ASTVผู้จัดการออนไลน์ - หลังทำพิธีวางศิลาฤกษ์การก่อสร้างเมื่อ 2 ปีที่แล้ว แต่การก่อสร้างรถไฟฟ้าใต้ดินนครโฮจิมินห์สายแรกเพิ่งจะเริ่มขึ้นในวันอังคาร 22 ก.ค.ศกนี้ หลังจากติดขัดล่าช้ามาหลายปี ถึงแม้จะมีเงินทุนสนับสนุนพร้อมแล้วก็ตาม ทั้งนี้ ด้วยหลากหลายปัญหาเนื่องจากเป็นสายที่จะต้องขุดผ่านใจกลางย่านธุรกิจ และสถานที่สำคัญหลายแห่ง
การก่อสร้างรถใต้ดินสายตลาดเบ๊นแถ่ง-ตลาดเสือยเตียน (Ben Thanh-Suoi Tien) ที่เริ่มขึ้นนี้เป็นสถานีแห่งแรกที่บริเวณสี่แยกถนนเหละเลย (Le Loi) ตัดกับถนนเหวียนเหวะ (Nguyen Hue) ใกล้กับโรงละครอันเป็นแลนด์มาร์กอีกแห่งหนึ่งของนครใหญ่ซึ่งก็คือ กรุงไซ่ง่อน ในอดีต หนังสือพิมพ์เเตื่ยแจ๋รายงาานเรื่องนี้ในเว็บไซต์ข่าวภาษาเวียดนาม
บริเวณสถานีแห่งนี้ 190 เมตร กว้าง 26 เมตร ลึกลงไปใต้ดิน 40 เมตร ประกอบด้วย 4 ชั้น ก่อสร้างโดยวิธี “ท็อป-ดาวน์” จากบนลงล่าง โดยตั้งเสา ขุดดิน และกั้นผนัง ก่อสร้างลงไปทีละชั้น ที่นี่รวมอยู่ในส่วนแรกของ “แพกเกจ 1B” ของระบบรถไฟฟ้าใต้ดินช่วงสั้นๆ แต่มีปัญหามากในการลงมือก่อสร้าง เนื่องจากทั้งหมดอยู่ในเขตอำเภอที่ 1 ซึ่งเป็นย่านธุรกิจใจกลางนคร และมีปัญหาเรื้อรังในการเวนคืนที่ดิน
พิธีวางศิลาฤกษ์รถใต้ดินสายเบ๊นแถ่ง-เสือยเตียน มีขึ้นเมื่อวันที่ 22 ส.ค.2555 ที่บริเวณอันเป็นอู่จอด-ซ่อมบำรุง ในเขตอำเภอที่ 2 รถไฟฟ้าใต้ดินสายนี้มีมูลค่ารวม 2,490 ล้านดอลลาร์ ประกอบด้วย ผู้รับเหมาก่อสร้าง 2 รายซึ่งได้แก่ บริษัทสุมิโตโมจากญี่ปุ่น และบริษัทก่อสร้างการจราจรหมายเลข 6 ของเวียดนาม รวมระยะทาง 19.7 กิโลเมตร จากตลาดเบ็นแถ่ง ผ่ากลางเมืองไปยังอำเภอบี่งแทง (Binh Thanh) อำเภอที่ 2 อำเภอที่ 9 และอำเภอถูดึ๊ก (Thu Duc) มุ่งหน้าไปทางทิศตะวันออกเฉียงเหนือ เข้าสู่เขตเมืองดิอาน (Di An) ของ จ.บี่งซเวือง (Binh Duong) ที่อยู่ติดกัน
ในนั้นระยะ 2.6 กม. แรกก่อสร้างอยู่ใต้ดิน อีก 11 กม.ที่เหลือซึ่งประกอบด้วย 11 สถานี จะเป็นรถไฟยกระดับขึ้นเหนือพื้นดินทั้งหมด มีกำหนดแล้วเสร็จในปี 2560 เริ่มเปิดให้บริการในปี 2561 ออกแบบให้สามารถขนส่งผู้โดยสารได้ 620,000 คนต่อวัน ทั้งนี้ เป็นตัวเลขของสำนักงานขนส่งนครโฮจิมินห์
ทางการนครได้อนุมัติโครงการในเดือน เม.ย.2550 ในนั้นเงินทุนราว 83% เป็นเงินกู้จากธนาคารเพื่อความร่วมมือระหว่างประเทศญี่ปุ่น หรือ JBIC (Japan Bank for International Cooperation) อีกส่วนหนึ่งเป็นเงินช่วยเหลือแบบให้เปล่า กับเงินงบประมาณสมทบอีก 186.6 ล้านดอลลาร์ ปัญหาเศรษฐกิจที่คุกคามระบบการเงินโลกในปี 2551 ทำให้ต้องชะลอโครงการและตั้งหลักกันอีกครั้ง ประกวดราคาก่อสร้างในปี 2553
นครโฮจิมินห์ ซึ่งมีประชากรกว่า 8 ล้านคน วางโครงการพัฒนาระบบขนส่งมวลชนที่สลับซับซ้อน แต่ทันสมัยหลายโครงการไปจนถึงปี 2563 ทั้งระบบรางใต้ดิน และลอยฟ้า รถไฟฟ้ารางเดี่ยว หรือ “โมโนเรล” (Monorail) และยังมีรถเมล์ด่วนขนส่งมวลชน (Bus Rapid Transit) อีกด้วย
นายดี่งลาถัง (Dinh La Thang) รัฐมนตรีกระทรวงขนส่งกล่าวในพิธีวางศิลาฤกษ์ว่า ต่อไปนี้การก่อสร้างระบบขนส่งมวลชนอื่นๆ อีก 5 สาย สำหรับนครโฮจิมินห์ กับอีก 8 สายในกรุงฮานอย จะดำเนินติดต่อกันไปอย่างเป็นกระบวนการ.