xs
xsm
sm
md
lg

โหดอำมหิต ภาพชุดสุดช็อกโลก 40 ปีสงครามเวียดนาม

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: MGR Online


การปลงสังขารเพื่อประโยชน์ของพระพุทธศาสนาโดยพระสงฆ์ชาวเวียดนามใต้รูปนี้ นับเป็นเหตุการณ์สำคัญแห่งศตวรรษที่ 20 เหตุการณ์นี้ได้ช่วยโหมกระพือความเกลียดชังของประชาชนต่อรัฐบาลสาธารณรัฐเวียดนาม หรือ “เวียดนามใต้” ในอดีต ที่มีสหรัฐฯ อยู่เบื้องหลัง.


ASTVผู้จัดการออนไลน์ - ทั่วทั้งเวียดนามกำลังจะฉลองใหญ่ในชั่วโมงข้างหน้านี้ เหตุการณ์ประวัติศาสตร์ วันที่ 30 เม.ย.2518 ที่ฝ่ายคอมมิวนิสต์บุกเข้ายึดกรุงไซ่ง่อน เมืองหลวงของเวียดนามใต้ หรือสาธารณรัฐเวียดนามเมื่อก่อน ซึ่งถือเป็นฉากสุดท้ายของสงครามเวียดนาม และนำไปสู่การรวมประเทศให้เป็นหนึ่งเดียวในปีถัดมา แต่ก่อนจะถึงวันนี้ทุกอย่างเป็นการทำลายล้าง

ช่วง 4 ทศวรรษที่ผ่านมา สื่อต่างๆ ทั่วโลกได้ตีพิมพ์เผยแพร่รูปภาพที่ถ่ายจากสมรภูมิจำนวนมาก รวมทั้งจำนวนหนึ่งที่ดูแล้วจะไม่มีวันลืม กลายเป็นภาพติดตา และติดอยู่ในจิตสำนึก รวมทั้งภาพ “หนูน้อยนาปาล์ม” และภาพพระภิกษุรูปหนึ่งใช้น้ำมันเบนซินราดตัวเองก่อนจุดไฟเผา ประท้วงรัฐบาลเวียดนามใต้ที่กดขี่ปราบปรามชาวพุทธในยุคนั้น กับอีกภาพหนึ่งที่นายตำรวจเวียดนามใต้ ใช้อาวุธปืนสั้นจ่อยิงเข้าที่ศีรษะผู้ต้องสงสัยเป็นสายลับของเวียดกงคนหนึ่ง เหตุการณ์นี้เกิดขึ้นเวลากลางวันแสกๆ ต่อหน้าผู้สื่อข่าว ช่างภาพ และชาวบ้านร้านตลาดทั่วไปอีกจำนวนมาก

ภาพเหล่านั้นได้กลายเป็นสัญลักษณ์ของสงครามในเวียดนามที่กินเวลายาวนานถึง 30 ปี และยังมีอีกหลายภาพที่ไม่สมควรนำออกเผยแพร่ไม่ว่ากรณีใดๆ รวมทั้งภาพทหารอเมริกันคนหนึ่ง หิ้วศีรษะของชายผู้หนึ่งที่เขายิงสังหาร เนื่องจากเชื่อว่าเป็นสายลับฝ่ายเวียดกงในเวียดนามใต้เมื่อก่อนนี้ หรือแม้แต่เหตุการณ์สังหารหมู่ประชาชนกว่า 400 คน ที่หมู่บ้านหมีลาย (My Lai) ซึ่งกลายเป็นโศกนาฏกรรมกระฉ่อนโลก

ภาพทั้งหมดที่นำมาเสนอนี้เป็นฝีมือของช่างภาพสงคราม ทั้งช่างภาพอิสระ และในสังกัดสำนักข่าวต่างประเทศหลายสำนัก ซึ่งมีการเผยแพร่กันหลายทอด ผ่านสื่อต่างๆ ในหลายยุคหลายสมัย จนกลายเป็นสมบัติสาธารณะไปในที่สุด ทั้งหมดได้กลายเป็นภาพติดตา และช็อกคนทั้งโลก.
.
<FONT color=#000033>พระภิกษุถิกกวางดึ๊ก (Thich Quang Duc) ให้พระผู้เป็นศิษย์รูปหนึ่งเป็นผู้ราดน้ำมันเบ็นซิน ก่อนจุดไฟ เป็นการเผาตัวเองประท้วงการกดขี่ปราบปรามชาวพุทธ โดยรัฐบาลประธานาธิบดีโงดี่งเยียม (Ngo Dinh Diem) แห่งเวียดนามใต้เมื่อก่อน เป็นเหตุการณ์วันที่ 11 มิ.ย. พ.ศ.2506 ในขณะสงครามระหว่างเวียดนามเหนือกับเวียดนามใต้ ที่มีสหรัฐหนุนหลังเริ่มคุกรุ่น เหตุการณ์นี้เกิดขึ้นกลางสี่แยกใหญ่ที่ผู้คนจอแจในกรุงไซ่ง่อน พระคุณเจ้าท่านนี้ปลงสังขารอย่างสงบนิ่งในท่ามกลางเปลวเพลิงร้อน สร้างความแปลกประหลาดใจ ให้แก่บรรดาศิยานุศิษย์ เจ้าหน้าที่รัฐ และ บรรดาผู้ที่ผ่านไปพบเห็น นับเป็นเหตุการณ์ที่ติดตาผู้คนแห่งยุค และ ช็อกคนทั้งโลก. -- ภาพ: สำนักข่าวเอพี.  </font></b>
1
<FONT color=#000033>พล.ต.เหวียนวันลวาน (Nguyen Van Loan) หัวหน้าตำรวจฝ่ายความมั่นคงของรัฐบาลไซ่ง่อน จ่อปืนที่ศรีษะ ก่อนลั่นไกยิงสังหาร นายเหวียนวันแหล็ม (Nguyen Van Lem) ที่ต้องสงสัยว่า จะเป็นสายลับของฝ่ายเวียดกง เป็นเหตุการณ์เมื่อวันที่ 1 ก.พ.2511 เพียงไม่นานหลังจากสหรัฐส่งทหารเข้าเวียดนามใต้ เปิดฉากสงครามกับเวียดเหนือเต็มรูปแบบ  และ ยังเกิดขึ้นไม่นานก่อนจะเกิดเหตุการณ์ที่เรียกกันว่า การรุกรบใหญ่วันตรุษ หรือ Tet Offensive ภาพนี้ได้กลายเป็นเหตุการณ์ช็อกโลกในอีกไม่กี่วันถัดมา. --  สำนักข่าวเอพี. </font></b>
2
<FONT color=#000033>หนูน้อยเหวียนถิกิมฟุก (Nguyen Thi Kin Phuc) วัย 9 ขวบ ด้วยความตกใจสุดขีด วิ่งเตลิดหนีระเบิดนาปาล์ม ที่สหรัฐทิ้งลงในเขตหมู่บ้านจางบ่าง (Trang Bang)  ใน จ.เตยนีง (Tay Ninh) ทางตอนเหนือของกรุงไซ่ง่อนเมื่อก่อน หนูน้อยไม่สวมเสื้อผ้า เนื่องจากถูกไฟไหม้จากระเบิด แผ่นหลังของเธอเป็นแผลไหม้กว้างอันเนื่องจาก ไฟนาปาล์ม เป็นเหตุการณ์วันที่ 6 ส.ค.2515 ขณะสงครามเวียดนามทวีความรุนแรง และ เข้าสู่ขั้นตอนสุดท้าย ภาพที่รู้จักกันในชื่อ หนูน้อยนาปาล์ม ถ่ายโดยนิก อึ๊ต (Nick Ut) ช่างภาพสำนักข่าวเอพี และ กลายเป็นภาพรางวัลพูลิตเซอร์ในปีถัดมา เป็นอีกภาพหนึ่งที่โหมไฟ ให้แก่ขบวนการต่อต้านสงครามเวียดนามในสหรัฐ. -- สำนักข่าวเอพี.   </font></b>
3
<FONT color=#000033>คุณพ่อชาวนาที่อยู่ในอาการตกตะลึง ไม่รู้จะทำอย่างไร อุ้มร่างไร้วิญญาณของลูกน้อย ที่ตกเป็นเหยื่อการทิ้งระเบิดของสหรัฐ ที่หมู่บ้านแห่งหนึ่งใกล้กับกรุงไซ่ง่อน เข้าไปขอความช่วยเหลือ จากทหารกองทัพรัฐบาลเวียดนามใต้ที่ผ่านไป ซึ่งทุกคนได้แต่มองดู กลายเป็นภาพเรียกน้ำตาจากผู้คนค่อนโลก เป็นเหตุการณ์วันที่ 19 มี.ค.2507 ที่สหรัฐกับรัฐบาลเวียดนามใต้ออกกวาดล้างกองกำลังเวียดกงอย่างหนักข้อ. -- สำนักข่าวเอพี.  </font></b>
4
<br><FONT color=#000033>ทหารอเมริกันใช้เชือกล่ามศพ นักรบเวียดกงที่ถูกสังหารคนหนึ่ง ก่อนใช้รถลำเลียงพลลากไปตามทางเพื่อหาที่ทิ้ง เป็นเหตุการณ์เมื่อวันที่ 18 ส.ค.2509 หลังจากการสู้รบที่หมู่บ้านลองเติ่น (Long Tan) ทางตอนใต้เมืองหวุงต่าว (Vung Tau) จ.หวุงต่าว-กงด๋าว (Vung Tau-Cong Dao) เมื่อก่อนนี้ ซึ่งก็คือ จ.บ่าเหรียะ-หวุงต่าว (Ba Ria-Vung Tau) ในวันนี้ เป็นภาพที่คนทั้งโลกประณามว่า ป่าเถื่อน, โหดเหี้ยม, อำมหิต กับอีกสารพัด. -- สำนักข่าวยูพีไอ. </font></b>
5
<FONT color=#000033>ภาพถ่ายวันที่ 6 ส.ค.2514 ที่หมู่บ้านจางบ่าง จ.เตยนีง เป็นเหตุการณ์เดียวกันกับในภาพ หนูน้อยนาปาล์ม คุณยายอุ้มหลานตัวน้อย ที่ลำตัวเต็มไปด้วยแผลไฟไหม้ จากระเบิดนาปาล์มที่สหรัฐทิ้งลงในเขตหมู่บ้าน เดินร้องขอความช่วยเหลือจากผู้ผ่านไปมา ความสงสารเด็กน้อย และ เห็นอกเห็นใจผู้เป็นยายที่อยู่ในอาการตื่นตระหนก ทำให้ภาพนี้กลายเป็นภาพสะเทือนใจคนทั้งโลก.  -- สำนักข่าวเอพี. </font></b>
6
<FONT color=#000033>ภาพเหตุการณ์วันที่ 10 พ.ค.2508 ทหารเวียดนามใต้คนหนึ่ง เตะเข้าที่ใบหน้านักรบเวียดกงที่ถูกจับเป็นเชลย ในขณะที่เพื่อนทหารอีกคนหนึ่งกำลังมัดมือ ดูเผินๆ นับเป็นเรื่องปรกติธรรมดาในเหตุการณ์สู้รบทั่วไป ถึงแม้จะผิดกฎกติกาไปบ้างก็ตาม แต่สีหน้าของคนในภาพทั้งสองฝ่าย ได้แสดงให้เห็นความเคียดแค้นชิงชัง ระหว่างคนชาติเดียวกัน ขณะอีกฝ่ายหนึ่งตกอยู่ภายใต้การครอบงำของกองทัพต่างชาติ เหตุการณ์นี้ได้ช่วยเร่งวันเร่งคืนให้ สงครามกับสหรัฐ ไปสู่จุดจบ ถึงแม้ว่าศึกเพิ่งจะเริ่มขึ้นเมื่อไม่นานก็ตาม. </font></b>
7
<FONT color=#000033>ภาพเหตุการณ์ในปี 2508 คุณแม่ชาว จ.บี่งดิง (Binh Dinh) ที่อยู่ทางตอนเหนือของกรุงไซ่ง่อน พาลูกๆ ของเธอ 4 คนเสี่ยงชีวิตว่ายน้ำ ข้ามแม่น้ำสายหนึ่ง หนีการทิ้งระเบิดของฝ่ายสหรัฐ ไม่ต้องสงสัยเลย ภาพนี้ทำให้ชาวโลกรู้สึกไม่สมประกอบทางอารมณ์เป็นอย่างมาก และ ยังช่วยเติมไฟให้แก่ขบวนการต่อต้านสงครามเวียดนามที่เริ่มก่อตัว ทั้งในสหรัฐและในประเทศกับดินแดนต่างๆ ทั่วโลก. -- สำนักข่าวยูพีไอ.  UPI</font></b>
8
กำลังโหลดความคิดเห็น