บริษัทอังกฤษผู้จัดหาแก๊สน้ำตาให้กับตำรวจฮ่องกงกล่าวในวันพุธ (1) ว่า จะทบทวนนโยบายของบริษัท เพราะว่าตำรวจปราบจลาจลใช้แก๊สดังกล่าวกับกลุ่มผู้ประท้วงสนับสนุนประชาธิปไตย
โฆษกของบริษัท เชมริง ดีเฟน บอกกับเอเอฟพีว่า บริษัทได้จัดส่งผลิตภัณฑ์ของตนให้กับฮ่องกงเป็นเวลา “หลายปีแล้ว” และหนึ่งในผลิตภัณฑ์เหล่านั้นคือแก๊สน้ำตาชนิดกระป๋องที่จะระเบิดเมื่อเกิดแรงกระทบเพื่อป้องกันไม่ให้มันถูกใช้ขว้างกลับมายังตำรวจ
“ไม่ว่าจะเกี่ยวข้องกับสถานการณ์ที่กำลังเป็นไปในฮ่องกงหรือไม่ ผมจึงไม่ใคร่ขอแสดงความคิดเห็นว่านโยบายในอนาคตของเราอาจไปในทิศทางใด แต่เป็นที่แน่ชัดว่านโยบายเหล่านี้จะถูกทบทวนใหม่อีกครั้ง” โฆษก กล่าว
บริษัทแห่งนี้ ซึ่งเริ่มต้นจากการเป็นผู้ผลิตดอกไม้ไฟ กล่าวว่าท้ายที่สุดแล้วรัฐบาลอังกฤษคือผู้ควบคุมสัญญาต่างๆของพวกเขา ผ่านการออกใบอนุญาตการส่งออกและและใบรับรองผู้ใช้ปลายทาง
โฆษก กล่าว่า “เชมริงเองก็มีนโยบายการขายสินค้าของตนเองเช่นกัน ซึ่งได้มีการทบทวนอยู่อย่างต่อเนื่อง”
อังกฤษได้เพิ่มแรงกดดันต่อจีนเพื่อตอบสนองต่อเจตจำนงด้านประชาธิปไตยของฮ่องกง
ตำรวจปราบจลาจลได้ยิงแก๊สในปะทะกันอย่างรุนแรงเมื่อวันอาทิตย์ (28) แต่นับตั้งแต่นั้นมาการประท้วงโดยทั่วไปก็ยังคงเป็นไปอย่างสันติ
เหตุการณ์ความไม่สงบครั้งนี้ นับว่ารุนแรงที่สุดเท่าที่ฮ่องกงเคยประสบมานับตั้งแต่หลุดจากการปกครองของอังกฤษเมื่อปี 1997 อันมีต้อตอจากการตัดสินใจของรัฐบาลปักกิ่งเมื่อเดือนสิงหาคม ที่จะเป็นคนกำหนดผู้เสนอตัวลงเลือกตั้งชิงตำแหน่งสูงสุดของเมืองแห่งนี้
โฆษกของบริษัท เชมริง ดีเฟน บอกกับเอเอฟพีว่า บริษัทได้จัดส่งผลิตภัณฑ์ของตนให้กับฮ่องกงเป็นเวลา “หลายปีแล้ว” และหนึ่งในผลิตภัณฑ์เหล่านั้นคือแก๊สน้ำตาชนิดกระป๋องที่จะระเบิดเมื่อเกิดแรงกระทบเพื่อป้องกันไม่ให้มันถูกใช้ขว้างกลับมายังตำรวจ
“ไม่ว่าจะเกี่ยวข้องกับสถานการณ์ที่กำลังเป็นไปในฮ่องกงหรือไม่ ผมจึงไม่ใคร่ขอแสดงความคิดเห็นว่านโยบายในอนาคตของเราอาจไปในทิศทางใด แต่เป็นที่แน่ชัดว่านโยบายเหล่านี้จะถูกทบทวนใหม่อีกครั้ง” โฆษก กล่าว
บริษัทแห่งนี้ ซึ่งเริ่มต้นจากการเป็นผู้ผลิตดอกไม้ไฟ กล่าวว่าท้ายที่สุดแล้วรัฐบาลอังกฤษคือผู้ควบคุมสัญญาต่างๆของพวกเขา ผ่านการออกใบอนุญาตการส่งออกและและใบรับรองผู้ใช้ปลายทาง
โฆษก กล่าว่า “เชมริงเองก็มีนโยบายการขายสินค้าของตนเองเช่นกัน ซึ่งได้มีการทบทวนอยู่อย่างต่อเนื่อง”
อังกฤษได้เพิ่มแรงกดดันต่อจีนเพื่อตอบสนองต่อเจตจำนงด้านประชาธิปไตยของฮ่องกง
ตำรวจปราบจลาจลได้ยิงแก๊สในปะทะกันอย่างรุนแรงเมื่อวันอาทิตย์ (28) แต่นับตั้งแต่นั้นมาการประท้วงโดยทั่วไปก็ยังคงเป็นไปอย่างสันติ
เหตุการณ์ความไม่สงบครั้งนี้ นับว่ารุนแรงที่สุดเท่าที่ฮ่องกงเคยประสบมานับตั้งแต่หลุดจากการปกครองของอังกฤษเมื่อปี 1997 อันมีต้อตอจากการตัดสินใจของรัฐบาลปักกิ่งเมื่อเดือนสิงหาคม ที่จะเป็นคนกำหนดผู้เสนอตัวลงเลือกตั้งชิงตำแหน่งสูงสุดของเมืองแห่งนี้
