xs
xsm
sm
md
lg

ขแมร์กรอมเผาธงเวียดนามประท้วงจนวันสุดท้าย ลั่นจะจัดชุมนุมอีก

เผยแพร่:   โดย: MGR Online

<br><FONT color=#000033>ทีค สิธา (กลาง) ประธานสมาคมชุมชนขแมร์กัมปูเจียกรอม กล่าวรณรงค์กับผู้ชุมนุมระหว่างการประท้วงด้านหน้าสถานทูตเวียดนามในกรุงพนมเปญ วันที่ 8 ต.ค. ผู้ชุมนุมชาวกัมพูชาเรียกร้องให้เวียดนามยอมรับว่ากัมปูเจียกรอมที่ในเวลานี้เป็นส่วนหนึ่งของเวียดนามเป็นดินแดนของกัมพูชามาก่อน.-- Agence France-Presse/Tang Chhin Sothy.</font></b>

ซินหวา - พระสงฆ์ และนักเคลื่อนไหวชนกลุ่มน้อยชาวขแมร์กรอมมากกว่า 100 คน ในกัมพูชา ยุติการชุมนุมประท้วงต่อต้านนักการทูตเวียดนามนาน 5 วัน ลงในวันนี้ (8) และให้คำมั่นที่จะจัดชุมนุมอีกในอนาคต ตามการเปิดเผยของแกนนำ

ในวันนี้ (8) กลุ่มผู้ชุมนุมได้เดินขบวนจากสวนสาธารณะเสรีภาพ มุ่งหน้าไปยังด้านหน้าของสถานทูตเวียดนาม ที่มีเจ้าหน้าที่ตำรวจปราบจลาจลพร้อมเครื่องกีดขวางติดตั้งอยู่ในบริเวณดังกล่าว

ระหว่างการชุมนุมเป็นเวลา 5 วัน ผู้ชุมนุมประท้วงได้จุดไฟเผาธงชาติเวียดนาม ธนบัตรเงินด่ง และหมวกสานไม้ไผ่ของเวียดนาม ที่หน้าสถานทูต นอกจากนั้น ยังเดินขบวนไปรัฐสภา และสำนักงานข้าหลวงใหญ่เพื่อสิทธิมนุษยชนแห่งองค์การสหประชาชาติประจำกัมพูชา เพื่อขอความสนับสนุนในข้อเรียกร้องของกลุ่มสำหรับคำขออภัยจากเวียดนามจากการแสดงความคิดเห็นของ นายจุง วัน ธง อดีตโฆษกสถานทูต เมื่อ 4 เดือนก่อน

ในเดือน มิ.ย. นายจุง วัน ธง ได้แสดงความคิดเห็นผ่านรายการวิทยุว่า เวียดนามใต้ที่ผู้ชุมนุมอ้างว่าเคยเป็นส่วนหนึ่งของอดีตจังหวัดกัมพูเจียกรอม เป็นของเวียดนามมาเป็นเวลายาวนานก่อนที่ฝรั่งเศสจะยกพื้นที่ดังกล่าวให้ในปี 2492

ผู้ชุมนุมมีเป้าหมายที่จะเรียกร้องให้อดีตโฆษกผู้นี้ยอมรับประวัติศาสตร์ที่แท้จริงของกัมปูเจียกรอม และกล่าวขอโทษต่อประชาชนชาวกัมพูชา อย่างไรก็ตาม เวียดนามได้ปฏิเสธข้อเรียกร้องดังกล่าว โดยอ้างว่าการกระทำของผู้ชุมนุมเป็นการแทรกแซงกิจการภายในของเวียดนาม

ทัค สิธา แกนนำการชุมนุม และประธานสมาคมขแมร์กัมปูเจียกรอม กล่าวว่า การชุมนุมประท้วงดำเนินมาจนถึงวันสุดท้าย และจบลงด้วยดีแม้ว่าจะไม่มีคำขอโทษจากเวียดนาม

“ระหว่างการชุมนุมนาน 5 วัน ไม่มีเหตุรุนแรงใดๆ เกิดขึ้น และเราจะจัดชุมนุมประท้วงขึ้นอีกในอนาคต” ทัค สิธา กล่าวในที่ชุมนุมด้านหน้าสถานทูตเวียดนาม.
<br><FONT color=#000033> ผู้ชุมนุมเผาธงชาติเวียดนามระหว่างรวมตัวประท้วงที่บริเวณด้านหน้าสถานทูตเวียดนามในกรุงพนมเปญ.-- Agence France-Presse/Tang Chhin Sothy.</font></b>
กำลังโหลดความคิดเห็น