ASTVผู้จัดการรายวัน-รัฐบาลลาวแถลงอย่างเป็นทางการ อุบัติเหตุเครื่องบินโดยสารสายการบินลาวตก เหตุสภาพอากาศเลวร้าย ทำให้มีผู้เสียชีวิต 49 คน จาก 11 ประเทศ ล่าสุดพบแล้ว 16 ศพ-ยังไม่พบศพ 5 คนไทย ไทย นักประดาน้ำช่วยค้นหา “เพ้ง”ยังไม่รู้ชะตากรรม 2 พนักงาน ปตท.
วานนี้(17 ต.ค.56) จากกรณีเครื่องบินโดยสารของสายการบินภายในประเทศของลาวซึ่งเป็นเครื่องบินแบบ ATR ขนาด 2 เครื่องยนต์ของสายการบินลาว บินขึ้นจากสนามบินวัดไต นครหลวงเวียงจันทน์ สปป.ลาว มุ่งหน้าสู่เมืองปากเซ แขวงจำปาสัก ประเทศลาว ขณะที่เครื่องบินกำลังจะนำเครื่องลง ทางหอบังคับการบินที่ปากเซ ได้แจ้งเตือนนักบินไม่ให้นำเครื่องลงเนื่องจากสภาพอากาศปิด มีฝนตกเนื่องจากอิทธิพลของพายุไต้ฝุ่นนารี แต่นักบินซึ่งเป็นชาวกัมพูชา ได้พยายามจะนำเครื่องลง แต่ขณะที่เครื่องกำลังจะแตะพื้นรันเวย์ นักบินมองไม่เห็นรันเวย์ จึงได้ดึงเครื่องขึ้นอีกครั้งทำให้เครื่องบินลำดังกล่าวเสียการทรงตัว ตกลงแม่น้ำโขง บริเวณบ้านพะลง เมืองโพนทอง ตรงข้ามบ้านเขาะ เมืองปากเซ แขวงจำปาสัก ห่างจากสนามบินนานาชาติเมืองปากเซประมาณ 3 ก.ม.ทำให้มีผู้โดยสารจำนวน 44 คน พร้อมลูกเรือ 3 คน และนักบิน 2 คน เสียชีวิตยกลำ รวม 49 คน เมื่อวันที่ 16 ต.ค.ที่ผ่านมา
ล่าสุด ชุดประดาน้ำและหน่วยกู้ภัยของประเทศไทย ที่เดินทางไปให้การช่วยเหลือ ในการกู้ซากเครื่องบินและค้นหาศพที่เหลือหลังจากเมื่อช่วงเช้าที่ผ่านมา ค้นหาศพพบแล้ว 5 ศพ ล่าสุดเมื่อช่วงบ่ายวันที่ 17 ต.ค.2556 เจ้าหน้าที่สามารถค้นหาศพเพิ่มได้อีก 6 ศพรวมเป็น 11 ศพ แต่ยังไม่พบศพผู้เสียชีวิตชาวไทยทั้ง 5 คนได้แก่ 1.นายคนึง ชาติเกษมชัย อายุ 47 ปี 2.นายนิพล ชัยชนะกุลดี อายุ 27 ปี 3.นายภควัต อธิรัตนชัย อายุ 50 ปี 4.นายวีกิจ บุศราวุธานุสรณ์ อายุ 38 ปี 5.นายยรรยง อาภาอนันต์ อายุ 29 ปี โดยการค้นหาศพเป็นไปด้วยความยากลำบาก เนื่องจากกระแสน้ำไหลเชี่ยวมาก ทางญาติของคนไทยที่เดินทางมากับเครื่องบินลำดังกล่าวยังมีความหวังว่าจะมีผู้รอดชีวิต ตราบใดที่ยังไม่พบศพของลูกหลานตน
ที่ศูนย์ประสานงานและให้ความช่วยเหลือกรณีผู้ประสบภัยทางเครื่องบิน ที่ สปป.ลาว ด่านตรวจคนเข้าเมืองช่องเม็ก ต.ช่องเม็ก อ.สิรินธร จ.อุบลราชธานี พ.ต.ท.อนุสรณ์ นุชนนท์ สารวัตรตรวจคนเข้าเมืองจังหวัดอุบลราชธานี ทำหน้าที่หัวหน้าตรวจคนเข้าเมืองด่านช่องเม็ก เปิดเผยว่า ศูนย์ประสานงานได้จัดตั้งขึ้นหลังจากทราบว่ามีเครื่องบินตก โดยทางจังหวัดได้ดำเนินการเพื่ออำนวยความสะดวกในการช่วยเหลือซึ่งทางแขวงจำปาสักได้ส่งเจ้าหน้าที่มาประสานขอความช่วยเหลือในเรื่องของการค้นหาศพและกู้ซากเครื่องบิน ส่วนญาติของผู้เสียชีวิตชาวไทยที่จะขอเดินทางไปยังประเทศลาว ทางศูนย์ก็จะอำนวยความสะดวกในการข้ามแดน ล่าสุดจากการประสานงานไปยังชุดกู้ชีพ พบว่ายังไม่ปรากฏว่าพบศพคนไทยเสียชีวิต โดยขณะนี้พบศพแล้วรวม 10 ศพยังไม่มีคนไทย
อีกด้าน รัฐบาลลาวแถลงอย่างเป็นทางการว่า อุบัติเหตุเครื่องบินโดยสาร ATR72-600 หมายเลข RDPD 34233 ของสายการบินลาว ตกเพราะสภาพอากาศเลวร้าย ทำให้มีผู้เสียชีวิต 49 คน จาก 11 ประเทศ ซึ่งรัฐบาล ได้ส่งเจ้าหน้าที่กู้ภัยเข้าไปยังที่เกิดเหตุ ส่วนรัฐบาลออสเตรเลีย ระบุว่า ได้รับแจ้งว่าไม่คิดว่าจะมีผู้รอดชีวิต
กระทรวงงานสาธารณะและขนส่งของลาว ระบุด้วยว่า เครื่องบินกำลังเตรียมลงจอดที่สนามบินปากเซท่ามกลางสภาพอากาศเลวร้ายอย่างหนัก ก่อนจะร่วงลงสู่แม่น้ำโขง
ทางการสายการบินจะทำทุกวิถีทางที่จำเป็นในการให้ประสานงานและส่งทุกหน่วยงานกู้ภัย เข้าไปยังที่เกิดเหตุ ด้วยความหวังว่าจะพบผู้รอดชีวิต แต่แถลงการณ์จากกระทรวงต่างประเทศและการค้าของออสเตรเลีย ระบุว่า ทางการลาวได้แจ้งไปยังสถานทูตออสเตรเลียในกรุงเวียงจันทน์แล้วว่า ไม่คิดว่าจะพบผู้รอดชีวิต
นายเสข วรรณเมธี อธิบดีกรมสารนิเทศและโฆษกกระทรวงการต่างประเทศ กล่าวถึงความคืบหน้า ว่า เจ้าหน้าที่จากสถานกงสุลใหญ่ ณ แขวงสะหวันนะเขต ประเทศลาว ได้เดินทางไปที่เมืองปากเซ เพื่อร่วมพิสูจน์เอกลักษณ์บุคคลว่าเป็นคนไทย 5 ราย ตามที่มีรายงานเบื้องต้นหรือไม่ โดยขณะนี้ทุกร่างยังคงถูกเก็บอยู่ที่ลาว ไม่ได้อยู่ที่โรงพยาบาลสรรพสิทธิประสงค์ จ.อุบลราชธานี ตามที่มีรายงานข่าว เพราะต้องออกใบมรณบัตร จากนั้นเจ้าหน้าที่ฯ จะประสานกับญาติเพื่อสอบถามการประกอบพิธีฌาปนกิจต่อไป
อย่างไรก็ตามนายสุรพงษ์ โตวิจักษณ์ชัยกุล รองนายกรัฐมนตรี และ รมว.ต่างประเทศ ได้ประสานกับนายทองลุน สีสุลิด รองนายกรัฐมนตรี และ รมว.ต่างประเทศ สปป.ลาว โดยได้แสดงความเสียใจกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น และแสดงความพร้อมที่จะช่วยเหลือในการค้นหาผู้ที่เสียชีวิตและความสะดวกในด้านต่าง ๆ ขณะเดียวกัน เอกอัครราชทูตไทย ณ กรุงเวียงจันทน์ ได้ประสานงานอย่างใกล้ชิดกับทางการสปป.ลาวในภารกิจนี้แล้ว โดยเบื้องต้นได้ประสานให้นักประดาน้ำจาก จ.อุบลราชธานี จำนวน 30 คน ไปช่วยค้นหาร่างผู้เสียชีวิต
อย่างไรก็ตาม เบื้องต้นทางสายการบินลาวยังไม่ได้เปิดเผยรายชื่อผู้โดยสารทั้งหมดอย่างเป็นทางการ ส่วนญาติของผู้ที่โดยสารในเที่ยวบินดังกล่าวสามารถติดต่อสอบถามความคืบหน้าและยืนยันรายชื่อได้ที่กองคุ้มครองผลประโยชน์คนไทยในต่างแดน กรมการกงสุล หมายเลขโทรศัพท์ 02-575-1047 หรือ สำนักงานหนังสือเดินทางชั่วคราว กรมการกงสุล จ.อุบลราชธานี หมายเลขโทรศัพท์ 084-242313 หรือ 081-4251129
** "ลาว แอร์ไลน์" ส่งจม.แสดงความเสียใจต
เฟซบุ๊กจาก 'Mahason Magazine' สื่อดังของลาว โพสต์เปิดเผย จดหมายจากประธานบริษัทสายการบิน "ลาว แอร์ไลน์" โดยในจดหมายระบุว่า ทางสายการบินลาวแอร์ไลน์ ขอแสดงความเสียใจต่อเหตุการณ์โศกนาฏกรรม ว่า พวกเขารู้สึกเสียใจต่อครอบครัว เพื่อน เพื่อนร่วมงาน และเหยื่อจากประเทศเพื่อนบ้านทุกราย
นอกจากนี้ ข้อความยังระบุถึงเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น ว่า เครื่องบินโดยสาร แบบ QV 301 บรรจุผู้โดยสารทั้งหมด 44 คน พร้อมลูกเรือทั้ง 5 คน เคราะห์ร้ายเสียชีวิตยกลำ ขณะที่เครื่องบินเกิดขัดข้องดิ่งตกลงลำน้ำโขงฉุกเฉิน ก่อนถึงสนามบินปากเซตามกำหนดการ ซึ่งจากรายงานเบื้องต้น ยังไม่มีผู้รอดชีวิตแต่อย่างใด
ทั้งนี้ เจ้าหน้าที่ท้องถิ่นยังคงดำเนินภารกิจค้นหาร่างผู้เสียชีวิตอย่างต่อเนื่อง โดยหวังว่าจะพบผู้รอดชีวิตจากเหตุเลวร้ายอย่างปาฏิหาริย์ ขณะที่ทีมผู้เชี่ยวชาญยังคงค้นหาและตรวจสอบสาเหตุที่เกิดขึ้นต่อไป
**เพ้งไม่ฟันธง 2 ปตท.เสียชีวิตหรือไม่
นายพงษ์ศักดิ์ รักตพงศ์ไพศาล รมว.พลังงาน ให้สัมภาษณ์ถึงกรณีที่มีพนักงานของปตท. อยู่ในเครื่องบินลาวแอร์ไลน์ที่เกิดอุบัติเหตุตกที่แม่น้ำโขงสปป.ลาว ว่า ทราบว่าเป็นพนักงานของปตท. 2 คน และอีก 1 คนเป็นผู้รับเหมาที่ไปด้วยกันเพื่อสำรวจแหล่งหลุมขุดเจาะ ถือเป็นการปฏิบัติหน้าที่ ถึงเวลานี้ยังไม่ได้รับรายงานว่าเสียชีวิต จึงยังไม่อยากระบุชัดอย่างนั้น แต่อย่างไรก็ตามขอให้ทางปตท.ดูข้อมูลให้ละเอียดก่อนว่าใครเป็นใครแล้วจึงจะดูว่าดูแลครอบครัวเขาอย่างไร ถือว่าเป็นการปฏิบัติหน้าที่แล้วเสียชีวิตและการค้นหานั้นเป็นหน้าที่ของผู้เชี่ยวชาญและปทต.จะให้การสนับสนุนเต็มที่
นายชวลิต พันธ์ทอง รองกรรมการผู้จัดการใหญ่ หน่วยธุรกิจน้ำมัน บริษัท ปตท. จำกัด (มหาชน) กลาวว่ามีพนักงานบริษัทในกลุ่ม ปตท. จำนวน 3 ราย ที่ไปปฏิบัติภารกิจขยายสถานีบริการและคลังน้ำมัน ณ สปป.ลาว ซึ่อย่างไรก็ตาม ปตท. จะรับผิดชอบดูแลเป็นอย่างดีนอกเหนือจากสวัสดิการตามระเบียบของ ปตท.
**ผบ.ทร.ส่งนักประดาน้ำ-จนท.ช่วยลาว
พล.ร.ต.กาญจน์ ดีอุบล เลขานุการกองทัพเรือ ในฐานะโฆษกกองทัพเรือ กล่าวว่า พล.ร.อ.ณรงค์ พิพัฒนาศัย ผบ.ทร.ได้สั่งการให้ศูนย์ปฏิบัติการพิเศษกองทัพเรือ ประสานกับหน่วยเรือรักษาความสงบเรียบร้อยตามลำน้ำโขง (นรข.) จัดเจ้าหน้าที่ จำนวน 14 คน ประกอบไปด้วยนักประดาน้ำ 9 คน ผบ.หน่วยและผู้ประสานงาน 5 คน เพื่อไปช่วยกู้ซากเครื่องบินและผู้เสียชีวิต
**ผู้ว่าอุบล นำทีมประสานทางการลาว
นายสุทธินันท์ บุญมี รองผู้ว่าราชการจังหวัดอุบลราชธานี กล่าวว่า ได้ประสานขอนักประดาน้ำจากหน่วยเรือรักษาความสงบเรียบร้อยตามลำน้ำโขง(นรข.)จ.นครพนม และนักประดาน้ำของมูลนิธิจีตัมเกาะ จ.อุบลราชธานี สนับสนุนการกู้ภัย
ต่อมา เวลา 08.30 น. ท่านคำสอน แสงมาลา เจ้าหน้าที่ฝ่ายประสานงานของลาว ได้เดินทางมาประชุมกับทีมกู้ภัยของไทยที่ด่านสากลช่องเม็ก อ.สิรินธร เพื่อสรุปสถานการณ์ และความช่วยเหลือเบื้องต้นพร้อมนำอุปกรณ์ไปยังจุดที่เครื่องบินตก ห่างจากสนามบินเมืองปากเซประมาณ 3 กิโลเมตร
นพ.ชวลิต ทองประยูร ผู้อำนวยการโรงพยาบาลสรรพสิทธิประสงค์ จ.อุบลราชธานี กล่าวว่า ได้รับการประสานจากโรงพยาบาลเมืองจำปาสัก ขอสนับสนุนถุงบรรจุศพผู้ประสบอุบัติเหตุทั้งหมด ส่วนการที่ทางการลาวจะส่งศพผู้เคราะห์ร้ายที่เป็นชาวไทยหรือชาวต่างประเทศ มาไว้ที่โรงพยาบาลสรรพสิทธิประสงค์ ก็มีความพร้อมทั้งสถานที่และแพทย์นิติเวช แต่ขณะนี้ยังไม่ได้รับการประสานจากทางการลาว
ที่โรงแรมจำปาสักแกรนด์ เมืองปากเซ แขวงจำปาสัก สปป.ลาว ท่านยากัว ลอปังกาว หัวหน้ากลุ่มการบินพลเรือน และคณะกู้ภัย แถลงข่าวว่า สภาพของเครื่องบินแตกเป็นเศษชิ้นส่วน กระจายอยู่บนเกาะกลางแม่น้ำโขง ส่วนลำตัวเครื่องบินคาดว่าจะจมอยู่ในแม่น้ำโขง ด้านการค้นหาศพ ทางกระทรวงโยธาธิการและขนส่ง ร่วมกับกองอำนวยการปกครองแขวงจำปาสัก และเจ้าหน้าที่กู้ภัยของไทย ตั้งคณะกรรมการร่วมกันค้นหา ล่าสุด 16.05 น. พบแล้วผู้เสียชีวิต16ราย
ทั้งนี้การค้นหาศพของหน่วยกู้ภัยไทยทำได้ยากลำบาก เนื่องจากน้ำไหลแรง เพราะเป็นจุดบรรจบของลำน้ำโขง ที่ไหลมาพบกันบริเวณหัวเกาะกลางแม่น้ำโขง คาดว่าอาจต้องใช้เวลา 2-3 วัน จึงสามารถค้นหาศพผู้เสียชีวิตได้ทั้งหมด
ขณะเดียวกันมีรายงานจากกองบังคับการตำรวจภูธรจังหวัดอุบลราชธานี ว่าวันที่ 18 ตุลาคม พล.ต.ท.จรัมพร สุระมณี ผู้ช่วยผบ.ตร. และ พล.ต.ท.คำรบ ปัญญาแก้ว ผบช.สพฐ. พจะมาร่วมพิสูจน์เอกลักษณ์บุคคลของผู้เสียชีวิตจากเครื่องบินตกด้วย
วานนี้(17 ต.ค.56) จากกรณีเครื่องบินโดยสารของสายการบินภายในประเทศของลาวซึ่งเป็นเครื่องบินแบบ ATR ขนาด 2 เครื่องยนต์ของสายการบินลาว บินขึ้นจากสนามบินวัดไต นครหลวงเวียงจันทน์ สปป.ลาว มุ่งหน้าสู่เมืองปากเซ แขวงจำปาสัก ประเทศลาว ขณะที่เครื่องบินกำลังจะนำเครื่องลง ทางหอบังคับการบินที่ปากเซ ได้แจ้งเตือนนักบินไม่ให้นำเครื่องลงเนื่องจากสภาพอากาศปิด มีฝนตกเนื่องจากอิทธิพลของพายุไต้ฝุ่นนารี แต่นักบินซึ่งเป็นชาวกัมพูชา ได้พยายามจะนำเครื่องลง แต่ขณะที่เครื่องกำลังจะแตะพื้นรันเวย์ นักบินมองไม่เห็นรันเวย์ จึงได้ดึงเครื่องขึ้นอีกครั้งทำให้เครื่องบินลำดังกล่าวเสียการทรงตัว ตกลงแม่น้ำโขง บริเวณบ้านพะลง เมืองโพนทอง ตรงข้ามบ้านเขาะ เมืองปากเซ แขวงจำปาสัก ห่างจากสนามบินนานาชาติเมืองปากเซประมาณ 3 ก.ม.ทำให้มีผู้โดยสารจำนวน 44 คน พร้อมลูกเรือ 3 คน และนักบิน 2 คน เสียชีวิตยกลำ รวม 49 คน เมื่อวันที่ 16 ต.ค.ที่ผ่านมา
ล่าสุด ชุดประดาน้ำและหน่วยกู้ภัยของประเทศไทย ที่เดินทางไปให้การช่วยเหลือ ในการกู้ซากเครื่องบินและค้นหาศพที่เหลือหลังจากเมื่อช่วงเช้าที่ผ่านมา ค้นหาศพพบแล้ว 5 ศพ ล่าสุดเมื่อช่วงบ่ายวันที่ 17 ต.ค.2556 เจ้าหน้าที่สามารถค้นหาศพเพิ่มได้อีก 6 ศพรวมเป็น 11 ศพ แต่ยังไม่พบศพผู้เสียชีวิตชาวไทยทั้ง 5 คนได้แก่ 1.นายคนึง ชาติเกษมชัย อายุ 47 ปี 2.นายนิพล ชัยชนะกุลดี อายุ 27 ปี 3.นายภควัต อธิรัตนชัย อายุ 50 ปี 4.นายวีกิจ บุศราวุธานุสรณ์ อายุ 38 ปี 5.นายยรรยง อาภาอนันต์ อายุ 29 ปี โดยการค้นหาศพเป็นไปด้วยความยากลำบาก เนื่องจากกระแสน้ำไหลเชี่ยวมาก ทางญาติของคนไทยที่เดินทางมากับเครื่องบินลำดังกล่าวยังมีความหวังว่าจะมีผู้รอดชีวิต ตราบใดที่ยังไม่พบศพของลูกหลานตน
ที่ศูนย์ประสานงานและให้ความช่วยเหลือกรณีผู้ประสบภัยทางเครื่องบิน ที่ สปป.ลาว ด่านตรวจคนเข้าเมืองช่องเม็ก ต.ช่องเม็ก อ.สิรินธร จ.อุบลราชธานี พ.ต.ท.อนุสรณ์ นุชนนท์ สารวัตรตรวจคนเข้าเมืองจังหวัดอุบลราชธานี ทำหน้าที่หัวหน้าตรวจคนเข้าเมืองด่านช่องเม็ก เปิดเผยว่า ศูนย์ประสานงานได้จัดตั้งขึ้นหลังจากทราบว่ามีเครื่องบินตก โดยทางจังหวัดได้ดำเนินการเพื่ออำนวยความสะดวกในการช่วยเหลือซึ่งทางแขวงจำปาสักได้ส่งเจ้าหน้าที่มาประสานขอความช่วยเหลือในเรื่องของการค้นหาศพและกู้ซากเครื่องบิน ส่วนญาติของผู้เสียชีวิตชาวไทยที่จะขอเดินทางไปยังประเทศลาว ทางศูนย์ก็จะอำนวยความสะดวกในการข้ามแดน ล่าสุดจากการประสานงานไปยังชุดกู้ชีพ พบว่ายังไม่ปรากฏว่าพบศพคนไทยเสียชีวิต โดยขณะนี้พบศพแล้วรวม 10 ศพยังไม่มีคนไทย
อีกด้าน รัฐบาลลาวแถลงอย่างเป็นทางการว่า อุบัติเหตุเครื่องบินโดยสาร ATR72-600 หมายเลข RDPD 34233 ของสายการบินลาว ตกเพราะสภาพอากาศเลวร้าย ทำให้มีผู้เสียชีวิต 49 คน จาก 11 ประเทศ ซึ่งรัฐบาล ได้ส่งเจ้าหน้าที่กู้ภัยเข้าไปยังที่เกิดเหตุ ส่วนรัฐบาลออสเตรเลีย ระบุว่า ได้รับแจ้งว่าไม่คิดว่าจะมีผู้รอดชีวิต
กระทรวงงานสาธารณะและขนส่งของลาว ระบุด้วยว่า เครื่องบินกำลังเตรียมลงจอดที่สนามบินปากเซท่ามกลางสภาพอากาศเลวร้ายอย่างหนัก ก่อนจะร่วงลงสู่แม่น้ำโขง
ทางการสายการบินจะทำทุกวิถีทางที่จำเป็นในการให้ประสานงานและส่งทุกหน่วยงานกู้ภัย เข้าไปยังที่เกิดเหตุ ด้วยความหวังว่าจะพบผู้รอดชีวิต แต่แถลงการณ์จากกระทรวงต่างประเทศและการค้าของออสเตรเลีย ระบุว่า ทางการลาวได้แจ้งไปยังสถานทูตออสเตรเลียในกรุงเวียงจันทน์แล้วว่า ไม่คิดว่าจะพบผู้รอดชีวิต
นายเสข วรรณเมธี อธิบดีกรมสารนิเทศและโฆษกกระทรวงการต่างประเทศ กล่าวถึงความคืบหน้า ว่า เจ้าหน้าที่จากสถานกงสุลใหญ่ ณ แขวงสะหวันนะเขต ประเทศลาว ได้เดินทางไปที่เมืองปากเซ เพื่อร่วมพิสูจน์เอกลักษณ์บุคคลว่าเป็นคนไทย 5 ราย ตามที่มีรายงานเบื้องต้นหรือไม่ โดยขณะนี้ทุกร่างยังคงถูกเก็บอยู่ที่ลาว ไม่ได้อยู่ที่โรงพยาบาลสรรพสิทธิประสงค์ จ.อุบลราชธานี ตามที่มีรายงานข่าว เพราะต้องออกใบมรณบัตร จากนั้นเจ้าหน้าที่ฯ จะประสานกับญาติเพื่อสอบถามการประกอบพิธีฌาปนกิจต่อไป
อย่างไรก็ตามนายสุรพงษ์ โตวิจักษณ์ชัยกุล รองนายกรัฐมนตรี และ รมว.ต่างประเทศ ได้ประสานกับนายทองลุน สีสุลิด รองนายกรัฐมนตรี และ รมว.ต่างประเทศ สปป.ลาว โดยได้แสดงความเสียใจกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น และแสดงความพร้อมที่จะช่วยเหลือในการค้นหาผู้ที่เสียชีวิตและความสะดวกในด้านต่าง ๆ ขณะเดียวกัน เอกอัครราชทูตไทย ณ กรุงเวียงจันทน์ ได้ประสานงานอย่างใกล้ชิดกับทางการสปป.ลาวในภารกิจนี้แล้ว โดยเบื้องต้นได้ประสานให้นักประดาน้ำจาก จ.อุบลราชธานี จำนวน 30 คน ไปช่วยค้นหาร่างผู้เสียชีวิต
อย่างไรก็ตาม เบื้องต้นทางสายการบินลาวยังไม่ได้เปิดเผยรายชื่อผู้โดยสารทั้งหมดอย่างเป็นทางการ ส่วนญาติของผู้ที่โดยสารในเที่ยวบินดังกล่าวสามารถติดต่อสอบถามความคืบหน้าและยืนยันรายชื่อได้ที่กองคุ้มครองผลประโยชน์คนไทยในต่างแดน กรมการกงสุล หมายเลขโทรศัพท์ 02-575-1047 หรือ สำนักงานหนังสือเดินทางชั่วคราว กรมการกงสุล จ.อุบลราชธานี หมายเลขโทรศัพท์ 084-242313 หรือ 081-4251129
** "ลาว แอร์ไลน์" ส่งจม.แสดงความเสียใจต
เฟซบุ๊กจาก 'Mahason Magazine' สื่อดังของลาว โพสต์เปิดเผย จดหมายจากประธานบริษัทสายการบิน "ลาว แอร์ไลน์" โดยในจดหมายระบุว่า ทางสายการบินลาวแอร์ไลน์ ขอแสดงความเสียใจต่อเหตุการณ์โศกนาฏกรรม ว่า พวกเขารู้สึกเสียใจต่อครอบครัว เพื่อน เพื่อนร่วมงาน และเหยื่อจากประเทศเพื่อนบ้านทุกราย
นอกจากนี้ ข้อความยังระบุถึงเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น ว่า เครื่องบินโดยสาร แบบ QV 301 บรรจุผู้โดยสารทั้งหมด 44 คน พร้อมลูกเรือทั้ง 5 คน เคราะห์ร้ายเสียชีวิตยกลำ ขณะที่เครื่องบินเกิดขัดข้องดิ่งตกลงลำน้ำโขงฉุกเฉิน ก่อนถึงสนามบินปากเซตามกำหนดการ ซึ่งจากรายงานเบื้องต้น ยังไม่มีผู้รอดชีวิตแต่อย่างใด
ทั้งนี้ เจ้าหน้าที่ท้องถิ่นยังคงดำเนินภารกิจค้นหาร่างผู้เสียชีวิตอย่างต่อเนื่อง โดยหวังว่าจะพบผู้รอดชีวิตจากเหตุเลวร้ายอย่างปาฏิหาริย์ ขณะที่ทีมผู้เชี่ยวชาญยังคงค้นหาและตรวจสอบสาเหตุที่เกิดขึ้นต่อไป
**เพ้งไม่ฟันธง 2 ปตท.เสียชีวิตหรือไม่
นายพงษ์ศักดิ์ รักตพงศ์ไพศาล รมว.พลังงาน ให้สัมภาษณ์ถึงกรณีที่มีพนักงานของปตท. อยู่ในเครื่องบินลาวแอร์ไลน์ที่เกิดอุบัติเหตุตกที่แม่น้ำโขงสปป.ลาว ว่า ทราบว่าเป็นพนักงานของปตท. 2 คน และอีก 1 คนเป็นผู้รับเหมาที่ไปด้วยกันเพื่อสำรวจแหล่งหลุมขุดเจาะ ถือเป็นการปฏิบัติหน้าที่ ถึงเวลานี้ยังไม่ได้รับรายงานว่าเสียชีวิต จึงยังไม่อยากระบุชัดอย่างนั้น แต่อย่างไรก็ตามขอให้ทางปตท.ดูข้อมูลให้ละเอียดก่อนว่าใครเป็นใครแล้วจึงจะดูว่าดูแลครอบครัวเขาอย่างไร ถือว่าเป็นการปฏิบัติหน้าที่แล้วเสียชีวิตและการค้นหานั้นเป็นหน้าที่ของผู้เชี่ยวชาญและปทต.จะให้การสนับสนุนเต็มที่
นายชวลิต พันธ์ทอง รองกรรมการผู้จัดการใหญ่ หน่วยธุรกิจน้ำมัน บริษัท ปตท. จำกัด (มหาชน) กลาวว่ามีพนักงานบริษัทในกลุ่ม ปตท. จำนวน 3 ราย ที่ไปปฏิบัติภารกิจขยายสถานีบริการและคลังน้ำมัน ณ สปป.ลาว ซึ่อย่างไรก็ตาม ปตท. จะรับผิดชอบดูแลเป็นอย่างดีนอกเหนือจากสวัสดิการตามระเบียบของ ปตท.
**ผบ.ทร.ส่งนักประดาน้ำ-จนท.ช่วยลาว
พล.ร.ต.กาญจน์ ดีอุบล เลขานุการกองทัพเรือ ในฐานะโฆษกกองทัพเรือ กล่าวว่า พล.ร.อ.ณรงค์ พิพัฒนาศัย ผบ.ทร.ได้สั่งการให้ศูนย์ปฏิบัติการพิเศษกองทัพเรือ ประสานกับหน่วยเรือรักษาความสงบเรียบร้อยตามลำน้ำโขง (นรข.) จัดเจ้าหน้าที่ จำนวน 14 คน ประกอบไปด้วยนักประดาน้ำ 9 คน ผบ.หน่วยและผู้ประสานงาน 5 คน เพื่อไปช่วยกู้ซากเครื่องบินและผู้เสียชีวิต
**ผู้ว่าอุบล นำทีมประสานทางการลาว
นายสุทธินันท์ บุญมี รองผู้ว่าราชการจังหวัดอุบลราชธานี กล่าวว่า ได้ประสานขอนักประดาน้ำจากหน่วยเรือรักษาความสงบเรียบร้อยตามลำน้ำโขง(นรข.)จ.นครพนม และนักประดาน้ำของมูลนิธิจีตัมเกาะ จ.อุบลราชธานี สนับสนุนการกู้ภัย
ต่อมา เวลา 08.30 น. ท่านคำสอน แสงมาลา เจ้าหน้าที่ฝ่ายประสานงานของลาว ได้เดินทางมาประชุมกับทีมกู้ภัยของไทยที่ด่านสากลช่องเม็ก อ.สิรินธร เพื่อสรุปสถานการณ์ และความช่วยเหลือเบื้องต้นพร้อมนำอุปกรณ์ไปยังจุดที่เครื่องบินตก ห่างจากสนามบินเมืองปากเซประมาณ 3 กิโลเมตร
นพ.ชวลิต ทองประยูร ผู้อำนวยการโรงพยาบาลสรรพสิทธิประสงค์ จ.อุบลราชธานี กล่าวว่า ได้รับการประสานจากโรงพยาบาลเมืองจำปาสัก ขอสนับสนุนถุงบรรจุศพผู้ประสบอุบัติเหตุทั้งหมด ส่วนการที่ทางการลาวจะส่งศพผู้เคราะห์ร้ายที่เป็นชาวไทยหรือชาวต่างประเทศ มาไว้ที่โรงพยาบาลสรรพสิทธิประสงค์ ก็มีความพร้อมทั้งสถานที่และแพทย์นิติเวช แต่ขณะนี้ยังไม่ได้รับการประสานจากทางการลาว
ที่โรงแรมจำปาสักแกรนด์ เมืองปากเซ แขวงจำปาสัก สปป.ลาว ท่านยากัว ลอปังกาว หัวหน้ากลุ่มการบินพลเรือน และคณะกู้ภัย แถลงข่าวว่า สภาพของเครื่องบินแตกเป็นเศษชิ้นส่วน กระจายอยู่บนเกาะกลางแม่น้ำโขง ส่วนลำตัวเครื่องบินคาดว่าจะจมอยู่ในแม่น้ำโขง ด้านการค้นหาศพ ทางกระทรวงโยธาธิการและขนส่ง ร่วมกับกองอำนวยการปกครองแขวงจำปาสัก และเจ้าหน้าที่กู้ภัยของไทย ตั้งคณะกรรมการร่วมกันค้นหา ล่าสุด 16.05 น. พบแล้วผู้เสียชีวิต16ราย
ทั้งนี้การค้นหาศพของหน่วยกู้ภัยไทยทำได้ยากลำบาก เนื่องจากน้ำไหลแรง เพราะเป็นจุดบรรจบของลำน้ำโขง ที่ไหลมาพบกันบริเวณหัวเกาะกลางแม่น้ำโขง คาดว่าอาจต้องใช้เวลา 2-3 วัน จึงสามารถค้นหาศพผู้เสียชีวิตได้ทั้งหมด
ขณะเดียวกันมีรายงานจากกองบังคับการตำรวจภูธรจังหวัดอุบลราชธานี ว่าวันที่ 18 ตุลาคม พล.ต.ท.จรัมพร สุระมณี ผู้ช่วยผบ.ตร. และ พล.ต.ท.คำรบ ปัญญาแก้ว ผบช.สพฐ. พจะมาร่วมพิสูจน์เอกลักษณ์บุคคลของผู้เสียชีวิตจากเครื่องบินตกด้วย