xs
xsm
sm
md
lg

สิ้นแล้ว! “วิชา พรหมยงค์” ผู้สร้างตำนาน “กาแฟดอยช้าง”

เผยแพร่:   โดย: MGR Online


เชียงราย - ญาตินำร่าง “วิชา พรหมยงค์” ผู้สร้างตำนาน “กาแฟดอยช้าง” ที่โด่งดัง ฝังตามหลักศาสนาอิสลาม ณ สุสานฯ ชุมชนเด่นห้า เมืองพ่อขุนฯ หลังหมดสติกะทันหันวานนี้ (23 ม.ค.) จนต้องนำส่ง รพ.เร่งด่วน แต่แพทย์ไม่สามารถยื้อชีวิตไว้ได้

วันนี้ (24 ม.ค.) ญาติพี่น้องได้ทำพิธีฝังศพนายวิชา พรหมยงค์ ประธานกรรมการบริหารบริษัทดอยช้างคอฟฟี่ออริจินอล จำกัด ผู้ก่อตั้งกาแฟภายใต้ชื่อ “ดอยช้าง” ที่โด่งดัง ที่สุสานอิสลาม ชุมชนเด่นห้า เทศบาลนครเชียงราย ตามหลักศาสนาอิสลามแล้ว หลังจากหมดสติกะทันหันจนต้องนำตัวส่งโรงพยาบาล อ.แม่สรวย จ.เชียงราย อย่างเร่งด่วนเมื่อวานนี้ (23 ม.ค.) แพทย์พยายามใช้เครื่องช่วยหายใจ แต่ปรากฏว่าก็ยังไม่ได้สติ ทางญาติจึงได้นำตัวส่งไปรับการรักษาที่โรงพยาบาลในเขต อ.เมือง จ.เชียงราย แต่ก็เสียชีวิตไปอย่างสงบด้วยวัย 63 ปี
 
สำหรับนายวิชา เป็นชาวกรุงเทพฯ และได้เดินทางทัศนาจรตามป่าเขาพื้นที่ จ.เชียงราย และประเทศเพื่อนบ้านเมื่อประมาณ 30 ปีก่อน กระทั่งได้มีโอกาสพบปะกับชาวบ้านที่อาศัยอยู่บนดอยช้าง ต.วาวี อ.แม่สรวย จ.เชียงราย

ซึ่งนายวิชาเคยเล่าไว้ว่า พื้นที่แห่งนี้มีกลุ่มชาติพันธุ์ที่หลากหลายและเป็นเอกลักษณ์ แต่อยู่ห่างไกลและมีฐานะยากจน ต่อมามีโครงการหลวงเข้าไปพัฒนาภาคเหนือด้วยการส่งเสริมให้ชาวบ้านบนพื้นที่สูงปลูกพืชทดแทนการปลูกฝิ่น เพื่อแก้ไขปัญหายาเสพติดซึ่งได้ผลดีมาก

จากนั้นจึงค่อยมีหน่วยงานอื่นๆ คือกรมประชาสงเคราะห์และองค์กรไทย-เยอรมัน นำเมล็ดกาแฟไปให้ชาวบ้านชาวอาข่า และลีซู รวมจำนวน 40 หลังคาเรือนทำการปลูกบนดอยช้าง ซึ่งผลผลิตถือว่าดี แต่มีปัญหาเรื่องการตลาด และถูกพ่อค้ากดราคาลง การขนส่งลงมาขายพื้นราบก็ยากลำบาก ขณะนั้นมีเนื้อที่เพาะปลูกเหลือเพียงประมาณ 500 ไร่

ทำให้เขาต้องการพัฒนาพื้นที่ปลูกกาแฟประมาณ 500 ไร่ดังกล่าวให้ได้ราคาดี เพราะช่วงนั้นขายให้พ่อค้าได้กิโลกรัมละเพียงประมาณ 10 กว่าบาท แต่เขาสังเกตเห็นว่าเมื่อพ่อค้านำลงไปขายตลาดพื้นราบ กลับทำราคาสูงถึงกิโลกรัมละ 50-60 บาท จึงร่วมกับชาวบ้านพัฒนาเพื่อส่งขายตรง โดยคำนวณว่ากาแฟ 1 ไร่เก็บเกี่ยวกาแฟได้ประมาณ 100 กิโลกรัม หรือไร่ละ 5,000-6,000 บาท

เขาจึงอาศัยเครือข่ายเพื่อนฝูงและนักธุรกิจในการพัฒนาผลผลิตและศึกษาตลาดควบคู่กับส่งตัวอย่างกาแฟที่ปลูกบนดอยช้างไปยังผู้ทรงภูมิทั้งในและต่างประเทศ ปรากฏว่า ทั้งหมดต่างระบุว่ากาแฟบนดอยช้างมีคุณภาพเกรดเอ จึงได้ร่วมกับชาวบ้านขยายพื้นที่ปลูกและศึกษาจากนักวิชาการฝ่ายต่างๆ เพิ่มเติม จนสามารถเพิ่มผลผลิตต่อไร่ได้ถึงไร่ละประมาณ 300 กิโลกรัม

จากนั้นพัฒนาการตลาดและพัฒนาระบบการผลิตเรื่อยมาด้วยเงินทุนเพียงประมาณ 350,000 บาท กระทั่งปัจจุบันมีสถานที่ปลูกและโรงงานแปรรูปกาแฟดอยช้างบนดอยช้างจนสามารถแปรรูปกาแฟได้ราคากิโลกรัมละกว่า 40,000-50,000 บาท ภายใต้โลโก้กาแฟดอยช้างที่เป็นรูปศีรษะคนซึ่งคุ้นตานักจิบกาแฟซึ่งก็เป็นรูปของผู้เฒ่าผู้แก่ที่ร่วมกันมาตั้งแต่ต้นบนดอยช้างนั่นเอง

ปัจจุบันมีไร่กาแฟบนดอยช้างที่ไม่น้อยกว่า 20,000 ไร่ และกลายเป็นกาแฟส่งออกของผลผลิตทั้งหมดกว่า 70% ที่มีชื่อเสียงไปทั่วโลก สามารถสร้างรายได้เข้าสู่ประเทศไทยได้ปีละกว่า 3,000-4,000 ล้านบาท มีโรงผลิตกาแฟและบรรจุหีบห่อรวมทั้งสถาบันกาแฟบนดอยช้าง ฯลฯ โดยเริ่มต้นมาจากหมู่บ้านเล็กๆ เพียงหมู่บ้านเดียว

ด้านนายปณชัย พิสัยเลิศ หรืออาเดล อดีตผู้ใหญ่บ้านดอยช้าง ผู้ซึ่งร่วมกันก่อตั้งกาแฟดอยช้างมากับนายวิชา กล่าวว่า การเสียชีวิตของนายวิชาถือว่ากะทันหัน จึงสร้างความเศร้าโศกเสียใจแก่ผู้ที่เกี่ยวข้องทั้งหมดอย่างมาก โดยก่อนเสียชีวิตก็ไม่ได้มีเหตุบ่งชี้หรือเจ็บป่วยใดๆ มาก่อน นายวิชายังคงไปทำงานที่ทำงานบนดอยช้างตามปกติ กระทั่งช่วงสายของวันที่ 23 ม.ค. เวลาประมาณ 09.00 น.ได้ออกมาทำงานที่อาคารของบริษัทบนดอยช้าง และเตรียมพักรับประทานอาหารเช้า โดยนายวิชาก็นั่งรออาหารที่เสิร์ฟไปให้ที่โต๊ะ

แต่เมื่อคนเสิร์ฟนำอาหารไปถึงท่านก็ล้มลงหมดสติตั้งแต่ตอนนั้น ก่อนที่จะจากไปอย่างไม่มีวันกลับ

ซึ่งนับจากนี้ไปผู้คนที่ยังคงชื่นชมและเคารพในตัวท่านก็ยังสามารถขึ้นไปติดตามผลงานเกี่ยวกับกาแฟและการพัฒนาอื่นๆ บนดอยช้างของท่านได้เหมือนเดิม สำหรับกิจการเกี่ยวกับกาแฟก็ยังคงเดินหน้าต่อไปเหมือนเดิม

กำลังโหลดความคิดเห็น