เมียนมาร์ไทม์ส - โครงการสำรวจค้นหาเครื่องบินรบสปิตไฟร์สมัยสงครามโลกครั้งที่ 2 ที่คาดว่าถูกฝังอยู่ใต้ดินในลังไม้สักภายในบริเวณพื้นที่ของสนามบินมิงกะลาโดน ในนครย่างกุ้ง กลับมาดำเนินการสานต่ออีกครั้ง หลังบริษัท Claridon ผู้ให้บริการด้านลอจิสติกส์ ประกาศจะมอบทุนสำรวจ
หลังความพยายามของเกษตรกรชาวอังกฤษผู้คลั่งไคล้การบินที่จะหาเครื่องบินรบสมัยสงครามโลกครั้งที่ 2 ในช่วงก่อนหน้านี้ไม่ประสบความสำเร็จ ทำให้เว็บไซต์เกมออนไลน์ Wargaming.net จากเบลารุส ถอนทุนออกจากโครงการในเดือน ก.พ. และโครงการต้องประสบกับอุปสรรคมากขึ้นไปอีกในช่วงฤดูฝน รวมทั้งเจ้าหน้าที่ท้องถิ่นที่ห้ามการขุดเจาะด้วยความกังวลว่าจะกระทบต่อสายเคเบิลที่ฝังไว้ใต้ดิน และว่าหลักฐานที่มีนั้นยังไม่มากพอ
แม้ผู้สังเกตการณ์หลายคนจะสรุปว่าเรื่องเล่าเกี่ยวกับเครื่องบินรบสปิตไฟร์นั้นไม่มีอะไร แต่ตำนานที่มีพื้นฐานมาจากประวัติอันน่าสงสัย ทำให้ นายเดวิด คัลดอลล์ (David Culdall) กลับไปที่ย่างกุ้ง เพื่อฟื้นโครงการตามล่าเครื่องบินรบ พร้อมกับความกระตือรือร้นครั้งใหม่ และยังกล่าวว่ามีหลักฐานใหม่อีกด้วย
ในการให้สัมภาษณ์กับเดอะ เบอร์มิ่งแฮม เมล์ หนังสือพิมพ์ท้องถิ่นของอังกฤษ คันดอลล์ กล่าวว่า ข้อมูลของแหล่งข่าวใหม่ 2-3 ราย ช่วยยืนยันตำนานของเครื่องบิน 36 ลำ ที่ถูกฝังไว้ใต้ดิน ที่นครย่างกุ้ง และเมืองมิตจีนา
“ผมมีผู้เชี่ยวชาญที่ได้ยืนยันหลักฐานที่แสดงให้เห็นว่า มีวัตถุซึ่งเป็นโลหะขนาดใหญ่อยู่ใต้ดินที่เดียวกันกับที่พยานผู้เห็นเหตุการณ์เห็นลังเครื่องบินสปิตไฟร์กำลังถูกฝัง” คันดอลล์กล่าว
นอกจากนี้ นายคันดอลล์ ยังกล่าวกับเมียนมาร์ไทม์สว่า จะนำเครื่องขุดเจาะมาเจาะในพื้นที่ที่เชื่อว่ามีลังไม้ถูกฝังเอาไว้ พร้อมด้วยกล้องขนาดเล็กที่จะถูกส่งลงไปจับภาพสิ่งที่อยู่ภายใน และหากพบว่ามีเครื่องบินสปิตไฟร์อยู่ภายในจริง ก็จะกลายเป็นความสำเร็จในภารกิจค้นหานาน 17 ปี ของคันดอลล์ ผู้ที่เชื่อว่าหากค้นพบเครื่องบินสปิตไฟร์แล้ว การฟื้นฟูบรูณะเครื่องบินจะช่วยสร้างงานในอังกฤษได้มากถึง 400 ตำแหน่ง ในช่วงระยะเวลา 5 ปี และหลังจากนั้น เขาหวังที่จะนำเครื่องบินส่วนหนึ่งกลับอังกฤษ และรักษาไว้ในพิพิธภัณฑ์ทั่วประเทศ.
.
2
3
4