เอเอฟพี - ญี่ปุ่นประกาศจะส่งกองกำลังป้องกันตนเองร่วมภารกิจซ้อมรบใหญ่กับสหรัฐฯและออสเตรเลียในเดือนกรกฎาคมนี้ ซึ่งนอกจากจะเป็นการเข้าร่วมครั้งแรกของแดนอาทิตย์อุทัยแล้ว ยังถือเป็นการขานรับยุทธศาสตร์ของวอชิงตันซึ่งต้องการผนึกกำลังชาติพันธมิตรในเอเชีย-แปซิฟิกเพื่อตอบโต้การขยายอิทธิพลของจีน
ญี่ปุ่นจะกองกำลังป้องกันตนเองภาคพื้นดิน (JGSDF) จำนวน 40 นายเข้าร่วมปฏิบัติการซ้อมรบภายใต้รหัส “ทาลิสแมน เซเบอร์” (Talisman Sabre) ซึ่งจัดขึ้นทุกๆ 2 ปี และกำลังจะเปิดฉากขึ้นในวันที่ 7 กรกฎาคมนี้ โดยมีทหารจาก 3 ชาติเข้าร่วมประมาณ 27,000 นาย
“ในส่วนของเราจะเป็นการซ้อมรบร่วมกับนาวิกโยธินสหรัฐฯ มากกว่าร่วมฝึกซ้อมกับกองทัพออสเตรเลียโดยตรง... แต่ภารกิจครั้งนี้ก็ถือได้ว่า เป็นส่วนหนึ่งของความพยายามกระชับความสัมพันธ์ด้านกลาโหมระหว่างญี่ปุ่นกับออสเตรเลีย” โฆษกกองกำลังป้องกันตนเองญี่ปุ่น ให้สัมภาษณ์
การซ้อมรบซึ่งจะจัดขึ้นในออสเตรเลีย “มีจุดมุ่งหมายเพื่อพัฒนาความเชี่ยวชาญด้านยุทธวิธีแบบสะเทินน้ำสะเทินบก และเสริมสร้างความเข้มแข็งในปฏิบัติการร่วมระหว่างญี่ปุ่นกับสหรัฐฯ”
การประกาศร่วมซ้อมรบของญี่ปุ่นมีขึ้นท่ามกลางบรรยากาศตึงเครียดในภูมิภาค ซึ่งมีสาเหตุสำคัญจากการที่จีนพยายามแผ่อิทธิพลเข้าสู่ทะเลจีนใต้ด้วยการสร้างหมู่เกาะเทียมในน่านน้ำพิพาท
สหรัฐฯ กำลังพิจารณาว่าจะส่งเรือรบและเครื่องบินลาดตระเวนเข้าไปในอาณาเขต 12 ไมล์ทะเลรอบแนวปะการังที่จีนใช้เป็นพื้นที่สร้างเกาะเทียม เพื่อประกาศยืนยันเสรีภาพในการบินและการเดินเรือ ทว่า วิธีตอบโต้เช่นนี้อาจนำมาซึ่งการเผชิญหน้าครั้งใหญ่ในน่านน้ำซึ่งเป็นเส้นทางเดินเรือสินค้าที่สำคัญของโลก
ปักกิ่งอ้างกรรมสิทธิ์เหนือน่านน้ำในทะเลจีนใต้เกือบทั้งหมด และจากภาพถ่ายดาวเทียมก็พบว่าจีนกำลังเร่งสร้างรันเวย์บนเกาะเทียมแห่งหนึ่งภายในอาณาเขตของหมู่เกาะสแปรตลีย์ ซึ่งฟิลิปปินส์ เวียดนาม และอีกหลายชาติอ้างอธิปไตยอยู่เช่นกัน
จีนยังขัดแย้งกับญี่ปุ่นเรื่องหมู่เกาะ “เซ็งกากุ” ในทะเลจีนตะวันออก ซึ่งแม้ญี่ปุ่นจะครอบครองอยู่ตามกฎหมาย แต่จีนก็อ้างความเป็นเจ้าของโดยเรียกหมู่เกาะเดียวกันนี้ว่า “เตี้ยวอี๋ว์”