ชาวจีนทะลักเข้ามัณฑะเลย์กว้านซื้อที่ ชาวบ้านหวั่นกลายเป็นมณฑลหนึ่งของจีน

อีเลฟเว่นเมียนมาร์ - ชาวจีนที่หลั่งไหลเข้ามายังเมืองมัณฑะเลย์ เมืองใหญ่อันดับ 2 ของพม่า ในปีนี้ส่วนมากเกี่ยวข้องกับตลาดอสังหาริมทรัพย์ และการลงทุนของชาวจีน ส่งผลให้ราคาอสังหาริมทรัพย์ในเมืองพุ่งสูงจนทำให้ชาวพม่าไม่มีที่อยู่ในย่านกลางเมือง

ตัวเลขจากกรมตรวจคนเข้าเมืองและลงทะเบียนแห่งชาติ เผยให้เห็นว่า นับตั้งแต่พม่าเปิดประเทศให้ต่างชาติเข้าลงทุน มีชาวต่างชาติมากกว่า 1,000 คน พร้อมวีซ่าทำงานเข้าประเทศในแต่ละเดือน และส่วนใหญ่เป็นชาวจีน

นักลงทุนชาวจีนเข้ามาทำธุรกิจทั้งอัญมณี น้ำมันและก๊าซ และในตอนนี้ได้เข้าลงทุนในธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ของเมืองมัณฑะเลย์ ตามการระบุของนายหน้าซื้อขายอสังหาริมทรัพย์ท้องถิ่น และยังคาดการณ์ว่า นักธุรกิจผู้มีอิทธิพลชาวจีนอาจมีส่วนเกี่ยวข้องในข้อตกลงอสังหาริมทรัพท์ที่ทำกำไรสูงส่วนใหญ่ที่เกิดขึ้นในช่วงหลังนี้

“ตลาดอสังหาริมทรัพย์ของท้องถิ่นอยู่ในมือชาวจีนมาหลายปีแล้ว ไม่มีใครสามารถบอกได้ว่าใครอยู่เบื้องหลังข้อตกลงมูลค่าหลายพันล้าน ผมคิดว่าการปั่นราคาเป็นเหตุให้ราคาที่ดินสูงขึ้น ที่ดินที่ชาวพม่าเป็นเจ้าของในย่านกลางเมืองกำลังเหลือน้อยลงเรื่อยๆ และคนท้องถิ่นจำนวนมากต้องย้ายไปอยู่ชานเมือง” นายหน้าซื้อขายที่ดินรายหนึ่ง กล่าว

ชาวพม่าที่อาศัยอยู่ในเขตมัณฑะเลย์ ระบุว่า ก่อนหน้านี้ชาวจีนอาศัยอยู่แค่ 3-4 คนต่ออพาร์ตเมนต์หลังหนึ่ง แต่ตอนนี้เปลี่ยนไปมาก บ้านบางหลังติดป้ายอักษรจีน ซึ่งน่าวิตกว่าเมืองมัณฑะเลย์จะกลายเป็นมณฑลหนึ่งของประเทศจีน

ชาวพม่าท้องถิ่นเรียกร้องให้ทางการตรวจสอบข้อตกลงอสังหาริมทรัพย์เพื่อเปิดเผยแหล่งที่มาของทุน

“พื้นที่เมืองมัณฑะเลย์สามารถขยายลงใต้ได้เพียงทางเดียวเท่านั้น ชาวจีนบางคนต้องการที่ดินและที่นาในเมืองอมรปุระ ที่อยู่ทางมุมใต้ของเมืองมัณฑะเลย์ สัญญาบางฉบับลงนามด้วยชื่อชาวจีนเอง และบางฉบับใช้ชื่อพลเมืองชาวพม่า ผมได้ยินว่าส่วนใหญ่ไม่ใช่ชาวมัณฑะเลย์ ราคาที่ดินในหมู่บ้านทางตะวันออกพุ่งสูงจากหลายล้านจ๊าต เป็นหลายร้อยล้านจ๊าต” ชาวเมืองอมรปุระ กล่าว และว่า กิจการที่ชาวจีนเป็นเจ้าของเช่น โรงแรม ร้านอาหาร เพิ่มจำนวนขึ้นอย่างมาก

“ทุกคนรู้เรื่องการมีส่วนเกี่ยวข้องของชาวจีนในตลาดอสังหาริมทรัพย์ แต่ยากที่จะพิสูจน์ว่าข้อตกลงไม่ได้ทำในชื่อของตัวเอง หน่วยงานที่เกี่ยวข้องควรตรวจสอบกรณีเหล่านี้” นักธุรกิจท้องถิ่น กล่าว

ด้านเจ้าหน้าที่จากสำนักงานตรวจคนเข้าเมือง ระบุว่า มีเพียงชาวพม่าเท่านั้นที่มีสิทธิครอบครองที่ดิน ชาวต่างชาติไม่สามารถทำได้แม้แต่การเช่าบ้าน

อย่างไรก็ตาม ชาวจีนส่วนใหญ่ในมัณฑะเลย์เชี่ยวชาญภาษาพม่า ทำให้คนเหล่านี้ปลอมเป็นชาวพม่าได้ง่าย

“เจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้องกำลังดำเนินมาตรการต่อบรรดาชาวจีนที่วีซ่าหมดอายุ หรือชาวจีนที่แต่งงานกับหญิงชาวพม่า หรือเข้าประเทศหลังก่อคดีอาชญากรรมในแผ่นดินเกิด ทางการเรียกร้องให้ประชาชนแจ้งเจ้าหน้าที่หากพบชาวจีนเข้าประเทศผิดกฎหมาย” เจ้าหน้าที่จากกรมตรวจคนเข้าเมือง กล่าว

มี้น อ่อง ตัวแทนจากบริษัทอสังหาริมทรัพย์ท้องถิ่นพม่า เรียกร้องให้ทางการสืบหาแห่งที่มาของเงินที่ใช้ในการซื้อที่ดิน

“ชาวจีนไม่เพียงซื้อที่ดินแต่ในเมืองเท่านั้น ยังซื้อที่นอกเมืองด้วย ชาวพม่าต้องย้ายไปอยู่เขตชานเมืองหลังขายบ้าน และที่ดินของตัวเอง แต่ตอนนี้พวกเขาไม่อยู่ในสถานะที่จะเป็นเจ้าของบ้านและที่ดิน แม้แต่ในย่านชานเมืองเพราะราคาพุ่งสูง พวกเขาต้องเช่าบ้านอยู่กันแล้ว” มี้น อ่อง กล่าว

กรมตรวจคนเข้าเมืองและการลงทะเบียนแห่งชาติ ระบุว่า ในเมืองมัณฑะเลย์ มีพลเมืองชาวพม่าที่เกิดในจีนเกือบ 70,000 คน

“เราสามารถมองเห็นร้านอาหารจีนได้ทุกมุมในมัณฑะเลย์” เจ้าหน้าที่กล่าว

คนจีนส่วนใหญ่ในมัณฑะเลย์พูดภาษาจีนไม่พูดพม่า จึงเป็นเรื่องยากที่จะระบุว่าพวกเขาเหล่านั้นเป็นชาวพม่า หรือชาวจีนเมื่อประเทศเต็มไปด้วยนักท่องเที่ยวที่เดินทางหลั่งไหลเข้ามาอย่างมากมาย

“มัณฑะเลย์ เต็มไปด้วยร้านอาหาร โรงแรมที่มีป้ายภาษาจีน แม้ว่าทางการจะอนุญาตให้ร้านอาหารทุกร้านในมัณฑะเลย์ใช้เพียงภาษาพม่า และภาษาอังกฤษเท่านั้น” เย นาย ชาวเมืองมัณฑะเลย์ กล่าว

การไหลบ่าของชาวจีนในเมืองมัณฑะเลย์ กำลังสร้างความวิตกกังวลให้แก่บรรดาคนท้องถิ่นที่ตัวเมืองกลายเป็นที่สำหรับชาวจีนทำมาหากิน.