xs
xsm
sm
md
lg

“ตลาดความรัก” วิถีชาวเขากับการท่องเที่ยวที่เติบโตไม่หยุดยั้งในซาปา

เผยแพร่:   โดย: MGR Online

<br><FONT color=#000033>เวิง ถิ โซ (ขวา) หญิงชาวม้งเป่าใบไม้อยู่ข้าง ซาง อา เวิง (ซ้าย) ที่เป็นสามี ในเมืองซาปา ทั้งคู่พบรักกันที่ตลาดความรัก สถานที่หาคู่ของคนพื้นเมือง แต่กาลเวลาที่ผ่านไปทำให้สถานที่ดังกล่าวแปรเปลี่ยนเป็นจุดนัดพบของบรรดานักท่องเที่ยวที่หลั่งไหลมาเที่ยวเมืองซาปา.-- Agence France-Presse/Hoang Dinh Nam.</font></b>

เอเอฟพี - การออกเดตไม่เคยเป็นเรื่องง่าย แต่การหาคู่แท้ในขณะที่อาศัยอยู่ในหมู่บ้านเล็กๆ อันแสนห่างไกลบนภูเขาสูงของเวียดนามกลายเป็นเรื่องที่เกือบเป็นไปไม่ได้ แต่ทางออกของปัญหานี้ก็คือ ตลาดความรัก

นับเป็นเวลายาวนานหลายชั่วอายุคน คนหนุ่มสาวจากกลุ่มชาติพันธุ์ชนกลุ่มน้อยในภาคเหนือของเวียดนาม เดินทางมาที่เมืองซาปาในคืนวันเสาร์ เพื่อหาคู่ในอนาคตของตัวเอง

“เป็นเรื่องน่าตื่นเต้นมาก หากผมต้องการจะพบผู้หญิงน่ารักสักคน” ซาง อา เวิง อายุ 50 ปี นักดนตรีพื้นเมืองชาวม้ง กล่าวถึงการเยือนตลาดความรักครั้งแรกเมื่อ 30 ปีก่อน และเขาก็ได้เจอกับผู้หญิงคนหนึ่งที่โดดเด่นออกมาจากกลุ่ม

“ผมกำลังเล่นซอ เมื่อผมเห็นเธอครั้งแรก ผมถามเธอว่าเธอชอบมันหรือเปล่า เธอชอบผมหรือไม่ ตอนนั้นผมรู้สึกประหม่า” ซาง อา เวิง กล่าว

ไม่กี่สัปดาห์ต่อมา เขากลับมาที่ตลาดเพื่อพบกับหวานใจของเขา เวิง ถิ โซ และเล่นดนตรีด้วยกันอันเป็นส่วนหนึ่งของพิธีกรรมการเกี้ยวพาราสีของชาวม้ง ฝ่ายชายเล่นซอ ส่วนฝ่ายหญิงเป่าใบไม้ ซึ่งการเป่าใบไม้ โดยทั่วไปมักใช้ใบตอง ม้วนใบ และจ่อตรงปากเป่าให้เกิดเสียงก้องกังวาน

ไม่นานหลังจากนั้น ทั้งคู่ก็แต่งงานกัน และใช้ชีวิตด้วยกัน

“ผมโชคดีมากที่ได้พบกับเธอที่ตลาด แต่คิดอีกทีเธอก็โชคดีที่ได้พบกับผมเหมือนกัน” เวิง กล่าว

ในช่วงไม่กี่ปีมานี้ ซาปา กลายเป็นสถานที่ท่องเที่ยวที่ได้รับความนิยมอย่างมาก นักท่องเที่ยวทั้งชาวเวียดนาม และชาวต่างชาติหลั่งไหลมายังเมืองที่มีชื่อเสียงจากนาข้าวขั้นบันได และทิวทัศน์อันงดงาม

ซาปา แหล่งท่องเที่ยวหลักของ จ.ลาวกาย ต้อนรับนักท่องเที่ยวมากถึง 1.2 ล้านคน ในปี 2556 เพิ่มขึ้นจาก 360,000 คน ในปี 2546

ขณะที่การหลั่งไหลของนักท่องเที่ยวได้นำความรุ่งเรือง และการพัฒนามาสู่พื้นที่ แต่ในเวลาเดียวกัน ก็ยังนำผลกระทบเชิงลบมาสู่ขนบธรรมเนียมของท้องถิ่น เวิง ถิ โซ กล่าว

“ตลาดความรักเป็นสถานที่พิเศษสำหรับฉัน เพราะเป็นที่ที่ทำให้ฉันได้พบกับสามีที่ดีอย่างเขา แต่ตอนนี้ฉันไม่ค่อยชอบเท่าไหร่ เพราะผู้คนมาเล่นดนตรีเพื่อความบันเทิง และรายได้จากนักท่องเที่ยว เรากำลังสูญเสียบางส่วนในวัฒนธรรมของเรา” โซ กล่าว
<br><FONT color=#000033>ซาง อา เวิง (ซ้าย) และเวิง ถิ โซ ยืนเล่นดนตรีให้นักท่องเที่ยวได้ชมอยู่ในเมืองซาปา.-- Agence France-Presse/Hoang Dinh Nam.</font></b>
<br><FONT color=#000033>ซาง อา เวิง เล่นเครื่องดนตรีของชาวเขา ขณะที่ภรรยาของเขาเต้นอยู่ข้างๆ การเกี้ยวพาราสีของหนุ่มสาวท้องถิ่นเริ่มเปลี่ยนไป เมื่อการท่องเที่ยวและเทคโนโลยีเข้ามามีบทบาทในชีวิตประจำวันมากขึ้น.-- Agence France-Presse/Hoang Dinh Nam.</font></b>
เมื่อคนหนุ่มสาวไปเรียนหนังสือ หรือทำงานในซาปา พวกเขาไม่จำเป็นต้องใช้ตลาดความรัก หรือจัดการแต่งงาน ที่ครั้งหนึ่งเคยเป็นธรรมเนียมในพื้นที่

ซาปา ไม่มีสนามบิน และพื้นที่แห่งนี้เข้าถึงได้ด้วยรถไฟ หรือรถยนต์ แต่ความห่างไกลของสถานที่แห่งนี้ก็ไม่อาจขัดขวางบรรดานักท่องเที่ยวได้

“นักท่องเที่ยวชาวเวียดนามจำนวนมากเดินทางมาที่นี่ และให้เงินแก่คู่รักชาวเขาที่เล่นดนตรีให้แก่กันที่ตลาดความรัก ในตอนนี้ผู้คนเพียงแค่แสดง ไม่ได้ออกมาจากความรู้สึกที่แท้จริง” ลี ถิ หมี อายุ 54 ปี หญิงชาวม้ง กล่าวอย่างเศร้าๆ

ไม่เพียงแค่การท่องเที่ยวที่เปลี่ยนแปลงธรรมเนียมของชาวเขาท้องถิ่น โทรศัพท์มือถือ และอินเทอร์เน็ตก็มีบทบาทเช่นกัน

“ก่อนนี้ ผู้ชายจะผิวปากอยู่นอกบ้านของผู้หญิง และฝ่ายหญิงจะออกม าและเป่าใบไม้เพื่อแสดงว่าเธอสนใจ” หมี กล่าว พร้อมอธิบายพิธีกรรมการเกี้ยวพาราสีตามธรรมเนียมชาวม้ง

“ในตอนนี้ พวกเขามีโทรศัพท์มือถือ การจีบกันจึงกลายเป็นเรื่องที่ง่ายมาก ฉันต้องการย้อนกลับไปเมื่อ 20 ปีก่อน ที่ดูเป็นความท้าทายที่น่ารักที่จะได้พบกับความรัก” ลี ถิ หมี กล่าว

สำหรับ หลี ถิ โด อายุ 52 ปี ชาวเขาเผ่าม้งดำ กล่าวว่า ตลาดความรักกลายเป็นเรื่องตลกไปเสียแล้ว

“ก่อนที่จะมีนักท่องเที่ยว เมื่อฉันยังเด็กที่เรายังคงปลูกฝิ่น และร่อนทองคำในแม่น้ำ ตลาดความรักเป็นเรื่องของคนท้องถิ่น แต่ตอนนี้มันกลายเป็นเรื่องธุรกิจ ทุกคนมาเพื่อหาเงิน และขายของที่ระลึก” หลี ถิ โด กล่าว

ด้านนักวิชาการจากมหาวิทยาลัยพิลาโน ในแคนาดา กล่าวว่า อันที่จริงแล้ว ซาปา เป็นสถานที่ท่องเที่ยวมานานแล้ว ตั้งแต่สมัยเวียดนามยังคงเป็นอาณานิคมของฝรั่งเศส เมืองบนยอดเขาแห่งนี้เป็นสถานที่พักผ่อนยอดนิยม แม้ในปัจจุบันว่าอาคารบ้านพักแบบวิลล่าในยุคอาณานิคมจะถูกเผาทำลายเป็นส่วนใหญ่จากสงครามพรมแดนกับจีนเมื่อปี 2522 ก็ตาม

“การท่องเที่ยวเกิดขึ้นทีี่นี่มาเป็นเวลากว่า 100 ปีแล้ว คงไม่ถูกต้องนักที่จะกล่าวว่าการท่องเที่ยวได้เปลี่ยนแปลงวัฒนธรรมของชนกลุ่มน้อยชาติพันธุ์ วัฒนธรรมม้งมีความเข้มแข็งมาก หากพวกเขาต้องการเปลี่ยน พวกเขาก็เปลี่ยน” คริส คาร์โนเวล ผู้จัดการโครงการในพื้นที่ซาปาเพื่อช่วยเหลือชนกลุ่มน้อยเรียนรู้วิธีการให้ที่พักนักท่องเที่ยวแบบโฮมสเตย์ กล่าว

เพราะซาปา ได้กลายเป็นสถานที่ท่องเที่ยวยอดนิยมของชาวเวียดนามจากพื้นราบ ตลาดความรักจึงค่อยๆ พัฒนาจนกลายเป็นจุดนัดพบของนักท่องเที่ยวมากกว่าของคนท้องถิ่น

“ตลาดความรักชาวม้งของจริงยังมีอยู่ แต่ผมไม่บอกคุณว่าที่ไหน และเมื่อไหร่” คริส คาร์โนเวล กล่าว

แม้ตลาดความรักดั้งเดิมของซาปาจะตกอยู่ท่ามกลางเหล่านักท่องเที่ยวชาวเวียดนาม และชาวต่างชาติ แต่ก็ยังคงมีหนุ่มสาวท้องถิ่นตามรอยหาความสัมพันธ์ในสถานที่แห่งนี้

ฮา งาซู อายุ 26 ปี มาที่ตลาดความรักหลายครั้งเพื่อมองหาภรรยา

“พ่อแม่ของผมพบกันที่ตลาดความรัก ผมเลยมาที่นี่บ้าง” งาซู กล่าว ขณะนั่งอยู่ถัดจากคู่เดต ซาง ถิ สี อายุ 16 ปี

ทั้งคู่ที่เคยพบกันในหมู่บ้านแต่ไม่เคยพูดคุยกัน ใช้เวลาในช่วงเย็นที่ตลาดความรักพูดคุยกัน และสนุกไปกับดนตรีสดบนเวทีเอนกประสงค์ที่เจ้าหน้าที่ท้องถิ่นสร้างขึ้นเพื่อการท่องเที่ยว

“ฉันชอบอยู่กับเขาที่นี่ ฉันไม่แน่ใจว่านี่คือความรักหรือเปล่า แต่ฉันก็รู้สึกชอบเขานิดๆ” สี กล่าว.
<br><FONT color=#000033>ภาพถ่ายเมื่อวันที่ 11 พ.ค. นักเรียนชาวเขาเผ่าม้งทำการแสดงอยู่บนเวทีในช่วงค่ำ ในเมืองซาปา ซาปาเป็นสถานที่ท่องเที่ยวใน จ.ลาวกาย ที่มีนักท่องเที่ยวเดินทางมาเยือนมากถึง 1.2 ล้านคน ในปี 2556.-- Agence France-Presse/Hoang Dinh Nam.</font></b>
กำลังโหลดความคิดเห็น