เอเอฟพี - นักการทูตระดับสูงของสหรัฐฯ เรียกร้องพม่าในวันนี้ (22) ว่า การให้สิทธิความเป็นพลเมืองแก่ชนกลุ่มน้อยโรฮิงญาเป็นวิธีที่จะช่วยลดการอพยพข้ามอ่าวเบงกอลของผู้คนเป็นจำนวนมากในเวลานี้ได้
“พวกเขาควรมีหนทางที่จะเป็นพลเมือง” แอนโธนี บลิงเคน รัฐมนตรีช่วยกระทรวงการต่างประเทศสหรัฐฯ กล่าวต่อผู้สื่อข่าวในนครย่างกุ้งหนึ่งวันหลังการหารือกับผู้นำพม่าถึงวิกฤตที่กำลังดำเนินอยู่ และว่าความไม่แน่นอนที่มาจากการไม่มีสถานะใดๆ เป็นหนึ่งในหลายสิ่งที่อาจผลักดันให้ผู้คนอพยพออกมา
ชาวโรฮิงญา ในรัฐยะไข่ ทางภาคตะวันตกของพม่าเป็นหนึ่งในสาเหตุหลักของวิกฤตการอพยพยย้ายถิ่นในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้เวลานี้ พร้อมทั้งผู้ที่พยายามจะหลบหนีความยากจนในบังกลาเทศที่เพิ่มจำนวนขึ้นเรื่อยๆ
ชาวโรฮิงญา 1.3 ล้านคนในพม่า ไม่เป็นที่ยอมรับว่าเป็นพลเมืองของประเทศ โดยทางการพม่าระบุว่า คนเหล่านี้เป็นชาวบังกลาเทศอพยพเข้าเมืองผิดกฎหมาย แม้ว่าหลายคนจะอาศัยอยู่ในพม่ามาแล้วหลายชั่วอายุคนก็ตาม
บลิงเคน กล่าวว่า ข้อเท็จจริงที่ว่าโรฮิงญาเต็มใจที่จะนำชีวิตของตัวเองอยู่ในอันตรายจากการข้ามทะเลเป็นการสะท้อนสภาพในรัฐยะไข่ว่าเป็นสิ่งที่ทำให้ผู้คนต้องตัดสินใจเลือกเช่นนี้
“แม้ว่าเราจะจัดการต่อวิกฤต แต่เราก็ต้องจัดการกับต้นตอของปัญหาเพื่อที่จะบรรลุการแก้ปัญหาอย่างยั่งยืน ผมย้ำในที่ประชุมต่อรัฐบาลวานนี้ว่า ต้นตอของปัญหาของผู้อพยพยที่เดินทางออกจากพม่าคือ สถานการณ์ทางสังคม และการเมืองในรัฐยะไข่” บลิงเคน กล่าว
ความคิดเห็นของบลิงเคนมีขึ้นหลังรัฐมนตรีกระทรวงการต่างประเทศมาเลเซีย และอินโดนีเซียที่เป็นประเทศปลายทางของชาวโรฮิงญาได้พบกับเจ้าหน้าที่พม่าเมื่อวันพฤหัสบดี (21) เพื่อกดดันพม่าให้จัดการต่อปัญหาการอพยพของผู้คนเป็นจำนวนมากจากชายฝั่งประเทศ.