ก้าวเข้าสู่อีกยุค เวียดนามขึ้นระวางประจำการเรือดำน้ำลำแรก

<bR><FONT color=#00003>เวียดนามก้าวมาถึงวันนี้จนได้ เรือดำน้ำเป็นความใฝ่ฝันอันยาวนานของประเทศที่มีชายฝั่งทะเลยาวกว่า 3,000 กิโลเมตรและอุดมด้วยทรัพยากรพลังงาน เรือดำน้ำได้เปลี่ยนรูปโฉมกำลังรบทางเรือของภูมิภาคนี้ไปอีกขั้นหนึ่ง หลายประเทศที่ยังไม่มีต่างขวนขวายที่จะมี ประเทศที่มีแล้วเร่งพัฒนาขีดความสามารถในการป้องกันทางน้ำให้ทันสมัยยิ่งๆ ขึ้น. -- ภาพ: กวนโด่ยเญินซเวิน กองทัพประชาชน. </b>

ASTVผู้จัดการออนไลน์ – กองทัพเรือเวียดนามได้ทำพิธีขึ้นระวางประจำการเรือดำน้ำนครฮานอย (HQ-182 Hanoi City) ในวันพุธ 15 ม.ค.ที่ผ่านมา ซึ่งนักวิเคราะห์มองล่วงหน้าว่าเป็นเหตุการณ์ที่ทำให้ภูมิภาคนี้เข้าสู่อีกยุคหนึ่งที่แสนยานุภาพทางเรือได้เปลี่ยนไปและทำให้ประเทศอื่นๆ ที่ยังไม่มีต้องแสวงหาเตรียมจัดซื้อจัดหาเรือดำน้ำของตัวเอง ประเทศที่มีอยู่แล้วต่างจะต้องพัฒนายกระดับเพื่อการป้องกันประเทศ

เรื่องนี้เกิดขึ้นในขณะที่สื่อกลาโหมของต่างประเทศออกรายงานเมื่อเร็วๆ นี้ว่ากองทัพเรือไทยได้เปลี่ยนเป้าหมายไปจัดซื้อเรือดำน้ำใหม่จำนวน 1 ลำ แทนการซื้อเรือลำน้ำที่ใช้แล้วหลายลำตามแผนการก่อนหน้านี้

พลเรือโทอาวุโสเหวียนวันเฮียน (Nguyen Van Hien) รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงกลาโหมและผู้บัญชาการทหารเรือ ซึ่งประธานในพิธีได้เป็นผู้มอบธงชาติ ธงกองทัพเรือและธงประจำเรือดำน้ำนครฮานอยให้แก่ผู้บัญชาการกองพลน้อยเรือดำน้ำที่ 189 หน่วยสังกัดของเรือดำน้ำนครฮานอย ซึ่งประจำที่ฐานทัพเรืออ่าวกามแรง (คัมราน) จ.แค้งหว่า (Khanh Hoa) ในภาคกลางของประเทศ

ผู้รับมอบธงประจำเรือคือ นาวาโทเหวียนวันกวาน (Nguyen Van Quan) ผู้บังคับการเรือนครโฮจิมินห์ มี พล.ร.ต.ฝ่ามหง็อกมีง (Pham Ngoc Minh) เสนาธิการกองบัญชาการอำนวยการกองทัพเรือกับผู้บังคับบัญชาของหน่วนอื่นๆ ในกองทัพเข้าร่วมพิธีอย่างคับคั่ง สื่อของทางการรายงาน

เรือนครฮานอยเป็นเรือชั้นคิโล (Kilo-Class) ในนิยามของกลุ่มนาโต้ เป็นลำแรกในจำนวน 6 ลำที่เวียดนามเซ็นสัญญาซื้อจากรัสเซียในปลายปี 2552 ระหว่างการเยือนอย่างเป็นทางการขอองนายกรัฐมนตรีเวียดนามเหวียนเติ๋นยวุ๋ง ต่อที่อู่ต่อเรือแอดมิรัลตี (Admiralty Shipyard) นครเซ็นปีเตอร์สเบิร์ก ซึ่งจัดส่งถึงเวียดนามในวันสิ้นปีที่ผ่านมา ก่อนจะเข้าสู่ขบวนการแล่นทดสอบอีกครั้งหนึ่ง รวมทั้งทดสอบทางเทคนิคและระบบอาวุธรวม 20 เนื้อหาจนเป็นที่พอใจ หนังสือพิมพ์เตื่อยแจ๋รายงานในเว็บไซต์ข่าวภาษาเวียดนาม

เรือดำนำของเวียดนามเป็นแบบที่ใช้เครื่องยนต์ดีเซลกับมอเตอร์ไฟฟ้าผสมผสานในการขับเคลื่อน ใช้ลูกเรือประจำการ 52 คน มีขนาดระวาง 3,000-3,950 มีขนาดใหญ่ที่สุดและทันสมัยที่สุดเท่าที่มีประจำการในกองทัพเรือ ในกลุ่มอาเซียนขณะนี้ ดำได้ลึกสุด 300 เมตร มีรัศมีปฎิบัติการ 9,600-12,500 กิโลเมตร สามารถดำรงอยู่ใต้น้ำได้อย่างอิสระเป็นเวลา 45 วัน

เรือติดท่อยิงตอร์ปิโดจำนวน 6 ท่อ ติดตั้งระบบป้องกันทางอากาศ ติดระบบสงครามอิเล็กทรอนิกส์และติดจรวดนำวิถีความเร็วเหนือเสียงจากรัสเซียที่สามารถจมเรือบรรทุกเครื่องบินได้ ยิงโจมตีเป้าหมายภาคพื้นดินได้ กลุ่มนาโต้กล่าวว่าเรือชั้นคิโลเป็นเรือที่เงียบที่สุดอีกรุ่นหนึ่งของโลกและเป็น "หลุมดำในมหาสมุทร" มีพิษสงรอบตัว

ตามรายงานของวิทยุกระจายเสียงรัสเซียอู่ต่อเรือแอดมิรัลตี้กำลังจะส่งเรือลำที่ 2 นครโฮจิมินห์ (HQ-183 Ho Chi Minh City) ไปให้เวียดนามในปลายเดือน ก.พ.นี้ซึ่งเร็วกว่ากำหนดเดินราว 3 เดือน และลำที่ 3เรือนครหายฝ่อง (HQ-184 Haiphong City) จะส่งให้ตามกำหนดก่อนสิ้นปีนี้

พัฒนาการต่างๆ เหล่านี้ยังมีขึ้นในขณะที่กระทรวงกลาโหมอินโดนีเซียส่งคณเจ้าหน้ที่ระดับสูงไปยังอู่ต่อเรือในนครเซ็นต์ปีเตอร์สเบิร์กช่วงหลังปีใหม่ที่ผ่านมาเพื่อศึกษาและดูเรือกดำน้ำชั้นคิโลในแผนการที่ผู้บัญชการกองทัพเรือเปิดเผยเมื่อเดือน ธ.ค.ปีที่แล้วว่า กำลังจะจัดซื้อจำนวน 10 ลำ ไม่รวมกับอีก 1 ลำ ที่ซื้อจากเกาหลี

ตามรายงานของเจนส์ (Jane's) สำนักข่าวกลาโหมที่ได้รับการเชือถือมากที่สุดอีกแห้งหนึ่งของโลก กองทัพเรือไทยได้เปิดเผยแผนการใหม่ที่จะจัดซื้อเรือดำน้ำใหม่เอี่ยมใจำนวน 1 ลำ เปลี่ยนไปจากแผนการเดิมที่เคยพยายามซื้อเรือขนาดเล็กที่ปลดระวางแล้วจากเยอรมนี แต่แผนการถูกล้มเลิกไปในต้นปี 2553 ส่วนลำใหม่จะเป็นเรือที่ต่อในเยอรมนีหรือในเกาหลี

แผนการจัดซื้อของราชนาวีอยู่ใน "ชอปปิ้งลิสต์" ประจำปี 2557 ของกองทัพไทย ขณะที่กองทัพอากาศเดินหน้าจัดซื้อเครืองบินรบอเนกประสงค์ JAS-39 กริพเพนอีก 1 ฝูง 12 ลำ กับเฮลิคอปเตอร์อีกจำนวนหนึ่ง ขณะที่กองทัพบกจะจัดซื้อรถถัง T-84 โอปล็อต-M จากรัฐยูเครนต่อไป เจนส์รายงานโดยอ้างแหล่งข่าวในกองทัพไทยในสัปดาห์ก่อนสิ้นปี.
.
เขี้ยวเล็บแหลมคม กวนโด่ยเญินซเวิน [Quân Đội Nhân Dân] "กองทัพประชาชน"