xs
xsm
sm
md
lg

ผู้ดีไม่ท้อ มีข้อมูลใหม่ฟื้้นโครงการกลับเข้าำพม่าค้นหา “สปิตไฟร์”

เผยแพร่:   โดย: MGR Online

<bR><FONT color=#000033>ภาพที่แจกจ่ายโดย Wargaming.Net ในวันที่ 11 ม.ค.2556 แสดงให้เห็นทีมค้นหาส่วนหนึ่งจากทั้งหมด 21 คนลงมือขุดค้นหาเครื่องบินสปิตไฟร์ที่บริเวณสนามบินมิงกะลาโดงนครย่างกุ้งซึ่งเคยเป็นสนามบินทหารกองทัพอังกฤษสมัยสงครามโลกครั้งที่ 2 โดยเชื่อว่าในปี 2488 ก่อนสงครามยุติลงอังกฤษอาจจะฝังเครื่องบินรบที่สวยงามและเป็นตำนานคู่ประเทศรุ่นนี้ไว้ในพม่าถึง 36 ลำ แต่การค้นหาครั้งนั้นยังไม่ประสบความสำเร็จ เจ้าของโครงการประกาศกลับพม่าเดินหน้าขุดอีกครั้งหนึ่งพร้อมกับข้อมูลใหม่และทุนก้อนใหม่. -- Agence France-Presse/Wargaming.net  </b>

เมียนมาร์ไทม์ส - โครงการสำรวจค้นหาเครื่องบินรบสปิตไฟร์สมัยสงครามโลกครั้งที่ 2 ที่คาดว่าถูกฝังอยู่ใต้ดินในลังไม้สักภายในบริเวณพื้นที่ของสนามบินมิงกะลาโดน ในนครย่างกุ้ง กลับมาดำเนินการสานต่ออีกครั้ง หลังบริษัท Claridon ผู้ให้บริการด้านลอจิสติกส์ ประกาศจะมอบทุนสำรวจ

หลังความพยายามของเกษตรกรชาวอังกฤษผู้คลั่งไคล้การบินที่จะหาเครื่องบินรบสมัยสงครามโลกครั้งที่ 2 ในช่วงก่อนหน้านี้ไม่ประสบความสำเร็จ ทำให้เว็บไซต์เกมออนไลน์ Wargaming.net จากเบลารุส ถอนทุนออกจากโครงการในเดือน ก.พ. และโครงการต้องประสบกับอุปสรรคมากขึ้นไปอีกในช่วงฤดูฝน รวมทั้งเจ้าหน้าที่ท้องถิ่นที่ห้ามการขุดเจาะด้วยความกังวลว่าจะกระทบต่อสายเคเบิลที่ฝังไว้ใต้ดิน และว่าหลักฐานที่มีนั้นยังไม่มากพอ

แม้ผู้สังเกตการณ์หลายคนจะสรุปว่าเรื่องเล่าเกี่ยวกับเครื่องบินรบสปิตไฟร์นั้นไม่มีอะไร แต่ตำนานที่มีพื้นฐานมาจากประวัติอันน่าสงสัย ทำให้ นายเดวิด คัลดอลล์ (David Culdall) กลับไปที่ย่างกุ้ง เพื่อฟื้นโครงการตามล่าเครื่องบินรบ พร้อมกับความกระตือรือร้นครั้งใหม่ และยังกล่าวว่ามีหลักฐานใหม่อีกด้วย

ในการให้สัมภาษณ์กับเดอะ เบอร์มิ่งแฮม เมล์ หนังสือพิมพ์ท้องถิ่นของอังกฤษ คันดอลล์ กล่าวว่า ข้อมูลของแหล่งข่าวใหม่ 2-3 ราย ช่วยยืนยันตำนานของเครื่องบิน 36 ลำ ที่ถูกฝังไว้ใต้ดิน ที่นครย่างกุ้ง และเมืองมิตจีนา

“ผมมีผู้เชี่ยวชาญที่ได้ยืนยันหลักฐานที่แสดงให้เห็นว่า มีวัตถุซึ่งเป็นโลหะขนาดใหญ่อยู่ใต้ดินที่เดียวกันกับที่พยานผู้เห็นเหตุการณ์เห็นลังเครื่องบินสปิตไฟร์กำลังถูกฝัง” คันดอลล์กล่าว

นอกจากนี้ นายคันดอลล์ ยังกล่าวกับเมียนมาร์ไทม์สว่า จะนำเครื่องขุดเจาะมาเจาะในพื้นที่ที่เชื่อว่ามีลังไม้ถูกฝังเอาไว้ พร้อมด้วยกล้องขนาดเล็กที่จะถูกส่งลงไปจับภาพสิ่งที่อยู่ภายใน และหากพบว่ามีเครื่องบินสปิตไฟร์อยู่ภายในจริง ก็จะกลายเป็นความสำเร็จในภารกิจค้นหานาน 17 ปี ของคันดอลล์ ผู้ที่เชื่อว่าหากค้นพบเครื่องบินสปิตไฟร์แล้ว การฟื้นฟูบรูณะเครื่องบินจะช่วยสร้างงานในอังกฤษได้มากถึง 400 ตำแหน่ง ในช่วงระยะเวลา 5 ปี และหลังจากนั้น เขาหวังที่จะนำเครื่องบินส่วนหนึ่งกลับอังกฤษ และรักษาไว้ในพิพิธภัณฑ์ทั่วประเทศ.
.
<br><FONT color=#000033> เครื่องบินสปิตไฟร์สมัยสงครามโลกครั้งที่ 2 ขณะถูกนำเข้าไปเก็บในลังไม้. --ภาพ : Myanmar Times. </font></b>
2
<bR><FONT color=#000033>ทีมค้นหาจัดนิทรรศการแสดงข้อมูลเกี่ยวกับเครื่องบินสปิตไฟร์ในพม่าระหว่างการแถลงข่าวในนครย่างกุ้งวันที่ 9 ม.ค.2556 ถึงแม้ว่าการค้นหาคราวที่แล้วจะยังไม่พบและทุนหมดลงเสียก่อน เจ้าของโครงการประกาศกลับเข้าพม่าเดินหน้าอีกครั้งหนึ่งพร้อมกับข้อมูลใหม่ หลักฐานใหม่ๆ พร้อมพยานบุคคล. -- Agence France-Presse/Soe Than Win.</b>
3
<bR><FONT color=#000033>ผู้นำโครงการ นายเดวิด คัลดอล (2 จากขวา) ระหว่างแถลงข่าวที่จัดขึ้นในนครย่างกุ้งวันที่ 9 ม.ค.2556 พร้อมกับนายสแตนลีย์ คูมบี (ขวาสุด) ทหารผ่านศึกวัย 91 ปีที่เป็นหนึ่งในบรรดาพยาน 8 คนผู้อ้างว่าเคยเห็นการฝังเครื่องบินสปิตไฟร์ในพม่า อีกสองคนคือนายทู้ทู้ซอ กรรมการผู้จัดการบริษัทพม่าซึ่งเป็นหุ้นนส่วนกับนายโซเต็ง ศาสตราจารย์และนักธรณีวิทยาเกษียนอายุ การค้าหาครั้งแรกเริ่มขึ้น. -- Agence France-Presse/Soe Than Win.</b>
4
กำลังโหลดความคิดเห็น