ASTVผู้จัดการออนไลน์ - กระทรวงกลาโหมบราซิล ได้เซ็นสัญญาซื้อเครื่องบินรบ JAS 39 กริพเพนเอ็นจี (Gripen NG) จากบริษัทซาบ (SAAB) แห่งสวีเดนล็อตใหญ่ จำนวน 36 ลำ รวมมูลค่า 39.3 พันล้านโครเนอร์ หรือประมาณ 5,400 ล้านดอลลาร์ สองฝ่ายยังได้เซ็นความตกลงการถ่ายทอดเทคโนโลยีเกี่ยวกับ JAS 39 ให้แก่บราซิลในระยะ 10 ปีข้างหน้า ซึ่งจะทำให้บราซิลเป็นผู้ร่วมผลิตเครื่องบินรบประสิทธิภาพสูงรุ่นนี้
ตามความตกลงดังกล่าว บราซิลกับซาบจะร่วมกันพัฒนา และผลิตกริพเพนแบบที่นั่งเดี่ยว จำนวน 28 ลำ และแบบที่นั่งคู่อีก 8 ลำในสวีเดน ความตกลงจะมีผลบังคับอย่างสมบูรณ์ เมื่อได้รับเอกสารทางด้านกฎหมายต่างๆ ครบถ้วน รวมทั้งใบอนุญาตเพื่อส่งออกจากรัฐบาลสวีเดนด้วย ซึ่งคาดว่าเรื่องนี้จะแล้วเสร็จในไตรมาสแรกของปีหน้า และจะสามารถส่งมอบเครื่องบินให้บราซิลได้ในระหว่างปี 2562-2567 ซาบกรุ๊ป รายงานเรื่องนี้ในเว็บไซต์วันจันทร์ 27 ต.ค.ที่ผ่านมา
คำแถลงของซาบ เป็นการยืนยันผลการเจรจาระหว่างสองฝ่าย ซึ่งก่อนหน้านี้ เมื่อวันที่ 18 ต.ค. บราซิลได้ประกาศเลือกกริพเพน ในแผนการจัดซื้อจัดหาเครื่องบินรบรุ่นใหม่ จำนวน 36 ลำ สำหรับกองทัพอากาศ ซึ่งครั้งนั้นได้มีการกล่าวถึง “ความร่วมมือด้านอุตสาหกรรม” อันหมายถึงการที่บราซิล ได้ยื่นเงื่อนไขขอเป็นผู้ร่วมผลิตเครื่องบินรบสมรรถนะสูงรุ่นนี้ พร้อมกับการเจรจาซื้อขายล็อตใหญ่
บราซิล ได้กลายเป็นลูกค้าต่างประเทศรายแรกของกริพเพน NG หรือ “Gripen NewGen” อันหมายถึง JAS 39 ยุคใหม่ ซึ่งซาบกล่าวในเว็บไซต์ว่า ได้สนองตอบความต้องการของตลาดในหลายเรื่อง ตั้งแต่การเป็นเครื่องบินรบอเนกประสงค์ที่มีความยืดหยุ่นในการใช้งานมากขึ้นอีก กับค่าใช้จ่ายที่ต่ำกว่า มีความยั่งยืนกว่า กริพเพน NG ยังติดเครื่องยนต์รุ่นใหม่ที่ให้แรงบิดสูงกว่า อัตราเร่งเร็ว และแรงกว่ารุ่นเดิม ขยายรัศมีปฏิบัติกออกไปอีกไกล และมีจุดติดตั้งอาวุธต่างๆ ได้มากขึ้น รวมทั้งติดตั้งเรดาร์ AESA ที่ก้าวหน้ามากที่สุด และมีประสิทธิภาพสูงในระบบสงครามอิเล็กทรอนิกส์
ข่าวเกี่ยวกับการประกอบ JAS 39 ในบราซิล ทำให้อาร์เจนตินาแสดงความสนใจ ซึ่งนิตยสารเจนส์ สื่อกลาโหมที่ได้รับความเชื่อถือมากที่สุดอีกแห่งหนึ่งของโลกรายงานอ้างแหล่งข่าวว่า ทั้งสองฝ่ายจะเปิดการเจรจาในเร็วๆ นี้ รายละเอียดเกี่ยวกับการซื้อ “Gripen E” จำนวน 24 ลำจากบราซิล ในช่วงปี พ.ศ.2573
ยังไม่ทรายรายละเอียดเกี่ยวกับแผนการการร่วมผลิตกริพเพนระหว่างบราซิลกับซาบ ซึ่งจะใช้เทคโนโลยี และชิ้นส่วนต่างๆ จากสวีเดนล้วนๆ แต่ “กริพเพน E” จะผลิตออกมาตามความต้องการเฉพาะของบราซิลเอง ซึ่งยังไม่มีการเปิดเผยในรายละเอียดเช่นกัน
บราซิล เป็นอีกประเทศหนึ่งที่มีอุตสาหกรรมอากาศยานก้าวหน้ามากที่สุด ประเทศนี้ผลิตเครื่องบินเอ็มเบรเออร์ (Embraer) ออกมาหลายรุ่น ทั้งเครื่องบินไอพ่นโดยสารขนาดใหญ่-ขนาดกลาง สำหรับสายการบินต่างๆ ทั่วโลก บางรุ่นถูกนำไปติดตั้งระบบสอดแนมเพื่อใช้ในด้านกลาโหม รวมทั้งเครื่องบินโดยสารขนาดเล็กเพื่อธุรกิจ
บราซิล ผลิตเครื่องบินใบพัด A-29 “ซูเปอร์ทูคาโน” (Super Tucano) เครื่องบินฝึกที่มีชื่อเสียง ที่สามารถใช้เป็นเครื่องบินโจมตีขนาดเบาได้ นอกจากนั้น ยังมี A-29 รุ่นที่ผลิตในสหรัฐฯ อีกด้วย
ในปัจจุบัน JAS 39 มีประจำการในกองทัพอากาศสวีเดน สาธารณรัฐเช็ก ฮังการี แอฟริกาใต้ และกองทัพอากาศไทย ส่วนในอังกฤษนำไปใช้ในโรงเรียนฝึกนักบิน หรือ Empire Test Pilots’ School (ETPS) ทำให้เกิดประชาคมประเทศผู้ใช้ JAS 39 ขึ้นมา หลายปีมานี้ยังมีอีกกว่าสิบประเทศที่แสดงความสนใจในกริพเพน แต่ยังไม่ได้ตัดสินใจ รวมทั้งในย่านนี้ คือ อินเดีย อินโดนีเซีย มาเลเซีย ฟิลิปปินส์ และเวียดนามด้วย.
.
.
