ASTVผู้จัดการออนไลน์ - รัฐวิสาหกิจการบินลาวได้เซ็นสัญญากู้ยืมเงินจากธนาคารพาณิชย์ของรัฐในสัปดาห์นี้ เพื่อการจัดซื้อเครื่องบินโดยสารเทอร์โบพร็อพใหม่เอี่ยม จำนวน 2 ลำ แบบเดียวกับลำที่ตกลงในแม่น้ำโขงเมืองปากเซ 2 เดือนก่อนหน้านี้ อันเป็นเหตุให้ลูกเรือกับผู้โดยสาร จำนวน 49 คน เสียชีวิตทั้งหมด
การเซ็นสัญญาเงินกู้ที่ไม่มีการเปิดเผยจำนวนเงิน จัดขึ้นในนครเวียงจันทน์ วันจันทร์ 23 ธ.ค.ระหว่างผู้บริหารรัฐวิสาหกิจการบินลาว และธนาคารการค้าต่างประเทศลาว จำกัด (มหาชน) (BCEL) รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงโยธาธิการและขนส่งผู้หนึ่งกับเจ้าหน้าที่ระดับสูงของฝ่ายต่างๆ ที่เกี่ยวข้องเข้าร่วมพิธีเป็นจำนวนมาก หนังสือพิมพ์เวียงจันทน์ใหม่รายงาน
เครื่องบิน ATR72-600 หนึ่งลำเป็นการจัดซื้อตามแผนพัฒนาธุรกิจของสายการบินแห่งชาติ ส่วนอีกลำจัดซื้อเพื่อใช้แทนลำที่ตกเมื่อวันที่ 16 ต.ค.2556 หนังสือพิมพ์ของทางการนครเวียงจันทน์กล่าว
ในโอกาสเดียวกันนี้ ยังมีการเซ็นรับมอบเงิน 22 ล้านดอลลาร์ ระหว่างผู้อำนวยการใหญ่รัฐวิสาหกิจการบินลาว กับผู้อำนวยการใหญ่ BCEL และผู้อำนวยการใหญ่บริษัทร่วมทุนประกันภัยลาว-เวียดนาม (ลาว-เหวียดอินชัวรันซ์) อีกด้วย จำนวนดังกล่าวเป็นเงินชดเชยความเสียหายสำหรับเครื่องบินที่ตก โดยบริษัทประกันภัยมอบให้ธนาคารการค้าต่างประเทศผู้เป็นเจ้าของเงินกู้ในการจัดซื้อ หนังสือพิมพ์ของทางการรายงาน
สื่อของทางการไม่ได้กล่าวถึงข้อมูลใดๆ เกี่ยวกับเงินชดเชยความเสียหายที่หน่วยงานรับผิดชอบจะต้องจ่ายให้แก่ผู้โดยสาร กับลูกเรือที่ประสบเคราะห์
ตามรายงานก่อนหน้านี้ กล่องบันทึกการสนทนาโต้ตอบระหว่างนักบิน กับหอบังคับการบินที่กู้ขึ้นจากแม่น้ำโขง และส่งไปตรวจในฝรั่งเศสโดยบริษัทผู้ผลิตเครื่องบินนั้น ไม่สามารถบ่งบอกสาเหตุที่ทำให้เครื่องบินตกครั้งนั้นได้ และยังไม่มีความคืบหน้าใดๆ เกี่ยวกับเรื่องนี้อีกตั้งแต่นั้น.