รอยเตอร์ - การเปลี่ยนแปลงของพม่าจากระบอบการปกครองของทหารไม่ได้รวดเร็วอย่างที่หวัง และรัฐบาลกำลังถอยหลังในการปฏิรูปบางส่วน ประธานาธิบดีบารัค โอบามา กล่าวในการให้สัมภาษณ์ซึ่งตีพิมพ์ลงในสื่อของพม่าเมื่อวันพุธ (12)
โอบามา อ้างว่าการทำร้าย และสังหารชนกลุ่มน้อยชาวมุสลิมโรฮิงญา การปราบปรามผู้สื่อข่าว และรายงานเกี่ยวกับการละเมิดสิทธิมนุษยชนในพื้นที่ชาติพันธุ์ชนกลุ่มน้อยยังคงเกิดขึ้นมาเป็นเวลานานหลายทศวรรษ
“แม้จะมีความคืบหน้าเกิดขึ้นในด้านการเมือง และเศรษฐกิจ แต่ในส่วนอื่นๆ ยังคงชะลอตัวและถอยหลังในการปฏิรูป” โอบามา กล่าวต่อสำนักข่าวอิรวดี เว็บไซต์ และนิตยสารที่ตีพิมพ์ในไทยช่วงที่ทหารยังคงปกครองพม่า
“นอกจากระเบียบข้อจำกัดต่างๆ ต่อเสรีภาพสื่อ เรายังคงเห็นการละเมิดพื้นฐานสิทธิมนุษยชนและพื้นที่กลุ่มชาติพันธุ์ รวมทั้งรายงานการสังหาร ข่มขืน และการบังคับใช้แรงงาน การละเมิดสิทธิมนุษยชนเหล่านี้แสดงถึงประวัติศาสตร์อันเจ็บปวดที่ชาวพม่าจำนวนมากต้องการให้เปลี่ยนแปลง” รายงานระบุ
รัฐบาลกึ่งพลเรือนเข้าปกครองประเทศในปี 2554 หลังทหารปกครองนาน 49 ปี และริเริ่มการปฏิรูปอย่างรวดเร็ว ที่รวมทั้งการปล่อยตัวนักโทษการเมือง และยกเลิกระเบียบข้อจำกัดต่อพรรคการเมือง และสื่อ และจากความเปลี่ยนแปลงนี้เป็นผลให้สหภาพยุโรป และประเทศต่างๆ เช่นแคนาดา และออสเตรเลีย ยกเลิกมาตรการคว่ำบาตรที่กำหนดไว้เพื่อตอบโต้การปราบปรามประชาธิปไตยของรัฐบาลเผด็จการทหาร ขณะที่สหรัฐฯ ระงับมาตรการคว่ำบาตรแต่ยังไม่ยกเลิกทั้งหมด
“เมื่อไม่นานที่ผ่านมา มีความคืบหน้าเกิดขึ้น และเราเห็นการปฏิรูป แต่รัฐบาลยังต้องทำงานอีกมากเพื่อให้แน่ใจว่าการปฏิรูปจะยังดำเนินอยู่บนเส้นทางที่ถูกต้อง” โอบามา กล่าว
ผู้นำสหรัฐฯ เดินทางถึงกรุงเนปีดอ ช่วงค่ำวานนี้ (12) และเข้าร่วมการประชุมสุดยอดผู้นำอาเซียน และการประชุมสุดยอดเอเชียตะวันออกในวันนี้ (13) รวมทั้งพบหารือกับประธานาธิบดีเต็งเส่ง ส่วนในวันศุกร์ (14) มีกำหนดจะพบหารือกับ นางอองซานซูจี ในนครย่างกุ้ง.