เอเอฟพี – อาเหม็ด อับดี โกดาเน ผู้นำสูงสุดของกลุ่มติดอาวุธ อัล-เชบับ ซึ่งเป็นเครือข่ายอัลกออิดะห์ในโซมาเลีย ถูกปลิดชีพในปฏิบัติการโจมตีทางอากาศของสหรัฐฯ เมื่อไม่กี่วันมานี้ ซึ่งวอชิงตันยกให้เป็น “ต้นแบบ” ที่จะใช้กวาดล้างนักรบญิฮาดรัฐอิสลาม (ไอเอส) ในอิรักและซีเรียต่อไป
กระทรวงกลาโหมสหรัฐฯ ยืนยันวานนี้(5)ว่า โกดาเน เสียชีวิตแล้วเมื่อวันจันทร์(1) หลังจากสหรัฐฯได้ส่งทั้งโดรนและเครื่องบินแบบมีคนขับเข้าไปสาดขีปนาวุธ “เฮลไฟร์” และระเบิดนำวิถีด้วยแสงเลเซอร์ใส่ที่ประชุมผู้บัญชาการกองกำลัง อัล-เชบับ
โกดาเน วัย 37 ปี เคยออกมาคุยโวโอ้อวดว่า อัล-เชบับ อยู่เบื้องหลังเหตุกราดยิงและบุกยึดห้างสรรพสินค้าเวสต์เกตที่กรุงไนโรบีเมื่อปีที่แล้ว ซึ่งทำให้ประชาชนที่มาจับจ่ายซื้อสินค้าเสียชีวิตไปอย่างน้อย 67 ราย รวมถึงเจ้าหน้าที่ความมั่นคงอีก 1 นาย
ประธานาธิบดี บารัค โอบามา แห่งสหรัฐฯ ซึ่งเดินทางไปร่วมประชุมซัมมิตนาโตที่แคว้นเวลส์ ได้อ้างถึงความสำเร็จในการสังหารผู้นำ อัล-เชบับ ว่าเป็นต้นแบบที่สหรัฐฯจะใช้กับกลุ่มมุสลิมหัวรุนแรงไอเอสด้วย หลังจากที่อเมริกาถูกวิพากษ์วิจารณ์อย่างหนักว่าไม่มีความชัดเจนเรื่องยุทธศาสตร์ต่อต้านกลุ่มไอเอส
“เราจะค่อยๆ บั่นทอนและเอาชนะ (ไอเอส) ในลักษณะเดียวกับที่เราตามล่าอัลกออิดะห์ และเครือข่ายอัลกออิดะห์ในโซมาเลีย” โอบามา กล่าว
“เราขอแจ้งให้ทราบในวันนี้ว่า ผู้นำกลุ่มอัล-เชบับในโซมาเลียได้ถูกสังหารไปแล้ว และสหรัฐฯ ยังคงทำงานอย่างต่อเนื่องเพื่อขัดขวางปฏิบัติการของพวกเขา”
โอบามา ยอมรับเมื่อสัปดาห์ที่แล้วว่า เขายังไม่มียุทธศาสตร์ที่ชัดเจนที่จะต่อกรกับกลุ่มไอเอสในซีเรีย และใช้ถ้อยคำที่ค่อนข้างคลุมเครือเกี่ยวกับเป้าหมายของสหรัฐฯ ก่อนที่จะสรุปออกมาเป็น 2 คำสั้นๆ ที่ได้ใจความว่า “บั่นทอนและเอาชนะ” (degrade and defeat) เมื่อวานนี้(5)
ความตายของ โกดาเน ช่วยให้ประธานาธิบดีสหรัฐฯ หันมาทุ่มเทกับการกวาดล้างกลุ่มไอเอสได้อย่างเต็มที่ ซึ่งทำเนียบขาวชี้ว่าเป็นส่วนหนึ่งของยุทธศาสตร์อย่างกว้างๆ ที่จะต่อสู้กับลัทธิอิสลามหัวรุนแรง
ด้านประธานาธิบดี ฮัสซัน ชัยค์ โมฮามุด แห่งโซมาเลีย ได้กล่าวขอบคุณสหรัฐฯ พร้อมเรียกร้องให้นักรบ อัล-เชบับ ทั้งหลายวางอาวุธเสีย โดยเสนอช่วงเวลา “นิรโทษกรรม” 45 วันเพื่อให้กลุ่มติดอาวุธยุติบทบาท และตัดขาดสายสัมพันธ์กับอัลกออิดะห์
ล่าสุด อัล-เชบับ ยังไม่ออกมายืนยันหรือปฏิเสธข่าวการเสียชีวิตของผู้นำสูงสุด
เจ้าหน้าที่สหรัฐฯ ไม่ได้เปิดเผยว่าพวกเขาใช้วิธีการใดพิสูจน์ว่า โกดาเน เสียชีวิตแล้วจริงๆ แต่จากกรณีที่ผ่านมา หน่วยข่าวกรองอเมริกันจะตรวจดีเอ็นเอจากศพ และใช้ข้อมูลประกอบที่ได้จากการดักฟัง
กระทรวงการต่างประเทศสหรัฐฯ จัดให้ โกดาเน เป็น 1 ใน 8 ผู้ก่อการร้ายซึ่งเป็นที่ต้องการตัวมากที่สุดในโลก ขณะที่นักวิเคราะห์ระบุว่า การตายของเขานับเป็นความสูญเสียครั้งสำคัญของกลุ่ม อัล-เชบับ