รอยเตอร์ - รัฐบาลอินโดนีเซียทบทวนแผนสั่งซื้อเครื่องบินรบและฐานยิงจรวดจากบราซิล หลังความสัมพันธ์ทางการทูตดิ่งเหวจากกรณีพลเมืองแซมบ้าที่ลักลอบขนยาเสพติดถูกประหารชีวิตเมื่อเดือนที่แล้ว
กรุงบราซิเลียได้เรียกทูตประจำอินโดนีเซียกลับประเทศ หลังจาก มาร์โก อาร์เคอร์ คาร์โดโซ โมเรย์รา พลเมืองบราซิลซึ่งต้องคดีขนคดียาเสพติดในแดนอิเหนา ถูกประหารชีวิตพร้อมนักโทษอีก 5 คนเมื่อเดือนมกราคม และเวลานี้ยังมีนักโทษบราซิลรายที่ 2 ซึ่งจะกำลังจะถูกยิงเป้าพร้อมผู้ก่อคดียาเสพติดอีก 11 คนเร็วๆ นี้
รองประธานาธิบดียูซุฟ คัลลา แห่งอินโดนีเซีย เปิดเผยผ่านหนังสือพิมพ์ จาการ์ตา โพสต์ ว่า รัฐบาลกำลังทบทวนแผนสั่งซื้อฝูงบินเอ็มเบรเยอร์ อีเอ็มบี-314 ซูเปอร์ทูคาโน จำนวน 16 ลำจากบราซิล เพื่อใช้งานในกองทัพอากาศ และอาจจะยกเลิกคำสั่งซื้อฐานยิงขีปนาวุธจากบราซิลด้วย
บราซิลและเนเธอร์แลนด์ต่างเรียกทูตกลับจากอินโดนีเซียเพื่อประท้วงการลงโทษประหารพลเมืองของตน และล่าสุดกรุงบราซิเลียได้หันมาใช้วิธีตอบโต้หนักกว่าเก่า โดยปฏิเสธไม่ให้เอกอัครราชทูตอินโดนีเซียคนใหม่เข้าพิธีมอบสารตราตั้งเมื่อวันศุกร์ที่แล้ว (20 ก.พ.) ซึ่งถือเป็นการหักหน้ากันอย่างชัดเจน
เพื่อประท้วงท่าทีของบราซิล รัฐบาลอิเหนาก็ตัดสินใจเรียกทูตของตนกลับอย่างไม่ไยดีเช่นกัน
อินโดนีเซียยังต้องบาดหมางรุนแรงกับเพื่อนบ้านใกล้ชิดอย่างออสเตรเลีย เนื่องจากพลเมืองแดนจิงโจ้ 2 คนที่เป็นหัวหน้าแก๊งขนยาเสพติด “บาหลีไนน์” ถึงกำหนดต้องรับโทษประหารในเดือนนี้
ประธานาธิบดีโจโค วิโดโด ประกาศกร้าวว่าจะไม่ผ่อนปรนให้กับผู้ก่อคดียาเสพติด แม้จะได้รับการวิงวอนจากสหภาพยุโรป, บราซิล, ออสเตรเลีย หรือองค์การนิรโทษกรรมสากล (เอไอ) ก็ตาม