xs
xsm
sm
md
lg

10 ปีผ่านไปฝันร้ายสึนามิอันดามันยังตามหลอนแรงงานพม่า

เผยแพร่:   โดย: MGR Online

<bR><FONT color=#00003>ภาพถ่ายวันที่ 4 ธ.ค.2557 หลุมฝังศพนิรนาม เหยื่อคลื่นสึนามิก่อนภายในสุสานบ้านบางม่วง  จ.พังงา  เชื่อกันว่ามีแรงงานชาวพม่าราว 2,000 คน เสียชีวิตในภัยพิบัติครั้งร้ายแรงที่สุดครั้งหนึ่งของโลก โดยที่ไม่มีผู้ใดสังเกต โศกนาฏกรรมครั้งนั้่นยังอยู่ในความทรงจำ และ ตามหลอกหลอนแรงงานพลัดถิ่นจากประเทศเพื่อนบ้านตลอดมา. -- Agence France-Presse/Nicolas Asfouri.</b>

บ้านน้ำเค็ม (ไทย) - หนึ่งทศวรรษหลังจากคลื่นสูงเท่าตึกพัดเอาลูกน้อยที่เพิ่งเกิด ไปจากอ้อมแขนของเธอ ความทรงจำเกี่ยวกับการสูญเสียยังคงตามหลอกหลอนหมี่เถย (Mi Htay) ทารกน้อยก็ไม่ต่างกับแรงงานอพยพชาวพม่าอีกนับร้อยๆ ซึ่งจนบัดนี้ก็ยังไม่ตามหาศพไม่เจอ

ไม่มีผู้ใดทราบแน่นอนว่า เมื่อคลื่นสึนามิถาโถมเข้าสู่ภาคตะวันตกเฉียงใต้ของไทยนั้นมีแรงงานชาวพม่าตายไปกี่คน ทั้งนี้ แม้เวลาจะผ่านไปหลายวัน หรือหลายสัปดาห์ หลังเหตุการณ์วันที่ 26 ธ.ค.2547 คนงานรวมทั้งบรรดาญาติๆ ที่ไม่มีใบอนุญาตทำงาน ต่างก็ไม่กล้าออกปรากฏตัว ด้วยเกรงว่าจะถูกจับกุม และถูกเนรเทศ

ประมาณกันว่า มีแรงงานจากพม่าซึ่งเป็นเพื่อนบ้านของไทยเสียชีวิตไปราว 2,000 คน เป็นความตายที่ผ่านไปโดยไม่มีผู้ใดเห็น หรือสังเกต ขณะที่กล้องของสถานีโทรทัศน์แห่งต่างๆ ต่างก็จับไปยังเหยื่อที่เป็นนักท่องเที่่ยวต่างประเทศกับคนไทย

ในบรรดาคนเหล่านั้นยังรวมทั้งทารกวัย 8 วัน ของหมี่เถย ซึ่งยังเล็กเกินไป แม้แต่ชื่อก็ยังไม่ได้ตั้ง กับลูกของเธออีก 2 คน ที่ยังเด็กเช่นกัน และแม่ของเธอกับหลายอีกคน

ถึงแม้ว่าจะมีความทรงจำที่เจ็บปวดก็ตาม หมี่เถย กลับไปยังบ้านน้ำเค็ม หมู่บ้านเล็กๆ ชายทะเลใน จ.พังงา อีกครั้งหนึ่ง ในอีกประมาณหนึ่งปีถัดมา เพื่อหางานทำในอุตสาหกรรมประมงท้องถิ่น

“ตอนที่ฉันทำงาน ฉันพอจะลืมเรื่องที่เกิดขึ้นได้” หมี่เถย ซึ่งปัจจุบันอายุ 40 ปี กล่าวต่อเอเอฟพี ชี้ไปยังจุดที่คลื่นกระชากทารกแรกเกิดไปจากอ้อมกอด แรงเกินกว่าจะไขว่คว้าเอาไว้ได้

“แต่เมื่อฉันได้เห็นครอบครัวอื่นออกไปหาอะไรทานกันฉันรู้สึกเศร้า ถ้าหากพวกเขายังมีชีวิตอยู่ เราก็คงได้ออกไปเช่นนี้เหมือนกัน ฉันไม่สามารถจะลืมได้แม้สักวันเดียว”

ในปี 2549 หมี่เถย ซึ่งลูกชายของเธออีก 2 คนรอดชีวิตจากภัยพิบัติ ได้รับแจ้งว่า มีการตรวจพบศพของแม่กับหลานของเธอ ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งในการสืบสวนสอบสวนทางอาชวิทยาครั้งใหญที่สุดครั้งหนึ่งของโลก

สีนามิในมหาสมุทรอินเดีย ที่เกิดจากแผ่นดินไหวที่มีความรุนแรงเป็นอันดับที่ 3 เท่ามีการบันทึกไว้ ทำให้มีผู้เสียชีวิตกว่า 220,000 คน เป็นเหตุภัยพิบัติรุนแรงมากที่สุด และกินอาณาเขตทางภูมิศาสตร์กว้างขวางมากที่สุดในโลก กว่า 3,000 ศพ ที่ผ่านการตรวจระบุตัวตนด้วยดีเอ็นเอ หรือลายนิ้วมือ โดยผู้เชี่ยวชาญทั้งชาวไทย และจากต่างประเทศ ได้ส่งมอบให้แก่ครอบครัวในหลายประเทศทั่วโลก

แต่ลูกๆ ทั้ง 3 คนของ หมี่เถย ไม่ได้รวมอยู่ในนั้น

“ฉันสรุปเอาเองว่า พวกเขาตายแล้ว แต่อาจจะยังมีชีวิตอยู่ก็ได้ เพราะยังไม่มีใครพบศพ หรือไม่พวกเขาอาจจะอยู่รวมกับคนอื่นๆ ก็ได้ ฉันคิดอย่างนี้” หมี่เถย กล่าว.
.
<bR><FONT color=#00003>หมี่เถย (Mi Htay) นั่งเหม่อมองออกไปยังท้องทะเล ที่ริมหาดทรายใกล้บ้านของเธอ ที่บ้านน้ำเค็ม จ.พังงา ซึ่งเมื่อ 10 ปีก่อนคลื่นสึนามิที่ถาโถมเข้าฝั่งบริเวณนี้ ได้พัดเอาลูกน้อยวัย 8 วันของเธอออกไปจากอ้อมกอด พร้อมซัดเอาลูกอีก 2 คนของเธอไปด้วย จนบัดนี้ก็ยังหาศพไม่เจอ แต่เธอสรุปเอาเองว่าทั้งหมดได้เสียชีวิตไปแล้ว เหลือเพียงความทรงจำที่ปวดร้าว. -- Agence France-Presse/Nicolas Asfouri.</b>
กำลังโหลดความคิดเห็น