xs
xsm
sm
md
lg

ชาวขแมร์กรอมเดินสายยื่นคำร้องสถานทูตต่างชาติ ร้องเวียดนามยอมรับประวัติศาสตร์

เผยแพร่:   โดย: MGR Online

<br><FONT color=#000033>ภาพถ่ายเมื่อวันที่ 8 ก.ค. เผยให้เห็นพระสงฆ์โบกธงกัมปูเจียกรอม ระหว่างชุมนุมประท้วงด้านหน้าสถานทูตเวียดนามในกรุงพนมเปญ ผู้ชุมนุมอ้างว่ากัมปูเจียกรอมยังคงเป็นส่วนหนึ่งของกัมพูชาแม้ในอดีตฝรั่งเศสได้มอบดินแดนกัมปูเจียกรอมให้กับเวียดนามก็ตาม.-- Agence France-Presse/Tang Chhin Sothy.</font></b>

ซินหวา - พระสงฆ์ชาวขแมร์กรอม และนักเคลื่อนไหวราว 800 คน เดินขบวนไปตามเส้นทางต่างๆ ในวันนี้ (21) เรียกร้องให้นักการทูตเวียดนาม ยอมรับประวัติศาสตร์ที่แท้จริงของอดีตจังหวัดต่างๆ ในดินแดนกัมปูเจียกรอม

การชุมนุมประท้วงมีขึ้นหลังจาก นายจุง วัน ธง โฆษกสถานทูตเวียดนามประจำกัมพูชา กล่าวต่อสื่อท้องถิ่นเมื่อเดือนก่อนว่า อดีตจังหวัดต่างๆ ในดินแดนกัมปูเจียกรอม เป็นของเวียดนามมาก่อนที่ฝรั่งเศสจะส่งมอบดินแดนอย่างเป็นทางการในปี 2492

ผู้ชุมนุมประท้วงเดินขบวนผ่านถนนสายต่างๆ ในเมืองเพื่อยื่นคำร้องต่อสถานทูตต่างชาติ ที่รวมทั้ง ฝรั่งเศส อังกฤษ สหรัฐฯ สหภาพยุโรป รัสเซีย และจีน เพื่อขอความช่วยเหลือเรียกร้องให้นักการทูตเวียดนามยอมรับประวัติศาสตร์ที่แท้จริง

หลังจากยื่นหนังสือร้องเรียนไปยังสถานทูตต่างๆ แล้ว กลุ่มผู้ชุมนุมยังคงเดินขบวนไปยังสถานทูตเวียดนาม ที่มีการรักษาความปลอดภัยอย่างแน่นหนา กลุ่มผู้ชุมนุมพยายามที่จะยื่นหนังสือร้องเรียนต่อสถานทูต แต่เจ้าหน้าที่ปฏิเสธที่จะรับหนังสือดังกล่าว

ไม่มีรายงานเหตุปะทะระหว่างเจ้าหนาที่ตำรวจ และผู้ชุมนุมระหว่างการชุมนุมประท้วง

“การชุมนุมประท้วงของเราเพียงแค่ต้องการคำขอโทษจากนักการทูตเวียดนาม และเรียกร้องให้เขายอมรับประวัติศาสตร์ที่แท้จริงของอดีตจังหวัดในดินแดนกัมปูเจียกรอม” ประธานสหพันธ์นักศึกษาและปัญญาชนกัมพูชา ที่ร่วมจัดการชุมนุมกับสหพันธ์ขแมร์กัมปูเจียกรอมระหว่างประเทศ กล่าว

การชุมนุมครั้งนี้เป็นครั้งที่ 2 หลังจากการชุมนุมประท้วงในวันที่ 8 ก.ค. ที่ยุติลงด้วยการปะทะกันเล็กน้อยระหว่างตำรวจ และผู้ชุมนุม เป็นผลให้มีผู้ชุมนุมได้รับบาดเจ็บ 5 คน

สถานทูตเวียดนามประจำกัมพูชา ได้ออกคำแถลงฉบับหนึ่งในวันที่ 8 ก.ค. ประณามการประท้วง โดยระบุว่า ความเคลื่อนไหวดังกล่าวเป็นการกระทำที่แทรกแซงอำนาจอธิปไตย และกิจการภายในของเวียดนาม

“ภาคใต้ของเวียดนาม (กัมปูเจียกรอม) เป็นส่วนหนึ่งในดินแดนของเวียดนาม เป็นไปตามกฎหมายระหว่างประเทศ ที่ได้รับการยอมรับอย่างเต็มที่ โดยสหประชาชาติ องค์กรระหว่างประเทศ และทุกประเทศในโลก” คำแถลงระบุ.
กำลังโหลดความคิดเห็น