เอเอฟพี - ชาวอังกฤษผู้หลงใหลเครื่องบินขับไล่สปิตไฟร์ให้คำมั่นที่จะเดินหน้าค้นหาเครื่องบินสมัยสงครามโลกครั้งที่ 2 ในพม่าต่อไป หลังผู้สนับสนุนโครงการค้นหาถอนตัวออก โดยระบุว่า เรื่องราวการฝังเครื่องบินไว้ใต้แผ่นดินพม่านั้นเป็นเพียงตำนานเท่านั้น
นายเดวิด คันดัลล์ ระบุว่า ตนเองยังคง “มั่นใจอย่างมาก” เกี่ยวกับแนวโน้มที่จะค้นพบเครื่องบินที่สนามบินนครย่างกุ้ง ในเขตมิงกะลาโดง แม้ว่าผู้ให้การสนับสนุนการค้นหาครั้งนี้จะถอนตัวออก
แต่นายคันดัลล์ เกษตรกร และผู้หลงใหลเครื่องบินที่ใช้เวลาเกือบ 20 ปี ตามหาเครื่องบินสปิตไฟร์ ได้กล่าวตำหนิการตัดสินใจดังกล่าว และยืนยันว่า การตามล่าค้นหาจะยังคงดำเนินต่อไป
“บริษัทวอร์เกมมิ่ง (Wargaming) เข้ามามีส่วนในโครงการนี้เพื่อประชาสัมพันธ์ตัวเอง พวกเขาไม่ได้ชื่นชอบหลงใหลในเครื่องบินสปิตไฟร์แม้แต่นิดเดียว” นายคันดัลล์ แถลงข่าวในนครย่างกุ้ง และระบุว่า จะใช้ทุนของตัวเองดำเนินโครงการนี้
“ผมได้สัมภาษณ์ผู้เห็นเหตุการณ์ 8 คน และผมเชื่อว่า พวกเขาพูดความจริง ทั้งหมดล้วนอยู่ในช่วงที่เกิดสงคราม หรือหลังจากสงครามไม่นาน พวกเขาระบุไปที่จุดเดียวกัน” นายคันดัลล์ กล่าว
การสำรวจที่สนามบินย่างกุ้งเพิ่งระบุได้ไม่นานนี้ว่า มีวัตถุโลหะขนาดใหญ่อยู่ใต้ดิน แต่ยังไม่ได้ดำเนินการขุดสำรวจ และทีมที่เหลือ ซึ่งรวมทั้งนักธุรกิจท้องถิ่น ต่างกำลังรอการเดินทางมาถึงของบริษัทจากยุโรปที่จะดำเนินการสำรวจด้วยเรดาร์พิเศษ
นายคันดัลล์ที่เปรียบเทียบการค้นหาสปิตไฟร์เป็นเช่นเดียวกันกับการค้นพบสุสานฟาโรห์ตุตันคามุน ในปี 2465 เริ่มมีความหวังว่า จะค้นพบเครื่องบินสปิตไฟร์จริง หลังจากในเดือน ม.ค. ได้ระบุว่า ลังที่ค้นพบในเมืองมิตจีนา รัฐกะฉิ่น บรรจุวัตถุที่มนุษย์สร้างขึ้น แต่เมื่อไม่นานนี้กลับพบว่า พื้นที่ดังกล่าวเป็นเพียง “ที่ทิ้งขยะ” เท่านั้น
“แน่นอนว่าไม่ใช่สปิตไฟร์ และเราไม่เคยบอกว่าเป็นสปิตไฟร์” นายคันดัลล์ กล่าวและว่าการสำรวจจะยังคงดำเนินต่อไปในพื้นที่ดังกล่าว
ในคำแถลงเมื่อวันศุกร์ (15) บริษัทวอร์เกมมิ่งกล่าวว่า ไม่มีประจักษ์พยานที่ยังมีชีพอยู่คนใดที่เคยได้เห็นการฝังสปิตไฟร์จริงๆ และการค้นคว้าในบันทึกเหตุการณ์ต่างๆ ของฝ่ายอังกฤษก็ไม่พบหลักฐานอันใดเกี่ยวกับการส่งสปิตไฟร์ไปยังพม่าในช่วงหลังของสงคราม.