมที่ถมทะเลและเดินหน้าโครงการก่อสร้างที่มั่นทางทหาร 8 แห่งกลางทะเลจีนใต้อยู่ในเวลานี้ ถือว่าเป็น “การก้าวร้าวรุกราน” โดยสิ่งซึ่งปักกิ่งกำลังทำอยู่นี้ มีทั้งการถมที่ถมทะเล “เป็นพื้นที่ใหญ่โตทีเดียว” ในหมู่เกาะสแปรตลีย์ และการปรับปรุงยกระดับสิ่งปลูกสร้างและสิ่งอำนวยความสะดวกต่างๆ ในหมู่เกาะพาราเซล
ทั้งนี้โครงการก่อสร้างในหมู่เกาะสแปรตลีย์ ครอบคลุมทั้งการขยายและยกระดับพื้นที่จอดเรือ รวมทั้งการสร้างสิ่งที่เชื่อกันว่าเป็นสนามบินบนเกาะปะการัง “เฟียรี ครอสส์” อันจะทำให้จีนสามารถนำเรือตรวจการณ์ไปประจำการในบริเวณดังกล่าวได้เพิ่มขึ้น ซึ่งเปิดทางให้ปักกิ่งสามารถแสดงอิทธิพลอย่างใหญ่โตในพื้นที่ซึ่งยังพิพาทแย่งชิงอยู่กับชาติอื่นๆ อยู่ รวมทั้งในที่สุดแล้วอาจนำไปสู่การติดตั้งประจำการอาวุธยุทโธปกรณ์อื่นๆ อย่างเช่นระบบเรดาร์พิสัยไกล กองทหาร และระบบขีปนาวุธขั้นสูง
ล็อคเลียร์เตือนว่า การดำเนินการดังกล่าวอาจกลายเป็นพื้นฐานรองรับสำหรับที่ปักกิ่งจะประกาศบังคับใช้เขตแสดงตนเพื่อการป้องกันภัยทางอากาศ (ADIZ)
ทั้งนี้ เมื่อปลายปี 2013 จีนได้ประกาศ ADIZ เหนือทะเลจีนตะวันออก โดยมีข้อกำหนดให้เครื่องบินทุกลำต้องรายงานตัวก่อนบินผ่านบริเวณดังกล่าว ทว่า ทั้งอเมริกา ญี่ปุ่น และอีกหลายประเทศต่างคัดค้านไม่ยินยอม
สำหรับทะเลจีนใต้ ถึงแม้ปักกิ่งปฏิเสธว่า ไม่ได้มีแผนประกาศ ADIZ เหนืออาณาบริเวณนี้ แต่การเร่งถมทะเลสร้างเครือข่ายหมู่เกาะจำลองขึ้นมาเช่นนี้ ก็ถูกหลายประเทศที่อ้างสิทธิ์ทับซ้อนกับจีน มองว่าเป็นสัญญาณเตือนภัย