นครโฮจิมินห์ขอร้องนักท่องเที่ยวเจอขอ “อย่าให้” เปิดแผนรณรงค์เขตปลอดขอทาน

ASTVผู้จัดการออนไลน์ - ทางการนครโฮจิมินห์ ได้ออกประกาศขอร้องมิให้นักท่องเที่ยวชาวต่างชาติ และบุคคลทั่วไปยุติการ “ให้” แก่คนขอทานที่พบเห็นตามท้องถนน หรือสถานที่ใดก็ตาม นอกจากนั้น ยังได้จัดเตรียมอีกหลายมาตรการรองรับในแผนการกวาดล้างขอทานในรูปแบบต่างๆ ให้พ้นจากสายตาของสาธารณชน รวมทั้งห้ามพระสงฆ์ออกเรี่ยไรนอกเหนือจากการออกบิณฑบาตปกติ ทั้งนี้เพื่อกำจัด “พระปลอม” อีกด้วย

ไม่เพียงแต่เป็นการรณรงค์เพื่อกำจัดขอทานออกจากท้องถนนเท่านั้น นครโฮจิมินห์ กำลังจะจัดการกับคนเร่รอน คนไร้หัวนอนปลายเท้า ไร้ที่อยู่อาศัย ซึ่งทั้งหมดนี้อยู่ในแผนการทำให้บ้านเมืองสะอาด และดูศิวิไลซ์ยิ่งขึ้น ทางการนครได้ติดประกาศหมายเลขโทรศัพท์ “ฮอตไลน์” จำนวนหนึ่ง ขอความร่วมมือให้สาธารณชนช่วยเป็นหูเป็นตา และให้ข้อมูลข่าวสารแก่หน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เพื่อเปิดโอกาสให้ทุกคนเข้ามีส่วนร่วมในการรณงค์ ซึ่งจะเริ่มตั้งแต่สัปดาห์นี้เป็นต้นไป สื่อของทางการรายงาน

ทางการนครได้จัดตั้ง “ศูนย์ช่วยเหลือทางสังคม” ขึ้นมา เพื่อรองรับขอทานกับคนจรจัด จัดแพทย์และพยาบาลเพื่อให้ความช่วยเหลือทางการแพทย์แก่ผู้ที่ป่วยทางจิตประสาทในระยะสั้น กับโครงการรักษาในระยะยาว จัดเตรียมสถานฟื้นฟู และฝึกอาชีพให้แก่บุคคลเหล่านั้น

คนขอทานกับคนไร้ที่อยู่อาศัยส่วนใหญ่มักจะไปจากต่างจังหวัด จะได้รับการอบรม ให้ความช่วยเหลือในเบื้องต้น รวมทั้งให้แหล่งพักพิง แต่หลังจากนั้น จะถูกส่งกลับไปให้อยู่อาศัยกับครอบครัวหรือญาติๆ ที่ภูมิลำเนาเดิม บุคคลใดที่กลับไปประพฤติผิดซ้ำ จะถูกนำเข้าศูนย์บำบัดและฝึกอบรมอาชีพในระยะยาว สื่อออนไลน์หลายสำนักรายงานในวันจันทร์ 22 ธ.ค. อ้างประกาศฉบับหนึ่งของทางการนครโฮจิมินห์

ก่อนหน้านี้นโยบาย “เขตปลอดขอทาน” ได้เริ่มขึ้นที่นครด่าหนัง เมืองท่องเที่ยวชายทะเลสำคัญในภาคกลางของประเทศ ซึ่งปรากฏว่าได้ผลดี โซฮาออนไลน์กล่าว

สมาคมพุทศาสนิกสัมพันธ์ และสมาคมชาวคริสต์ทั่วประเทศ รวมทั้งสำนักงานสังฆนายก ได้ให้ความร่วมมือประสานการดำเนินนโยบายนี้ โดยห้ามมิให้พระสงฆ์ นักบวช หรือสมาชิกของสมาคมทางศาสนาใดๆ ออกเรี่ยไรเงินทอง และปัจจัยต่างๆ โดยอ้างกิจทางศาสนา ทั้งนี้เป็นมาตรการหนึ่งในการจัดการต่อกลุ่มคนที่นุ่งห่มคล้ายสงฆ์ หรือนักบวชที่ออกเรี่ยไรตามท้องถนน สร้างความรำคาญ และความเดือดร้อนให้แก่สาธารณชน

ยังมีอีกหลายโครงการที่ทางการนครออกมาเพื่อรณรงค์ในครั้งนี้ ซึ่งทุกโครงการล้วนแต่ปฏิบัติได้ และมุ่งแก้ไขปัญหาอย่างยั่งยืน นอกจากนั้น ยังเรียกร้องให้ทั่วทั้งสังคม รวมทั้งภาคเอกชนได้เข้าไปมีส่วนร่วมอีกด้วย โซฮาออนไลน์รายงาน.