เอเอฟพี - เว็บไซต์ข่าวพม่ายอดนิยมถูกบล็อกในวันนี้ (2) ด้วยฝีมือของแฮกเกอร์ที่โกรธแค้นต่อเนื้อหาบนเว็บไซต์ที่กล่าวถึงพระสงฆ์สายแข็งกร้าวว่าเป็น “พวกหัวรุนแรง” ขณะที่สำนักข่าวระบุว่า ได้รับข้อความคุกคามข่มขู่จากการรายงานข่าวของสำนัก
เว็บไซต์ข่าวภาษาอังกฤษ “อิรวดี” ถูกแฮกจอดำเป็นเวลาสั้นๆ และมีข้อความกล่าวหาว่า สำนักข่าวเป็นพวกสนับสนุนมุสลิม และโจมตีบล็อกของเว็บไซต์ที่แสดงเป็นภาษาพม่าเกี่ยวกับการเข้าร่วมการชุมนุมสงฆ์ในศรีลังกาของพระวิระธูเมื่อสุดสัปดาห์ที่ผ่านมา
ประเทศที่ประชากรส่วนใหญ่นับถือศาสนาพุทธ ดูเหมือนว่าการใช้ถ้อยคำสร้างความเกลียดชังทางศาสนา และการโจมตีชนกลุ่มน้อยมุสลิมเพิ่มสูงขึ้น ด้วยพระสงฆ์ที่มีท่าทีแข็งกร้าวบางรูปถูกกล่าวหาเป็นผู้กระพือความไม่พอใจด้วยการเติมเชื้อความหวาดกลัวภัยคุกคามจากญิฮาดของมุสลิม
แฮกเกอร์อ้างว่า เว็บไซต์ข่าวอิรวดีสนับสนุนญิฮาด และมุสลิมหัวรุนแรง และโจมตีพุทธศาสนาด้วยสิ่งที่เรียกว่าเสรีภาพของการแสดงความคิดเห็น โดยข้อความที่ปรากฏบนจอซึ่งถูกถอดออกในเวลาต่อมา ดูเหมือนมีต้นทางมาจากศรีลังกา ยังได้เรียกร้องการตีพิมพ์คำขอโทษต่อการอ้างถึงกองกำลังภิกษุ (BBS) ของศรีลังกาว่าเป็นพวกหัวรุนแรง
สำนักข่าวอิรวดี เปิดเผยว่า เหตุการณ์นี้เกิดขึ้่นไม่กี่วันหลังพนักงานของสำนักข่าวที่ประจำอยู่ในสำนักงานนครย่างกุ้ง ได้รับโทรศัพท์ข่มขู่เกี่ยวกับการวางเพลิง และวางระเบิดอันเนื่องจากรายงานข่าวหัวข้อเดียวกันนั้น
เว็บไซต์ข่าวแห่งนี้เปิดดำเนินการมาเป็นเวลาหลายปีในช่วงการปกครองของรัฐบาลเผด็จการทหารในฐานะสื่อพลัดถิ่นที่ตั้งสำนักงานในไทย แต่ในเวลานี้ สำนักข่าวมีสำนักงานอยู่ในนครย่างกุ้ง
อ่อง ซอ บรรณาธิการสำนักข่าวอิรวดี ระบุว่า การโจมตีครั้งนี้ว่าเป็น “ความโหดร้าย” และหน้าเว็บไซต์ส่วนใหญ่ได้รับการแก้ไขแล้วเมื่อช่วงเที่ยงที่ผ่านมา ส่วนหน้าเพจเฟซบุ๊กของอิรวดีเต็มไปด้วยเมลที่มีข้อความแสดงความเกลียดชังตลอดช่วงไม่กี่วันที่ผ่านมา เชื่อมโยงกับรายงานข่าว ที่รวมทั้งรายงานวันครบรอบการปราบปรามการชุมนุมประท้วงนำโดยพระสงฆ์ ปี 2550
“เป็นที่ชัดเจนมากว่ามีทีมงานอยู่เบื้องหลังการโจมตีในโลกไซเบอร์ และการละเมิดไซเบอร์ครั้งนี้ ชัดเจนว่าพวกเขาเป็นอาชญากร” บรรณาธิการอิรวดี กล่าว
พม่า อยู่ภายใต้การปกครองของทหารนานหลายทศวรรษ จนกระทั่งรัฐบาลกึ่งพลเรือนเข้าบริหารแทนในปี 2554 และได้ดำเนินการปฏิรูปเปิดประเทศสู่โลกภายนอก พร้อมความหวังของการเปลี่ยนไปสู่ระบอบประชาธิปไตย แต่พม่ายังคงเผชิญต่อปัญหาความรุนแรงทางศาสนาหลายครั้งนับตั้งแต่ปี 2555 ที่ทำให้มีผู้เสียชีวิตกว่า 200 คน และอีกหลายหมื่นคนกลายเป็นผู้ไร้ที่อยู่ โดยส่วนใหญ่เป็นชาวมุสลิม
ศรีลังกา และพม่าแบ่งปันมรดกทางพุทธศาสนา และความสัมพันธ์ทางวัฒนธรรมที่ใกล้ชิดกัน ขณะที่ความเชื่อมโยงระหว่างพระวิระธู และกองกำลังภิกษุ (BBS) ก่อให้เกิดความวิตกที่สภามสุลิมแห่งศรีลังกาออกมาเตือนว่า การเยือนศรีลังกาของพระพม่าเมื่อวันอาทิตย์เป็นภัยคุกคามร้ายแรงต่อความสงบสุขของประเทศ
ศรีลังกา ประสบปัญหาความรุนแรงทางศาสนาครั้งเลวร้ายที่สุดในรอบหลายทศวรรษในเดือน มิ.ย. เมื่อเหตุจลาจลปะทุขึ้นในเมืองอลุธกามา และเมืองเบรูวาลา จนทำให้มีผู้เสียชีวิต 4 คน และกองกำลังภิกษุ (BBS) ถูกกล่าวหาว่าปลุกปั่นการโจมตีดังกล่าว ซึ่งกลุ่มได้ปฏิเสธข้อกล่าวหานี้.
