xs
xsm
sm
md
lg

สินค้าไทยครองใจชาวเวียดนามคุณภาพเหนือจีน นักลงทุนเล็งขยายกิจการค้าปลีก

เผยแพร่:   โดย: MGR Online

<br><FONT color=#000033>ภาพแฟ้มรอยเตอร์ปี 2555 ชาวเวียดนามเดินเลือกซื้อสินค้าในซูเปอร์มาเก็ตแห่งหนึ่งในกรุงฮานอย ร้านค้าปลีกในเวียดนามมักวางจำหน่ายสินค้านำเข้าจากประเทศต่างๆ และส่วนมากเป็นสินค้าจากจีนและไทย แต่พบว่าสินค้าไทยได้รับความนิยมจากคนท้องถิ่นมากกว่าสินค้าจากจีน ด้วยเหตุผลด้านคุณภาพแม้ว่าจะมีราคาสูงกว่าก็ตาม.--Reuters/Kham.</font></b>

แถ่งเนียน - แม่บ้านชาวเวียดนามจากกรุงฮานอยรายหนึ่งเผยว่า ไม่เคยพลาดที่จะเข้าร่วมงานแสดงสินค้าไทย และในงานแสดงสินค้าเวียดนาม-ไทย ที่จัดขึ้นในกรุงฮานอยครั้งล่าสุด รถเข็นของเธอก็เต็มไปด้วยข้าวของเครื่องใช้ ทุกคนในครอบครัวล้วนชื่นชอบสินค้าจากไทยทุกอย่าง ตั้งแต่ผลไม้ สบู่ ไปจนถึงเสื้อผ้า

ในช่วง 2 ทศวรรษที่ผ่านมา ไทยกลายเป็นแหล่งผลิตสินค้าที่ชนชั้นกลางชาวเวียดนามโปรดปราน ที่ให้ความสำคัญในเรื่องของราคา และคุณภาพ

การค้าระหว่างเวียดนาม และไทยเพิ่มขึ้นเป็น 9,400 ล้านดอลลาร์เมื่อปีก่อน จากเพียงแค่ 1,000 ล้านดอลลาร์ในปี 2543 โดยมูลค่าการค้าส่วนใหญ่คือสินค้าอุปโภคบริโภคจากไทยมายังเวียดนาม

ซูเปอร์มาร์เกต ตลาดสด และร้านสะดวกซื้อ ล้วนเต็มไปด้วยสินค้าไทย สินค้าอิเล็กทรอนิกส์ของไทยครองส่วนแบ่งตลาดในเวียดนามไปมากถึง 70% ขณะที่ผลไม้ไทยมีพื้นที่ในตลาดท้องถิ่น 40% ตามการระบุของกระทรวงการค้าเวียดนาม

เหวียน ฮา แถ่ง เจ้าของร้านขายของชำสาขาที่มีสินค้าไทยวางจำหน่ายรวมอยู่ด้วยระบุว่า เมื่อไม่กี่ปีก่อน ร้านค้าลักษณะเดียวกันนี้ยังมีเปิดอยู่เพียงไม่กี่แห่ง แต่ตอนนี้ร้านขายของที่รวมสินค้าหลากหลายประเภทมีเปิดอยู่ทุกมุมเมือง ขายสินค้านับร้อยชนิด ตั้งแต่เครื่องสำอาง ผงซักฟอก อุปกรณ์ทำครัว ไปจนถึงเสื้อผ้า และรองเท้า และสินค้าไทยเข้ามาแทนที่สินค้าจีนท่ามกลางสินค้าในประเทศ

แม้สินค้าไทยจะแพงกว่าสินค้าจีนอยู่ราว 10-20% แต่ผู้บริโภคชาวเวียดนามมักชื่นชอบสินค้าของไทยมากกว่า เนื่องจากเชื่อว่าสินค้าไทยมีคุณภาพสูงกว่า

งานแสดงสินค้าไทยจัดขึ้นเป็นประจำทุกปีในเวียดนาม มีผู้สนใจเข้าร่วมงาน ทั้งบรรดาผู้ประกอบกิจการ และประชาชนผู้บริโภคท้องถิ่นหลายหมื่นคน

ประธานสมาคมซูเปอร์มาร์เกตฮานอยระบุว่า ผู้ประกอบการไทยวางแผนอย่างรอบคอบในการเข้าแทรกซึมตลาดท้องถิ่น และมักจัดงานเพื่อส่งเสริมสินค้าทั่วประเทศ และขณะที่รัฐบาลไทยก็ให้การสนับสนุนการจัดการแสดงสินค้า และนิทรรศการในเวียดนาม

ฝ่าม หงอค หุ่ง รองประธานสมาคมธุรกิจนครโฮจิมินห์ ระบุว่า การเข้ามาของไทยนับเป็นความท้าทายหลักสำหรับบรรดาผู้ประกอบการท้องถิ่น
<br><FONT color=#000033>พนักงานเข็นรถเข็นหน้าห้างเมโทรซูเปอร์มาเก็ตในกรุงฮานอย บริษัท Metro AG ตกลงขายกิจการแคชแอนด์แครี่ในเวียดนามให้กับบริษัทเบอร์ลี่ ยุคเกอร์ของไทย ที่นับเป็นแผนการสยายปีกธุรกิจค้าปลีกในเวียดนาม.--Reuters/Kham.</font></b>
สินค้าเวียดนามไม่สามารถแข่งกับสินค้าไทยได้ เนื่องจากกิจการของไทยมีเครือข่ายลอจิสติกส์ที่มั่นคง และดำเนินการผลิตสินค้าด้วยตัวเองที่ช่วยรับประกันคุณภาพสินค้า ขณะที่การผลิตของเวียดนามต้องพึ่งการนำเข้าวัตถุดิบอย่างมาก เช่น ภาคส่วนเสื้อผ้า และรองเท้า ต้องนำเข้าวัตถุดิบสูงถึง 80% ซึ่งบางครั้งคุณภาพอยู่เหนือการควบคุม

เมื่อไม่นานนี้ บริษัทเบอร์ลี่ ยุคเกอร์ (BJC) ของนายเจริญ สิริวัฒนภักดี ประกาศแผนจะเข้าซื้อกิจการศูนย์กระจายสินค้า บริษัทเมโทร แคช แอนด์ แครี่ เวียดนาม และเมื่อการซื้อขายเสร็จสิ้นในช่วงครึ่งแรกของปีหน้า BJC ระบุว่า ยอดขายรวมของกิจการจะพุ่งขึ้น 50% บริษัท BJC เป็นผู้ผลิตเครื่องแก้วรายใหญ่ที่สุดในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ และผลิตสินค้าอุปโภคหลากหลายตั้งแต่กระดาษทิชชู ขนมขบเคี้ยว และสบู่

และเมื่อต้นปี บริษัทเซ็นทรัลกรุ๊ป เปิดห้างสรรพสินค้าโรบินสันในกรุงฮานอย โดยประธานกรรมการบริหารบริษัทระบุว่า กำลังซื้อขนาดใหญ่ของเวียดนามทำให้เวียดนามเป็นตลาดเป้าหมายที่น่าสนใจที่มีศักยภาพการเติบโต และเป็นปลายทางอันยอดเยี่ยมสำหรับนักลงทุนในส่วนของภาคค้าปลีก และบริษัทมีแผนที่จะเปิดห้างสรรพสินค้าแห่งที่ 2 ในนครโฮจิมินห์ ปลายปีนี้

สมาคมซูเปอร์มาร์เกตฮานอยระบุว่า ตลาดเวียดนามจะกลายเป็นปลายทางที่น่าดึงดูดใจมากขึ้นสำหรับผู้ค้าปลีกจากไทยเมื่อประชาคมเศรษฐกิจอาเซียนรวมตัวกันในปี 2558 ที่อัตราภาษีซึ่งกำหนดไว้จะถูกยกเลิกลงให้แก่สินค้านำเข้าจากประเทศสมาชิก และการขยายตัวร้านค้าปลีกของไทยในเวียดนามจะยิ่งอำนวยความสะดวกให้แก่สินค้าไทยเข้าตีตลาดเวียดนามมากยิ่งขึ้น.
กำลังโหลดความคิดเห็น