เอเอฟพี/เอพี เจ้าหน้าที่กู้ภัยต้องต่อสู้กับสภาพเลวร้ายในวันนี้ (17) ในการค้นหาร่างผู้เสียชีวิตจากเหตุเครื่องบินของสายการบินลาวแอร์ไลน์ส ตกลงในแม่น้ำโขง พร้อมผู้โดยสาร และลูกเรือบนเครื่องทั้งหมด 49 คน โดยเกินครึ่งเป็นชาวต่างชาติ
ผู้โดยสาร และลูกเรือทั้งหมดจากหลายสิบประเทศ คาดว่าจะเสียชีวิต หลังเครื่อบิน ATR-72 ประสบกับสภาพอากาศเลวร้ายในวันพุธ และตกจมลงสู่ก้นแม่น้ำ
เจ้าหน้าที่กู้ภัยค้นหาซากเครืิ่องบินที่จมอยู่ในแม่น้ำ โดยมีรถเครนประจำอยู่บนแท่นลอยกลางแม่น้ำโขงเตรียมพร้อมที่จะกว้านเครื่องบินขึ้นจากน้ำ
เรือหลากหลายขนาดราว 10 ลำ แล่นไปมาท่ามกลางกระแสน้ำที่เชี่ยวกราก ขณะที่นักดำน้ำจากทีมกู้ภัยของไทยกว่า 30 คน ได้ถูกส่งเข้าช่วยเหลือเพื่อค้นหาผู้เสียชีวิตในที่เกิดเหตุ
นักดำน้ำของไทยรายหนึ่งเผยว่า การดำน้ำเป็นไปอย่างยากลำบากเนื่องจากกระแสน้ำไหลเชี่ยวและอันตราย ความเป็นไปได้ที่จะค้นพบมีประมาณ 50%
ฝูงชนจำนวนมาก ทั้งชาวบ้าน พระสงฆ์ และเจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัย เฝ้ามองจากริมฝั่งแม่น้ำ บางคนเล่าว่าเห็นเครื่องบินในช่วงประสบปัญหาก่อนที่จะตกลงในแม่น้ำ
“ผมได้ยินเสียงดังตูม เหมือนเสียงระเบิด มีควัน และเปลวไฟก่อนเครื่องบินตก” หัวหน้าหมู่บ้านในละแวกจุดเกิดเหตุกล่าว
ซากเครื่องบินบางส่วนลอยไปตามแม่น้ำ และกระเป๋าเดินทางติดอยู่ในโคลนบนริมฝั่งแม่น้ำ
เจ้าหน้าที่ระบุว่า เที่ยวบินที่เกิดเหตุบินมาจากนครหลวงเวียงจันทน์ มีผู้โดยสาร 44 คน และลูกเรือ 5 คน โดยเป็นชาวต่างชาติ 28 คน และเครื่องตกใกล้สนามบินปากเซ ในแขวงจำปาสัก
เจ้าหน้าที่ฝรั่งเศสเผยกับสำนักข่าวเอเอฟพีหลังหารือกับรัฐมนตรีต่างประเทศของลาวในเวียงจันทน์ว่า จนถึงขณะนี้ พบร่างผู้เสียชีวิต 9 ราย
“ซากเครื่องบินยังคงจมอยู่ด้านล่างของแม่น้ำโขง ยังไม่มีอะไรถูกดึงขึ้นมา ร่างผู้เสียชีวิตยังคงติดอยู่ในเครื่องบิน” เจ้าหน้าที่ฝรั่งเศสกล่าว พร้อมให้ข้อมูลว่า สำหรับศพที่พบแล้วนั้นยังไม่ได้ระบุเอกลักษณ์บุคคล
ร่างผู้เสียชีวิตบางรายที่ชาวประมงพบอยู่ไกลกว่าจุดตกของเครื่องบินถึง 20 กม. ซึ่งร่างผู้เสียชีวิตบางส่วนถูกนำไปรักษาไว้ที่ห้องเก็บศพในเมืองปากเซ ที่เป็นศูนย์กลางการเดินทางของนักท่องเที่ยวไปยังพื้นที่ห่างไกลส่วนอื่นๆ ในภาคใต้ของลาว
สำนักข่าวสารประเทศลาวระบุว่า เครื่องบินเตรียมที่จะลงจอดแต่ประสบเข้ากับกระแสลมรุนแรง ทำให้เครื่องบินเชิดหัวขึ้น และถูกลมพัดหอบออกนอกเส้นทางที่จะไปยังสนามบิน และเรดาร์ของหอบังคับการบินไม่สามารถตรวจพบ
ส่วนรายชื่อผู้โดยสารในเที่ยวบินที่ประสบเหตุเครื่องบินตกครั้งนี้ ประกอบด้วย ชาวลาว 16 คน ฝรั่งเศส 7 คน ออสเตรเลีย 6 คน ไทย 5 คน เกาหลีใต้ 3 คน เวียดนาม 2 คน และจากสหรัฐฯ แคนาดา มาเลเซีย จีน และไต้หวัน ประเทศละ 1 คน
เจ้าหน้าที่การบินพลเรือนของกัมพูชาระบุว่า นักบินของเที่ยวบินนี้เป็นชาวกัมพูชาอายุ 56 ปี มีประสบการณ์ในการบินมากกว่า 30 ปี
เที่ยวบิน QV301 ออกเดินทางจากนครหลวงเวียงจันทน์ ในเวลา 14.45 น. และมีกำหนดจะถึงสนามบินในเมืองปากเซ ในอีกชั่วโมงต่อมา เครื่องบิน ATR ลำนี้เป็นเครื่องบินแบบ 2 ใบพัด ลำใหม่ที่เพิ่งรับมอบไปเมื่อเดือน มี.ค. ที่ผ่านมา.