ASTVผู้จัดการออนไลน์ - คลิปสั้นๆ ชิ้นหนึ่งกำลังเป็นที่ฮือฮาในหน้าหนังสือพิมพออนไลน์ภาษาเวียดนามในขณะนี้ เพียงข้ามวันมีผู้ชมคลิปนี้กว่าหมื่นครั้ง พร้อมกับเสียงก่นประณาม แม้จะมีผู้คนจำนวนหนึ่งชื่นชม และให้กำลังใจการปฏิบัติหน้าที่ของเจ้าหน้าที่ตำรวจในเหตุการณ์นี้อยู่บ้างก็ตาม
คลิปเปิดฉากด้วยความุลมุนวุ่นวาย และปิดลงด้วยตำรวจหนุ่มชั้นผู้น้อยคนหนึ่งอุ้มผู้ต้องหาสาวที่ไม่ได้สติจากปฏิบัติการของตำรวงเองไปยังโรงพักที่อยู่ใกล้เคียง เพื่อดำเนินคดีต่อไป โดยไม่มีผู้ใดแยแสเยียวยาหญิงสาวที่อยู่ในอาการช็อก
ตามคำบอกเล่าของผู้เห็นเหตุการณ์ หญิงสาวหน้าตาดีคนนี้ขี่รถจักรยานยนต์โดยมีเพื่อนสาวนั่งซ้อนท้าย ขับฝ่าไฟแดงที่สี่แยกแห่งหนึ่งในเมืองหลวง และไม่ยอมหยุดเมื่อเจ้าหน้าที่จราจรสั่งให้หยุด และพยายามหลบหนี ทำให้เจ้าหน้าที่ตำรวจสายตรวจที่ผ่านไปพบขับรถจักรยานยนต์ไล่ติดตามไปจนทัน และแสดงตัวเข้าจับกุม
หญิงสาวปฏิเสธว่าไม่ได้กระทำการใดๆ ผิดกฎจราจร และขัดขืนการเข้าจับกุมอย่างสุดฤทธิ์ ร้องโวยวายตะโกนของความช่วยเหลือ รวมทั้งทั้งก่นด่า ตำรวจต้องใช้กำลังถึง 3 นาย ในปฏิบัติการครั้งนี้ ซ้ำยังมี “พลเมืองดี” เข้าช่วยอีกด้วย จึงทำให้สามารถใส่กุญแจมือผู้ต้องหาได้ ก่อนจะช่วยกันลากลู่ถูกังเพื่อนำไปยังโรงพัก ขณะที่หญิงสาวยังสวมหมวกกันน็อก
เหตุการณ์ชุลมุนนี้เกิดขึ้นต่อหน้าฝูงชนที่ไม่ทราบต้นสายปลายเหตุของเรื่อง หลายคนคิดว่าเป็นการจับกุมพวกค้ายาเสพติด หลายคนคิดว่าเป็นการจับกุมอาชญากรที่พยายามหลบหนี
แต่เพียงอึดใจเท่านั้น หญิงสาวที่ตะโกนโวยวายไม่หยุดด้วยความตกใจที่ถูกจับ และถูกใส่กุญแจมือ ก็ทรุดลงกับพื้นถนนนอนแน่นิ่งด้วยอาการช็อก ขณะตำรวจ และ “พลเมืองดี” ยังพยายามช่วยกันลากเธอต่อไป จนกระทั่งลากไม่ไหว ท่ามกลางฝูงชนที่ไถ่ถามกันเสียงกังอึงมี่จนจับต้นปลายไม่ถูก
เมื่อสถานการณ์ดูท่าจะไม่ดี ตำรวจจึงได้ไขกุญแจมือ ปล่อยให้หญิงผู้ต้องสงสัยรายนี้นอนกองอยู่กับพื้นถนน จนในที่สุด ตำรวจหนุ่มคนหนึ่งได้ตัดสินใจอุ้มหญิงสาวที่อยู่ในอาการกึ่งสิ้นสติ โดย “ผู้ต้องสงสัยนอนระทวยอยู่ในวงแขนขณะนำเธอไปยังโรงพัก” โด่ยโสงฟ๊าบหลวต หนังสือพิมพ์ออนไลน์ข่าวกฎหมายกับชีวิตประจำวันเพื่อประชาชน รายงานในวันจันทร์ 4 ก.ค.ที่ผ่านมา
ผู้อ่านจำนวนมากกล่าวว่า ตำรวจทำเกินกว่าเหตุ โดยผู้ต้องสงสัยรายนี้เป็นหญิงธรรมดาคนหนึ่งและไม่มีอาวุธ สวมหมวกกันน็อกซึ่งแสดงให้เห็นการปฏิบัติตามกฎหมายจราจร และถึงแม้จะขัดขืนการจับกุม แต่ก็ไม่ได้ต่อสู้ ตำรวจยังใส่กุญแจมือผู้ต้องสงสัยราวกับเป็นการจับกุมอาชญากรร้ายแรง นอกจากนั้น ตำรวจทั้ง 3 คน ยังไม่ใส่ใจจัดการกับฝูงชนที่ห้อมล้อม และไม่ได้ดูแลหญิงสาวที่ช็อกสิ้นสติไปด้วยความตกใจกลัว ฯลฯ
เสียงวิพากษ์วิจารณ์การยังมีมากกว่านี้ ขณะที่มีคนไม่มากที่ชื่นชม และให้กำลังใจในการปฏิบัติตามกฎหมาย “อย่างเด็ดขาด” ของฝ่ายเจ้าหน้าที่รัฐ
การถูกจับกุมเนื่องจากกระทำผิดกฎจราจรเป็นเรื่องใหญ่สำหรับประชาชนทั่วไปในเวียดนาม เป็นเรื่องที่เสียเวลา และไม่พึงปรารถนา โดยเฉพาะอย่างยิ่งถ้าหากพบว่าเป็นการกระทำผิดกฎหมายในขั้นร้ายแรง ทางการจะจับยึดยานพาหนะที่ใช้ก่อเหตุไว้ในระหว่างดำเนินคดีซึ่งอาจจะต้องใช้เวลาแรมปี หรือแม้ว่าผู้ก่อเหตุจะถูกลงโทษเปรียบเทียบปรับ และปล่อยตัวไปแล้วก็ตาม ตำรวจก็ยังสามารถอายัดยานพาหนะที่ประกอบการก่อเหตุเอาไว้ได้ต่อไปเช่นเดียวกัน.