ASTVผู้จัดการออนไลน์ - เวียดนามจะได้รับมอบเรือดำน้ำลำแรก โดยจะมีการลงนามในเอกสารมอบ-รับทางเทคนิคที่อู่ต่อเรือแอดมิรัลตี (Admiralty Ship Yard) นครเซ็นต์ปีเตอร์ ในวันพฤหัสบดี 7 พ.ย.นี้ หลังจากวันอังคาร 5 พ.ย.ที่ผ่านมา เวียดนามกับรัสเซียได้ทำพิธีรับมอบศูนย์ฝึกอบรมเรือดำน้ำที่อ่าวกามแรง (คัมราน) ซึ่งรัสเซียสร้างขึ้นตามสัญญาจัดซื้อหาเรือดำน้ำเมื่อปี 2552
เรือนครฮานอย HQ-182 จะเป็นเรือดำน้ำคิโล (Kilo-Class) ลำแรก จากทั้งหมด 6 ลำ ที่ซื้อจากรัสเซีย เป็นมูลค่าประมาณ 2,000 ล้านดอลลาร์ในแพกเกจใหญ่ รวมทั้งการจัดหาวัสดุอุปกรณ์ที่จำเป็น และการฝึกฝนบุคลากรให้ฝ่ายเวียดนามด้วย
ภายหลังการเซ็นสัญญารับมอบวันพฤหัสบดีนี้แล้ว เรือจะยังอยู่ในนครเซ็นต์ปีเตอร์สเบิร์กต่อไปอีกพักหนึ่ง ก่อนฝ่ายรัสเซียจะนำขึ้นบรรทุกบนเรือขนส่งไปยังเวียดนาม พิธีรับมอบครั้งสุดท้ายจะจัดขึ้นในเดือน ม.ค.ปีหน้า สำนักข่าวทาส (ITAR-TASS) ของทางการรายงานในวันพุธนี้
เป็นที่ทราบกันมานานแล้วว่า รัสเซีย มีกำหนดจัดส่งเรือดำน้ำลำแรกให้เวียดนามในเดือน พ.ย.นี้ เพื่อส่งมอบอย่างเป็นทางการในต้นปีหน้า เรือจะเดินทางมุ่งสู่เวียดนาม พร้อมกับทหาร และเจ้าหน้าที่ประจำเรือราว 40 นาย ที่สำเร็จการฝึกอบรมในรัสเซียเป็นเวลา 1 ปีครึ่ง สำนักข่าวแห่งเดียวกันรายงาน
ปัจจุบัน รัสเซียต่อเรือดำน้ำให้กองทัพเรือเวียดนามแล้วเสร็จไป 2 ลำ คือ เรือนครฮานอย เรือนครโฮจิมินห์ HQ-183 และเรือนครหายฝ่อง HQ-184 ลำที่ 3 ซึ่งทำพิธีปล่อยลงน้ำในเดือน ก.ย.ที่ผ่านมา ตามสัญญาซื้อขายฝ่ายรัสเซียจะต้องทยอยส่งมอบเรือให้เวียดนามทั้งหมดภายในปี 2559
สำนักข่าวของทางการรัสเซียไม่ได้ให้รายละเอียดใดๆ อีกเกี่ยวกับกำหนดการขนส่งเรือไปยังเวียดนาม หลังจากสำนักข่าวโนวอสติรายงานก่อนหน้านี้ว่า รัสเซียมีแผนการจะแล่นเรือนครฮานอย จากเซ็นต์ปีเตอร์สเบิร์ก ออกมหาสมุทรแอตแลนติกไปอ้อมแหลมแอฟริกา ตัดผ่านเข้าสู่มหาสมุทรอินเดีย เพื่อไปยังทะเลจีนใต้ และเวียดนาม
เว็บไซต์ Kanwa ซึ่งเป็นสำนักข่าวกลาโหมที่มีชื่อเสียงในแคนาดา รายงานก่อนหน้านี้ว่า เรือดำน้ำเวียดนามเป็นชั้นคิโลรุ่นปรับปรุง (Improved Kilo-Class) ทันสมัยกว่าเรือชั้นเดียวกันที่รัสเซียขายให้จีน จำนวน 10 ลำ เมื่อกว่า 10 ปีก่อน และทันสมัยกว่าเรือชั้นเดียวกันที่ประจำการในกองทัพเรืออินเดีย รวมทั้งเรือสินธุกูฏที่เกิดระเบิด และไฟไหม้เมื่อเดือนก่อนด้วย
.
2
3
4
5
เรือคิโลรุ่นปรับปรุงมีการเปลี่ยนแปลงใหม่หลายรายการ รวมทั้งระบบอิเล็กทรอนิกส์ ระบบควบคุมและนำร่อง มีการปรับรูปร่างในหลายส่วนทำให้ดูเพรียวขึ้น ลดการสะท้อนโซนาร์ทำให้หลบเลี่ยงการตรวจจับของเรดาร์ได้ดีขึ้น ติดอาวุธรุ่นใหม่เป็นจรวดที่มีหัวรบขนาดใหญ่กว่า สามารถจมเรือข้าศึกได้ด้วยนัดเดียว และมีขีดความสามารถในการโจมตีเป้าหมายบนพื้นทวีปได้อีกด้วย เว็บไซต์แห่งเดียวกันระบุ
แหล่งข่าวการทหารในรัสเซียบอกกับเว็บต์ข่าวกลาโหมแห่งนี้ว่า เรือดำน้ำจะทำให้เวียดนามมีพลังต่อรองมากขึ้นหากเกิดการเผชิญหน้าในทะเลจีนใต้
ศาสตราจารย์คาร์ล เทเยอร์ (Carl Thayer) ผู้เชี่ยวชาญเรื่องเวียดนามประจำสถาบันป้องกันประเทศแห่งออสเตรเลีย เขียนลงในนิตยสารเดอะดิโพลแมต (The Diplomat) ก่อนหน้านี้ว่า เมื่อเวียดนามเริ่มได้รับเรือดำน้ำในปีหน้า ดุลอำนาจทางนาวีในย่านทะเลจีนใต้ และเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ก็จะเริ่มเปลี่ยนไปด้วย
ตามรายงานก่อนหน้านี้ รัสเซีย จะส่งมอบเรือดำน้ำลำที่ 2 ราวกลางปีหน้า และลำที่ 3 ในช่วงปลายปี
เรืออื่นๆ ที่เหลือได้ชื่อเป็น เรือนครด่าหนัง HQ-185 เรือแค้งฮวา (Khanh Hoa) HQ-186 กับเรือบ่าเหรียะ-หวุงเต่า (Ba Ria-Vung Tau) HQ-187 ซึ่งจำนวน 4 ลำตั้งชื่อตามนครกับจังหวัดริมฝั่งทะเลจีนใต้.