xs
xsm
sm
md
lg

จนท.ระดับสูงจีนเยือนฮานอยกระชับสัมพันธ์ เห็นพ้องแก้พิพาททางทะเลอย่างยั่งยืน

เผยแพร่:   โดย: MGR Online

<br><FONT color=#000033>หยาง เจียฉือ มนตรีแห่งรัฐของจีน (ซ้าย) สัมผัสมือกับฝ่าม บิ่ง มีง รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีกระทรวงการต่างประเทศของเวียดนาม ขณะพบกันที่กรุงฮานอย ในวันที่ 27 ต.ค. นักการทูตระดับสูงของจีนเดินทางเยือนเวียดนามอย่างเป็นทางการในจุดมุ่งหมายที่จะกระชับความสัมพันธ์ทวิภาคี.-- Agence France-Presse/Pool/Kham.</font></b>

รอยเตอร์ - จีน และเวียดนาม เห็นพ้องกันในวันนี้ (27) ที่จะใช้กลไกข้อขัดแย้งพรมแดนที่มีอยู่หาทางแก้ไขข้อขัดแย้งดินแดนในทะเลจีนใต้ และไม่ต้องการให้กระทบต่อความสัมพันธ์

ทั้งสองประเทศได้พยายามที่จะฟื้นฟูความสัมพันธ์นับตั้งแต่ความขัดแย้งปะทุขึ้นในเดือน พ.ค. จากการที่จีนเคลื่อนแท่นขุดเจาะน้ำมันเข้าไปในยังน่านน้ำที่เวียดนามอ้างสิทธิ ซึ่งนำไปสู่การเผชิญหน้าทางทะเลระหว่างเรือของสองประเทศ และเกิดเหตุประท้วงรุนแรงต่อต้านจีนในเวียดนาม

หลังการหารือระหว่าง หยาง เจียฉือ มนตรีแห่งรัฐของจีน และ ฝ่าม บิ่ง มีง รัฐมนตรีกระทรวงการต่างประเทศเวียดนาม ในกรุงฮานอย รัฐมนตรีกระทรวงการต่างประเทศของจีน ระบุว่า ทั้งคู่ได้เห็นพ้องกันที่จะจัดการต่อปัญหาทางทะเลอย่างเหมาะสม

ทั้งสองฝ่ายต่างยิ้มให้กัน และสัมผัสมืออย่างอบอุ่น ต่างไปจากการเยือนครั้งก่อนของ หยาง เมื่อเดือน มิ.ย. ที่จบลงด้วยความดุเดือดเผ็ดร้อน เมื่อ หยาง กล่าวหาเวียดนามว่ากระพือข้อขัดแย้งให้รุนแรงขึ้น ซึ่งนับเป็นช่วงที่ความสัมพันธ์ของสองประเทศย่ำแย่ที่สุดนับตั้งแต่สงครามพรมแดนในปี 1979

การกระชับความสัมพันธ์ระหว่างสองประเทศเพื่อนบ้านคอมมิวนิสต์เริ่มขึ้นอีกครั้งในปลายเดือน ส.ค. ไม่กี่สัปดาห์หลังเวียดนามเริ่มเจรจากับประเทศอื่นๆ ที่พัวพันอยู่ในข้อขัดแย้งทางทะเลกับจีน ซึ่งรวมทั้งฟิลิปปินส์ และญี่ปุ่น ที่ระบุจะมอบเรือ และอุปกรณ์เรดาร์ให้แก่หน่วยรักษาการณ์ชายฝั่งของเวียดนาม

และช่วงเวลาสำคัญที่สุดสำหรับเวียดนามคือ การได้ปรับปรุงความสัมพันธ์ด้านกลาโหมของประเทศกับอดีตศัตรูอย่างสหรัฐฯ และในวันที่ 2 ต.ค. ที่ผ่านมา สหรัฐฯ ตัดสินใจที่จะเริ่มผ่อนคลายมาตรการห้ามขายอาวุธ ซึ่งจะช่วยเสริมความสามารถของหน่วยป้องกันชายฝั่งของเวียดนาม และนำไปสู่การขายอาวุธ เรือ และระบบทางอากาศในอนาคต

“จีนและเวียดนามจะใช้กลไกการเจรจาเขตแดนระหว่างรัฐบาลของสองประเทศเพื่อหาพื้นฐานการแก้ปัญหาอย่างยั่งยืนที่ทั้งสองฝ่ายต่างยอมรับ” รัฐมนตรีกระทรวงการต่างประเทศของจีน ระบุ

ทั้งสองฝ่ายยังเห็นชอบที่จะจัดการ และควบคุมข้อพิพาททางทะเล โดยไม่กระทำการใดๆ ที่ทำให้ข้อขัดแย้งซับซ้อน หรือขยายวงกว้างขึ้น

“ในเวลานี้ จีนและเวียดนามอยู่ในขั้นตอนที่สำคัญมากของการปรับปรุงและพัฒนาความสัมพันธ์” กระทรวงการต่างประเทศของจีน อ้างคำกล่าวของหยาง

คำแถลงของจีนครั้งนี้ไม่ได้กล่าวถึงแท่นขุดเจาะน้ำมันไห่หยางฉือโหยว 981 มูลค่า 1,000 ล้านดอลลาร์ ที่จีนเคลื่อนออกจากน่านน้ำพิพาทเมื่อวันที่ 15 ก.ค. โดยอ้างว่า กิจกรรมของแท่นเสร็จสมบูรณ์แล้ว

เมื่อสัปดาห์ก่อน ผู้นำจีน และเวียดนามได้พบหารือนอกรอบการประชุมอาเซม ที่อิตาลี และตกลงที่จะจัดการ และควบคุมข้อขัดแย้งทางทะเล

เวียดนาม และจีนต่างมีพรรคคอมมิวนิสต์ปกครองประเทศ และการค้าของทั้งคู่ขยายเพิ่มขึ้นถึง 50,000 ล้านดอลลาร์ต่อปี แต่เวียดนามมีข้อสงสัยต่อเพื่อนบ้านยักษ์ใหญ่รายนี้มานาน โดยเฉพาะอย่างยิ่งการอ้างสิทธิอธิปไตยเหนือพื้นที่เกือบทั้งหมดของทะเลจีนใต้

แต่ความสัมพันธ์ที่อบอุ่นขึ้นนี้จะเป็นผลดีต่อผู้นำเวียดนาม ที่พบว่าตนเองอยู่ในจุดที่จำเป็นต้องควบคุมความรู้สึกต่อต้านจีนที่คุกรุ่นจากมุมมองของการถูกรุกราน ขณะเดียวกัน ก็ไม่ยั่วยุเพื่อนบ้านที่สำคัญต่อเศรษฐกิจประเทศ

นักวิเคราะห์ระบุว่า ประเด็นปัญหานี้มีแนวโน้มที่จะเป็นที่โต้เถียงเผ็ดร้อนภายในพรรคคอมมิวนิสต์เวียดนามที่เชื่อว่า บรรดาสมาชิกมีความเห็นแตกต่างหลากหลายเกี่ยวกับความสัมพันธ์กับจีน

ด้านกระทรวงการต่างประเทศของเวียดนาม ระบุว่า ความสัมพันธ์ของเวียดนามและจีนที่กำลังพัฒนาดีขึ้น และมั่นคงเหมาะสมต่อความต้องการ และผลประโยชน์ขั้นพื้นฐานของสองประเทศ ทั้งด้านสันติภาพ ความมั่นคง และการพัฒนา และทั้งสองฝ่ายจะพยายามร่วมกันดำเนินการอย่างจริงจังในข้อตกลงดังกล่าว

ฟิลิปปินส์ มาเลเซีย บรูไน และไต้หวัน ต่างอ้างสิทธิบางส่วนของน่านน้ำทะเลจีนใต้ ขณะที่จีนมองด้วยความสงสัยว่า ความเคลื่อนไหวของสหรัฐฯ ที่ให้การสนับสนุนพันธมิตรในภูมิภาค เช่น ฟิลิปปินส์ รวมทั้งเวียดนาม เป็นการยั่วยุความตึงเครียด.
กำลังโหลดความคิดเห็น