ASTVผู้จัดการออนไลน์ - ช้างชราเพศผู้เชือกหนึ่งได้สิ้นชีวิตลง ในจังหวัดเขตที่ราบสูงภาคกลางเวียดนามสุดสัปดาห์นี้ ซึ่งเป็นข่าวที่ทำให้ชาวโลกออนไลน์ในเวียดนามตกอยู่ในอาการเศร้าสลด เมื่อทราบความจริงว่า ช้างพลายวัย 40 ปีเศษ ถูกใช้ทำงานหนัก พานักท่องเที่ยวตระเวนชมธรรมชาติในเขตเขาโดยไม่ได้หยุดพัก จนอ่อนเพลีย และหมดแรงล้มทรุดลงขาดใจตายกับที่
ตามรายงานของซิงออนไลน์ สำนักข่าวภาษาเวียดนามยอดนิยมอีกแห่งหนึ่ง ช้างพลายเชือกนี้ สิ้นลมตอนสายอาทิตย์ 8 มี.ค. โดยค่อยๆ ทรุดตัวลง ในขณะมีนักท่องเที่ยวนั่้่งอยู่บนหลัง 3 คน ก่อนจะหมดลมหายใจไปต่อหน้าตาคนทั้งหมด รวมทั้งควาญช้างที่ไม่สามารถจะช่วยเหลืออะไรได้ เจ้าของคือ นายอีกาตึ๊ก (Y Ka Tứk) ได้รายงานไปยังเจ้าหน้าที่ทางการในระดับท้องถิ่น เพื่อไปชันสูตรศพตามกฎหมาย
เหตุเกิดที่หมู่บ้านโดน คอมมูนเบือนโดน จ.ดั๊กลัก ซึ่งเป็นเขตที่มีประชากรกลุ่มชาติพันธุ์หลายเผ่าพันธุ์อาศัยอยู่ คนเหล่านี้เป็นนักคล้องช้างป่า และประกอบอาชีพเลี้ยงช้างเพื่อลากซุงสืบทอดกันมา ด้วยพื้นที่เป็นป่าเขา และหุบเขาที่มีเขตแดนติดกับภาคใต้ลาว กับภาคตะวันออกเฉียงเหนือของกัมพูชา บริเวณนี้มีช้างป่าชุกชุมที่สุด อาศัยอยู่กันเป็นโขลงใหญ่เชื่อว่ามีอยู่หลายสิบเชือก
ในช่วงสงครามยังมีช้างป่าอาศัยอยู่ในบรเวณนี้นับร้อยเชือก จำนวนได้ค่อยๆ ลดลงเนื่องจากมีการลักลอบล่าเพื่อตัดงาขาย และล่าออกจากป่าเพื่อขาย ซึ่งนิยมนำไปใช้แรงงานในภาคการเกษตรและป่าไม้ในประเทศเพื่อนบ้าน
อย่างไรก็ตาม กว่า 10 ปีมานี้ทางการคอมมิวนิสต์เวียดนามได้เข้ากำกับดูแลห้ามการคล้องช้างป่า และนำช้างออกจากป่าอีก แต่ก็อนุญาตให้เป็นเจ้าของช้างที่มีในครอบครองอยู่แล้วได้ต่อไป รัฐบาลยังได้ทุ่มงบประมาณเข้าสู่ภูมิภาคนี้ปีละหลายร้อยล้านด่ง รณรงค์การอนุรักษ์ช้าง แต่ก็ไม่มีความคืบหน้ามากนัก ช้างยังถูกใช้งานหนักต่อไปในบริการด้านการท่องเที่ยวซึ่งรายได้ดี และยังมีช้างล้มตายลงเพราะถูกใช้งานหนักเป็นประจำทุกปี
สำหรับช้างพลายที่ไม่ทราบชื่อนี้ เจ้าของซื้อมาในราคา 700 ล้านด่ง (ราว 107,500 บาท) เมื่อประมาณ 20 ปีที่แล้ว และใช้งานในไร่ตลอดมา จนกระทั่งช่วงปีหลังๆ เมื่อการท่องเที่ยวในเขตที่ราบสูงภาคกลางเฟื่องฟู ช้างจึงถูกนำไปใช้รับจ้างพานักท่องเที่ยวชมธรรมชาติอันสวยงาม ทั้งในเขตหมู่บ้าน และคอมมูนแห่งนั้น ซิงออนไลน์กล่าว
.
.
นายสัตวแพทย์ผู้เชี่ยวชาญ พร้อมด้วยเจ้าหน้าที่จากอำเภอได้เดินทางไปยังหมู่บ้านโดน ชันสูตรศพช้างพลาย และให้สัมภาษณ์ในเวลาต่อมา ยืนยันว่า ช้างเสียวิตลงเพราะความอ่อนเพลีย เนื่องจากอายุมาก และถูกใช้งานหนักเกินไป ซึ่งเป็นไปตามที่่ประชานในท้องถิ่นคาดเอาไว้
เมื่อปีที่แล้ว องค์กรภาคเอกชนที่ไม่สังกัดรัฐบาลแห่งหนึ่ง ได้เริ่มการรณรงค์ชักชวนนักท่องเที่ยว เลิกนั่งหลังช้างเที่ยว โดยพุ่งเป้ามายังประเทศในอนุภูมิภาคแม่น้ำโขง รวมทั้งไทย ลาว พม่า กัมพูช่า และเวียดนาม ที่การท่องเที่ยวเชิงธรรมชาติได้รับความนิยมอย่างสูง
องค์กรดังกล่าวได้ชี้ให้เห็นว่า ช้างมักจะถูกล่ามโซ่ตีตรวน ถูกกักขัง ถูกทุบตี ทรมานทั้งทางกายและจิตใจ เพื่อให้เชื่องให้รับใช้การท่องเที่ยว บางท้องถิ่นยังมีการลักลอบจับลูกช้างออกจากป่า พรากลูกจากแม่ตั้งแต่ยังเล็กๆ เพื่อนำไปฝึกเพื่อจุดประสงค์เชิงพาณิชย์ดังกล่าวอีกด้วย.
.