ASTVผู้จัดการออนไลน์ - ประชาคมออนไลน์เวียดนามช็อกกันเป็นแถว เมื่อนักตกปลาคนหนึ่งนำวิดีโอคลิปที่เพื่อนเป็นผู้ถ่ายเอาไว้ด้วยโทรศัพท์มือถือเผยแพร่ในเฟซบุ๊กฟอรัมนักตกปลาแห่งนครด่าหนัง ในวันเสาร์ 7 มิ.ย.นี้ เพื่อพิสูจน์ว่าภาพที่ตัวเขาเองถ่ายคู่กับปลาพญานาคและนำขึ้นเผยแพร่ในโลกออนไลน์สัปดาห์ที่แล้ว เป็นของแท้แน่นอน
คลิปแสดงให้เห็นชายที่ทราบชื่อภายหลังคือ นายเหวียนวันแอง (Nguyen Van Anh) วัย 61 ปีหนุ่มอุ้มปลาประหลาดขณะยังมีชีวิตอยู่ และกำลังดิ้น พร้อมกับโชว์อุปกรณ์ตกปลาที่เป็นเพียงเบ็ดคันเล็กๆ โดยที่เบ็ดยังติดอยู่ที่ปากของปลาเคราะห์ร้าย ในเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นวันที่ 30 พ.ค. ที่ผ่านมา
สำหรับหลายๆ คน เหตุการณ์ในคลิปเป็นเรื่องราวที่น่าตะลึงงันทีเดียว เพราะว่าอาจจะมีโอกาสเพียงหนึ่งในล้านที่ปลาหายากจากมหาสมุทรสุดลึกไปกินเบ็ดของนักตกปลาธรรมดาๆ คนหนึ่งในแถบใกล้ชายฝั่งทะเลเวียดนาม โดยที่เขาเองไม่ต้องนั่งเรือยอชต์สุดหรูออกล่าในทะเลหลวงพร้อมกับคันเบ็ดที่ใช้รอกมอเตอร์หมุนสายเบ็ดแทนแรงคนที่มีราคาเรือนแสน
ตามรายงานในเว็บไซต์หนังสือพิมพ์ออนไลน์โด่ยโสงฟ๊าบหลวด (Dai Song Phap Luat) ชาวเน็ตเวียดนามเชื่อกันว่า นี่เป็นกรณีแรกของโลกที่มนุษย์คนหนึ่งสามารถตกได้ปลาหายากชนิดนี้ได้ ซึ่งถิ่นอาศัยของมันเป็นทะเลใหญ่ที่น้ำลึกตั้งแต่ 1,000 เมตรขึ้นไป อย่างน้อยที่สุดก็ยังไม่เคยมีข่าวคราว หรือมีบันทึกการจับปลาจากทะเลลึกชนิดนี้ได้แบบตัวเป็นๆ โดยนักตกปลาคนหนึ่ง
โลกตะวันตกเรียกว่า Oarfish หรือ “ปลาไม้พาย” และครั้งหนึ่งมันเคยเป็น “งูยักษ์แห่งมหาสมุทร” ในตำนานของนักเดินเรือครั้งโบราณกาล
บางช่วงในคลิปมีเสียงพูดคุยกันระหว่างผู้ถ่ายคือ นายเจิ่น เถ ซวุง (Tran The Dung) กับชายนักตกปลาวัยดึกที่สร้างประวัติการณ์นี้ แต่ไม่ได้มีการกล่าวถึงรายละเอียดใดๆ เกี่ยวกับวิธีการ รวมทั้งเหยื่อที่พวกเขาใช้
.
.
ตามรายงานในเฟซบุ๊กชมรมตกปลา “ฮายวัน” (Hai Van Fishing Club) ในนครด่าหนังก่อนหน้านี้ ปลาพญานาคกินเบ็ดในอ่าวจานเมย (Chan May) จ.เถือะเทียนเหว (Thau Thien Hue) ที่อยู่ถัดขึ้นไปทางเหนือในภาคกลางตอนบนของประเทศ เวลาต่อมา นายแอง กับนายซวุง ได้ร่วมกับราษฎรในท้องถิ่นจัดพิธีกรรมฝังปลายตัวนี้เอาไว้ที่หาดทรายริมอ่าวแห่งนั้น หลังจากมันสิ้นแรง และสิ้นใจ ทั้งนี้เป็นไปตามความเชื่อของชาวประมงในย่านนั้น
อย่างไรก็ตาม มีภาพเหตุการณ์จำนวนหนึ่งที่เพิ่งจะเผยแพร่ในวันเสาร์นี้แสดงให้เห็นว่า บุคคลทั้งสองได้นำปลาที่ตกได้กลับไปยังบ้านของพวกเขาในนครด่าหนัง
ผู้อ่านหลายคนไม่เชื่อว่าภาพดังกล่าวเป็นเรื่องที่เกิดขึ้นจริง ซึ่งอาจจะเป็นสาเหตุให้มีการนำคลิปเหตุการณ์เดียวกันออกเผยแพร่เป็นการพิสูจน์ และคราวนี้หลายคนกล่าวว่า น่าเสียดายที่ไม่มีโอกาสเก็บปลาชนิดนี้เอาไว้ รวมทั้งเสนอแนะให้นักวิทยาศาสตร์แห่งสถาบันสมุทรศาสตร์เมืองญาจางที่อยู่ถัดลงไปทางตอนใต้หาทางนำปลาตัวนี้ไปสตัฟฟ์เก็บเอาไว้ในพิพิธภัณฑ์ให้คนรุ่นหลังได้ดู.