รอยเตอร์ - รัฐบาลอินโดนีเซียเรียกเอกอัครราชทูตประจำกรุงบราซิเลียคนใหม่กลับประเทศ หลังถูกทางการแดนแซมบ้าเลื่อนพิธีรับสารตราตั้งอย่างกะทันหันเมื่อวานนี้ (20 ก.พ.) ซึ่งเห็นได้ชัดว่าเป็นการจงใจตอบโต้ที่อินโดนีเซียประหารนักโทษชาวบราซิลซึ่งถูกจับในคดีลักลอบขนยาเสพติด
การที่รัฐบาลอิเหนาลงมือประหารชีวิตนักโทษ 6 รายเมื่อเดือนที่แล้ว ซึ่งมีพลเมืองบราซิลและเนเธอร์แลนด์รวมอยู่ด้วย ทำให้กรุงอัมสเตอร์ดัมและบราซิเลียตัดสินใจเรียกทูตของตนกลับจากอินโดนีเซียทันที
ล่าสุด กรุงจาการ์ตายังต้องบาดหมางรุนแรงกับเพื่อนบ้านใกล้ชิดอย่างออสเตรเลีย เนื่องจากพลเมืองแดนจิงโจ้ 2 คนที่เป็นหัวหน้าแก๊งขนยาเสพติด “บาหลีไนน์” ถึงกำหนดต้องรับโทษประหารในเดือนนี้
โตโต ริยันโต ซึ่งได้รับการแต่งตั้งเป็นเอกอัครราชทูตอินโดนีเซียประจำบราซิลคนใหม่เมื่อเดือนตุลาคม ได้รับเชิญให้ไปทำพิธีมอบสารตราตั้งที่ทำเนียบประธานาธิบดีบราซิล เมื่อวานนี้ (20) แต่เมื่อไปถึงกลับได้รับแจ้งอย่างกะทันหันว่าผู้นำบราซิลขอเลื่อนพิธีรับมอบสารออกไปก่อน
“การที่รัฐมนตรีกระทรวงการต่างประเทศบราซิลขอเลื่อนพิธีมอบสารแบบไม่มีปี่มีขลุ่ย... ทั้งๆ ที่เอกอัครราชทูตเดินทางไปถึงทำเนียบประธานาธิบดีแล้ว เป็นสิ่งที่รัฐบาลอินโดนีเซียยอมรับไม่ได้” ถ้อยแถลงจากกระทรวงการต่างประเทศอิเหนา ระบุ
ทางกระทรวงฯ ยังได้เรียกทูตบราซิลประจำกรุงจาการ์ตาเข้าพบเมื่อวานนี้ (20) ก่อนจะมีคำสั่งเรียกตัวเอกอัครราชทูต ริยันโต กลับประเทศ
ล่าสุดสถานทูตบราซิลประจำกรุงจาการ์ตายังไม่ตอบคำถามสื่อมวลชนเกี่ยวกับปัญหาที่เกิดขึ้น
“ในฐานะประเทศหนึ่งที่ปกครองโดยระบอบประชาธิปไตย มีอธิปไตยเป็นของตนเอง และมีระบบตุลาการที่เป็นกลางและอิสระ จึงไม่มีประเทศอื่นใดหรือกลุ่มบุคคลใดที่จะสามารถแทรกแซงการบังคับใช้กฎหมายตามขอบเขตอำนาจของอินโดนีเซียได้ รวมถึงกฎหมายว่าด้วยความผิดฐานลักลอบขนยาเสพติดด้วย” กระทรวงการต่างประเทศอินโดนีเซียระบุ
ประธานาธิบดีโจโค วิโดโด ประกาศกร้าวว่าจะไม่ผ่อนปรนให้กับผู้ก่อคดียาเสพติด แม้จะได้รับการวิงวอนจากสหภาพยุโรป, บราซิล, ออสเตรเลีย หรือองค์การนิรโทษกรรมสากล (เอไอ) ก็ตาม