รอยเตอร์ - นายกรัฐมนตรี โทนี แอ็บบอตต์ แห่งออสเตรเลีย เตือนอินโดนีเซียให้รำลึกถึงความช่วยเหลือมูลค่ามหาศาลที่เคยได้รับไปในอดีต และยอมละเว้นโทษประหารแก่ 2 พลเมืองแดนจิงโจ้ที่ก่อคดีขนยาเสพติด ทว่าถูกจาการ์ตาตอกกลับแบบไม่แยแส จนส่อเค้าจะกลายเป็นสงครามน้ำลายระหว่างประเทศ
รัฐบาลออสเตรเลียยังคงใช้ความพยายามเต็มที่ที่จะกดดันอินโดนีเซียให้ไว้ชีวิต มยูรัน สุกุมารัน วัย 33 ปี และ แอนดรูว์ ชาน วัย 31 ปี หัวหน้าแก๊ง “บาหลีไนน์” ที่พยายามลักลอบขนเฮโรอีนน้ำหนัก 18 กิโลกรัมออกจากเกาะบาหลีไปยังออสเตรเลีย เมื่อปี 2005
สำหรับสมาชิกคนอื่นๆ ในกลุ่มของเขาได้รับโทษจำคุกกันเป็นเวลาหลายสิบปี
กฎหมายอินโดนีเซียกำหนดโทษขั้นสูงสุดสำหรับผู้ก่อคดียาเสพติด และเริ่มประหารชีวิตนักโทษอีกครั้งในปี 2013 หลังจากที่เว้นช่วงไป 5 ปี
แอ็บบอตต์ขอให้รัฐบาลอิเหนานึกถึงเหตุการณ์สึนามิในมหาสมุทรอินเดีย เมื่อปี 2004 โดยระบุว่า ชาวออสเตรเลียจะ “ผิดหวังอย่างรุนแรง” หากการประหารนักโทษยังเกิดขึ้น ทั้งๆ ที่แคนเบอร์ราเคยให้ความช่วยเหลือกว่า 1,000 ล้านดอลลาร์ออสเตรเลียแก่อินโดนีเซียที่ประสบภัยภัยพิบัติทางธรรมชาติ จนมีผู้เสียชีวิตนับแสนคนในจังหวัดอาเจะห์
อาร์มานาธา นาซีร์ โฆษกกระทรวงการต่างประเทศอินโดนีเซีย ออกมาให้สัมภาษณ์ผู้สื่อข่าวที่กรุงจาการ์ตาวันนี้ (18 ก.พ.) โดยกล่าวว่า ตนหวังว่าคำพูดของแอ็บบอตต์ “คงไม่ใช่ธาตุแท้ของชาวออสเตรเลีย”
“คำขู่ไม่ใช่ภาษาของนักการทูต และไม่มีใครจะตอบสนองการข่มขู่ด้วยท่าทีอ่อนโยน” โฆษกรัฐบาลอิเหนากล่าว
กำหนดส่งตัว สุกุมารัน และ ชาน รวมถึงนักโทษอื่นๆ อีก 3 คนไปยังแดนประหารถูกเลื่อนออกไปก่อน เมื่อวานนี้ (17) หลังจากมีข้อกังวลทางการแพทย์ และครอบครัวได้ร้องขอเวลาอยู่กับนักโทษให้นานกว่านี้
ทั้งผู้นำออสเตรเลียและ บัน คีมูน เลขาธิการสหประชาชาติ ต่างวิงวอนให้อินโดนีเซียยกเลิกโทษประหารต่อผู้ก่อคดียาเสพติด โดยขณะนี้ยังมีพลเมืองอีกหลายสัญชาติที่ถูกจำคุกและรอวันประหาร ทั้งชาวบราซิล, ฝรั่งเศส กานา, อินโดนีเซีย, ไนจีเรีย และฟิลิปปินส์
อินโดนีเซียยืนยันว่า การลงโทษประหารชีวิตไม่ได้เจาะจงพลเมืองของประเทศใดประเทศหนึ่ง แต่มีเป้าหมายเพื่อกวาดล้างการค้ายาเสพติด ซึ่งถือว่าเป็น “อาชญากรรมที่ร้ายแรง”