เอเจนซีส์ - มีรายงานล่าสุดในวันจันทร์ (16 ก.พ.) เปิดเผยว่า ทนายความของ 2 ผู้ต้องหาชาวออสเตรเลีย แอนดรูว์ ชาน และ มยูรัน สุกุมารัน หัวหน้าแก๊ง “บาหลีไนน์” พยายามลักลอบขนเฮโรอีนจากเกาะบาหลีเมื่อปี 2005 และถูกศาลอินโดนีเซียตัดสินประหารชีวิตนั้นได้ส่งจดหมายไปยังกระทรวงยุติธรรมอินโดนีเซีย อ้างว่าคณะผู้พิพากษาคดีนี้แอบขอเรียกรับสินบนเพื่อแลกกับการผ่อนโทษให้เบาลง ในขณะที่ โทนี แอ็บบอตต์ รัฐมนตรัออสเตรเลียล่าสุด ประกาศว่าอาจมีช่องทางกฎหมายอื่นช่วยเหลือพลเมืองออสเตรเลียจากโทษประหารที่ทั้งสองอาจถูกสั่งประหารชีวิตภายในไม่กี่วันนี้
บีบีซี สื่ออังกฤษ รายงานวันนี้ (16) ว่า สื่อมวลชนต่างรายงานว่าทนายความของแอนดรูว์ ชาน และ มยูรัน สุกุมารัน หัวหน้าแก๊ง “บาหลีไนน์” ได้ยื่นจดหมายถึงกระทรวงยุติธรรมอินเดีย ร้องเรียนว่าคณะผู้พิพากษาคดี แอบเรียกรับสินบนเพื่อแลกกับการลดหย่อนโทษให้เบาลง อย่างไรก็ตาม เจ้าหน้าที่ยุติธรรมอินโดนีเซียไม่ได้ให้ความเห็นกับสื่ออังกฤษในเรื่องนี้
ทั้ง ชาน และสุกุมารัน รวมถึงชาวออสเตรเลียคนอื่นอีก 7 คน ถูกจับกุมบนเกาะบาหลีในปี 2015 ฐานพยายามลักลอบขนเฮโรอีนน้ำหนักไม่ต่ำกว่า 8.3 กก.จากเกาะบาหลีเข้าไปยังออสเตรเลีย ซึ่งภายหลังมีการพบว่าคนทั้งคู่เป็นหัวหน้ากลุ่ม “บาหลีไนน์” และได้รับโทษตัดสินประหารชีวิต ซึ่งทั้งชานและสุกุมารันหมดโอกาสในการทำให้คดีได้รับการกลับมาพิจารณาอีกครั้งในต้นเดือนกุมภาพันธ์ และนักการเมืองชั้นนำของออสเตรเลีย รวมถึงนายกรัฐมนตรีโทนี แอบบ็อต เดินหน้าเต็มตัวเพื่อขอให้ทางอินโดนีเซียลดโทษให้กับพลเมืองออสเตรเลียทั้งสองนี้
นอกจากนี้ สมาชิกแก๊งบาหลีไนน์คนอื่นๆที่ถูกจับกุมต่างถูกตัดสินจำคุกตลอดชีวิต หรือต้องโทษจำคุก 20 ปี
สื่ออังกฤษรายงานเพิ่มเติมว่า จดหมายของจำเลยทั้งสองระบุว่า ผู้พิพากษาอินโดนีเซียจำนวน 6 คนได้ขอรับเงินเป็นสินบนเพื่อแลกเปลี่ยนกับการลดหย่อนโทษ อ้างจากการรายงานของสื่อออสเตรเลีย ซิดนีย์ มอร์นิง เฮอรัล และเดอะ ซัน สื่ออังกฤษ ที่รายงานก่อนหน้านี้
โดยสื่อทั้งสองชี้เพิ่มเติมว่า ผู้พิพากษาอินโดนีเซียถูกกดดันให้พิพากษาโทษประหารชีวิตแก่นักโทษชาวออสเตรเลียทั้งสอง และเป็นเหตุให้ผู้พิพากษายอมละเมิดกฎด้วยการขอเรียกรับสินบนจากผู้ต้องหา
ในขณะเดียวกัน ในการให้สัมภาษณ์วันนี้ (16) กับสื่อออสเตรเลีย แอบบ็อตปฎิเสธที่จะให้ความเห็น ข่าวการเรียกรับสินบนของผู้พิพากษาอินโดนีเซีย แต่กล่าวเพียงว่า รัฐบาลออสเตรเลียยังคงเดินหน้าร้องขออินโดนีเซียยังไม่ลงโทษประหารชีวิตของคนทั้งสอง “ในความเข้าใจของเรา เชื่อว่ายังมีช่องทางยุติธรรมเหลืออยู่สำหรับพลเมืองทั้งสอง และทีมกฎหมายของคนทั้งคู่” แอบบ็อตกล่าว และเสริมว่า จนกว่าช่องทางกฎหมายเหล่านั้นจะถูกปิดลง ทางเราขอให้อินโดนีเซียอย่าเพิ่งด่วนประหารชีวิตชานและสุกุมารัน
นอกจากนี้ จูลี บิชอป รัฐมนตรีต่างประเทศออสเตรเลีย ไม่ให้ความเห็นถึงจดหมายทนายจำเลยที่อ้างถึงการรับสินบนเช่นเดียวกัน แต่กล่าวเพียงว่า “เข้าใจว่ายังมีปัญหาที่ร้ายแรงอยู่อีกมาก และทางทนายความของชานและสุกุมารันจะยังคงเดินหน้านำเสนอปัญหาเหล้านี้ให้รับทราบ” โดยบิชอปร้องให้อินโดนีเซียเดินตามกระบวนการยื่นขออุทธรณ์ทั้งหมด แต่กระนั้นเธอยืนยันในการเคารพอำนาจศาลและกระบวนการยุติธรรมอินโดนีเซีย
และรัฐมนตรีต่างประเทศออสเตรเลียยังเปิดเผยว่า มีการพิจารณาถึงช่องทางเพื่อขอให้ทางอินโดนีเซียไม่ประหารนักโทษทั้งสอง แต่เธอเผยว่า เธอได้รับคำแนะนำว่า หากทำเช่นนั้นอาจได้ผลลัพท์ตรงกันข้าม และดังนั้นสิ่งที่ออสเตรเลียจะทำได้ในขณะนี้คือ การกดดันอยู่เบื้องหลัง
อย่างไรก็ตาม ประธานาธิบดีอินโดนีเซีย โจโก วิโดโด ที่สนับสนุนโทษประหารชีวิต ก่อนหน้านี้ได้ปัดแนวความคิดการอภัยโทษ เพราะอินโดนีเซียเป็นประเทศเดียวในโลกที่มีกฎหมายลงโทษการค้ายาเสพติดที่รุนแรงมากที่สุด และได้มีการยุติการเลือนการตัดสินประหารชีวิตที่ยืดเยื้อถึง 4 ปี ในปี 2013
ในเดือนที่ผ่านมา อินโดนีเซียได้ประหารนักโทษจากมาลาวี ไนจีเรีย เวียดนาม บราซิล และเนเธอร์แลนด์ และรวมไปถึง 1 คนจากอินโดนีเซีย และส่งผลทำให้บราซิลและเนเธอร์แลนด์สั่งเรียกตัวเอกอัคราชทูตกลับเพื่อทำการประท้วง และทางออสเตรเลียขู่จะทำเช่นเดียวกันหากชานและสุกุมารันถูกประหารชีวิต