เอเอฟพี - ชาวมุสลิมในเมืองมัณฑะเลย์ เมืองใหญ่อันดับ 2 ของพม่า กล่าวหาเจ้าหน้าที่ตำรวจในวันนี้ (5) ว่า ยืนอยู่ข้างกลุ่มม็อบชาวพุทธที่ก่อเหตุอาละวาด และวางเผลิงเผาโรงเรียน และอาคารสิ่งปลูกสร้างอื่นๆ
กลุ่มคนที่อยู่ในอารมณ์สูญเสีย และโกรธแค้นก่อเหตุจลาจลขึ้นภายในเมืองมัณฑะเลย์ หลังเสร็จสิ้นงานศพของผู้เสียชีวิตชาวพุทธ อายุ 36 ปี ที่เป็นเหยื่อของเหตุความไม่สงบทางศาสนาที่ปะทุขึ้นครั้งล่าสุด
โรงเรียน และหอพักในพื้นที่สุสานของชาวมุสลิมที่อยู่ชานเมืองมัณฑะเลย์ กลายเป็นเถ้าถ่าน
“เจ้าหน้าที่ตำรวจมากกว่า 70 นาย อยู่ที่นี่ แต่ไม่ทำอะไร” วิน นาย ชาวมุสลิม ที่เห็นเหตุการณ์โจมตีจากที่ซ่อนภายในบ้านของเพื่อนชาวพุทธกล่าว และให้ข้อมูลเพิ่มว่า ผู้ก่อเหตุไม่สงบบางคนมีอาวุธ เช่น ไม้ ท่อเหล็ก และเลื่อย
คาดว่าไม่มีเด็กอยู่ในโรงเรียนในช่วงเวลาที่เกิดเหตุ และไม่มีใครได้รับบาดเจ็บจากการโจมตีครั้งนี้
ความรุนแรงที่เกิดขึ้นต่อเนื่องหลายวันซึ่งจุดชนวนขึ้นจากการกล่าวหาว่า มีเหตุข่มขืนยังทำให้มีชาวมุสลิมเสียชีวิตอีก 1 คน และมีผู้ได้รับบาดเจ็บ 14 คน
“เจ้าหน้าที่ตำรวจสามารถเข้าหยุดกลุ่มม็อบได้แต่พวกเขาไม่ทำ” ซอ ซอ ลัต ชาวมุสลิม กล่าว
ประชาชนอย่างน้อย 250 คน ถูกสังหารทั่วพม่านับตั้งแต่ปี 2555 ในการปะทะกันระหว่างชาวพุทธและมุสลิมที่เป็นเงาบดบังการปฏิรูปการเมืองของประเทศ
เจ้าหน้าที่ตำรวจถูกกล่าวหาว่า เพิกเฉยไม่ดำเนินการใดๆ ในอดีตที่ผ่านมา และรัฐบาลได้ระดมกำลังทหารเข้าดูแลความสงบเรียบร้อยในบางกรณี
รัฐออกคำสั่งเคอร์ฟิวในช่วงเวลากลางคืน และจับกุมผู้ต้องสงสัย 9 คน ที่เชื่อมโยงกับเหตุความรุนแรงที่เกิดขึ้นเมื่อเร็วๆ นี้
เจ้าหน้าที่ตำรวจกล่าวว่า ได้เสริมมาตรการรักษาความปลอดภัยเพื่อป้องกันเหตุตามเมืองต่างๆ รวมทั้งนครย่างกุ้ง ที่ประชากรในเมืองมีความหลากหลายทั้งทางศาสนา และชาติพันธุ์ชนกลุ่มน้อย
ผู้ใช้งานสื่อสังคมออนไลน์ระบุว่า ไม่สามารถเข้าใช้งานเว็บไซต์เฟซบุ้กในคืนวันศุกร์ (4) ท่ามกลางการคาดการณ์ว่า รัฐบาลได้บล็อกเว็บไซต์เพื่อควบคุมการแพร่กระจายการแสดงความคิดเห็นที่อาจก่อให้เกิดความโกรธแค้น และเว็บไซต์กลับมาใช้งานได้ตามปกติอีครั้งในวันนี้ (5)