xs
xsm
sm
md
lg

ปินส์ยินดีเวียดนามยื่นศาลยูเอ็นแก้ปัญหาขัดแย้งทางทะเลกับจีน

เผยแพร่:   โดย: MGR Online

<br><FONT color=#000033>ภาพถ่ายเมื่อวันที่ 14 พ.ค.2557 เผยให้เห็นเรือรักษาการณ์ชายฝั่งของจีน (ด้านหลัง) ลอยลำอยู่ถัดจากเรือรักษาการณ์ชายฝั่งของเวียดนาม (ด้านหน้า)  ใกล้แท่นขุดเจาะน้ำมันของจีนในน่านน้ำพิพาทในทะเลจีนใต้.-- Agence France-Presse/Hoang Dinh Nam.</font></b>

รอยเตอร์ - ฟิลิปปินส์เผยว่า การร้องความช่วยเหลือจากอนุญาโตตุลาการของเวียดนามในข้อขัดแย้งดินแดนในทะเลจีนใต้กับจีน ดังเช่นที่ฟิลิปปินส์ดำเนินการไว้ก่อนหน้านี้จะเป็นการช่วยรับประกันสันติภาพ แม้ปักกิ่งปฏิเสธที่จะเข้าไปมีส่วนร่วมในกระบวนการก็ตาม

ปักกิ่ง อ้างสิทธิอธิปไตยเหนือน่านน้ำเกือบทั้งหมดของทะเลจีนใต้ที่อุดมด้วยพลังงาน แต่บรูไน มาเลเซีย ฟิลิปปินส์ เวียดนาม และไต้หวัน ต่างก็อ้างสิทธิบางส่วนในพื้นที่ดังกล่าวเช่นกัน โดยมีเพียงบรูไนเท่านั้นที่ไม่ได้ส่งทหารเข้าประจำการในดินแดนพิพาทที่เป็นจุดอ่อนไหวของภูมิภาค

เมื่อวันพฤหัสบดี (11) เวียดนาม ได้ยื่นอนุญาโตตุลาการระหว่างประเทศ ที่เริ่มต้นโดยฟิลิปปินส์ เกี่ยวกับข้อขัดแย้งน่านน้ำ ซึ่งจีนเรียกร้องให้เวียดนามเคารพสิทธิอธิปไตยของจีน และปฏิเสธอนุญาโตตุลาการ

“จุดยืนของเวียดนามเป็นประโยชน์ในแง่ของการส่งเสริมกฎหมาย และการแสวงหาสันติภาพและการแก้ปัญหาโดยไม่ใช้ความรุนแรงต่อการอ้างสิทธิในทะเลจีนใต้บนพื้นฐานของกฎหมายระหว่างประเทศ” กระทรวงการต่างประเทศของฟิลิปปินส์ ระบุ

“นี่เป็นการส่งเสริมสันติภาพ และเสถียรภาพในภูมิภาคของเรา”

จีน เวียดนาม และฟิลิปปินส์ ได้ลงนามในอนุสัญญาสหประชาชาติว่าด้วยกฎหมายทางทะเล อันเป็นข้อตกลงระหว่างประเทศที่มอบสิทธิในการสำรวจและใช้ประโยชน์ทรัพยากรภายในพื้นที่ 200 ไมล์ทะเลจากชายฝั่งประเทศ ซึ่งทั้งฮานอย และมะนิลา ระบุว่า ปักกิ่งขยายพื้นที่เกินขอบเขตที่กำหนดไว้

ในเดือน พ.ค. จีนได้นำแท่นขุดเจาะน้ำมันขนาดใหญ่เข้ามาติดตั้งใกล้ชายฝั่งของเวียดนามในบริเวณหมู่เกาะพาราเซล ที่ก่อให้เกิดการชุมนุมประท้วงต่อต้านกิจการชาวจีน ในเวลาเดียวกัน ปักกิ่งเริ่มบุกเบิกพื้นที่ในหมู่เกาะสแปร็ตลีย์ และสร้างเส้นทางวิ่งเครื่องบินในพื้นที่พิพาท

ปักกิ่ง ยังได้ยึดควบคุมสันดอนสกาโบโร ใกล้เกาะลูซอนของฟิลิปปินส์ และขับไล่เรือพลเรือนที่คอยส่งเสบียงไปยังสันดอนโทมัสที่สอง ที่ฟิลิปปินส์ครอบครองอยู่ในหมู่เกาะสแปร็ตลีย์

ฟิลิปปินส์ และเวียดนามหันมาไว้วางใจกันมากขึ้น โดยเมื่อปีก่อน ทั้งสองฝ่ายได้จัดการหารือระหว่างกองทัพเรือของสองประเทศเป็นครั้งแรก และเมื่อเดือนก่อน ฮานอยยังนำเรือฟรีเกตติดจรวดนำวิถีทรงพลังที่สุดของประเทศสองลำไปเยือนกรุงมะนิลา และทั้งสองประเทศยังจะจัดการเจรจาทางยุทธศาสตร์เป็นครั้งแรกในต้นปีหน้าอีกด้วย

“ความเห็นด้านกฎหมายของเวียดนามจะให้น้ำหนักทางการเมืองต่อคดีความทางกฎหมายของฟิลิปปินส์ สิ่งที่เวียดนามทำนั้นมีผลในด้านการสนับสนุน ยืนยัน และเสริมการดำเนินการด้านกฎหมายของฟิลิปปินส์ และส่งผลดีต่อประโยชน์ของชาติเรา” นักวิเคราะห์ด้านความมั่นคง กล่าว.
กำลังโหลดความคิดเห็น