อเมริการับบท“กาวใจ” ส่งเจ้าหน้าที่อาวุโสด้านการทูตและความมั่นคงไปกล่อมญี่ปุ่น-เกาหลีใต้ละวางความบาดหมาง และหันมาช่วยกันจัดการโสมแดงเจ้าปัญหา รวมถึงรับมือพญามังกรที่แสดงท่าทีแข็งกร้าวยิ่งขึ้นทุกขณะ ขณะเดียวกัน เครื่องบินขับไล่ของสหรัฐฯและแดนอาทิตย์อุทัยก็ซ้อมรบร่วมกันในวันอังคาร(15)
สำนักข่าวรอยเตอร์รายงานว่า คณะผู้แทนระดับสูงจากทำเนียบขาว เพนตากอน และกระทรวงการต่างประเทศสหรัฐฯ ได้ออกเดินทางมุ่งสู่เอเชียในวันจันทร์ (14) การเดินทางคราวนี้เกิดขึ้นเพียงไม่นานหลังจากพรรคการเมืองที่มีแนวทางชาตินิยมในญี่ปุ่นชนะการเลือกตั้งได้เป็นรัฐบาลสดๆ ร้อนๆ เมื่อเดือนที่แล้ว และก่อนที่ประธานาธิบดีใหม่แดนโสมขาวจะสาบานตนเข้ารับตำแหน่งในเดือนหน้า
วอชิงตันหวังว่า โซลและโตเกียวจะละวางความบาดหมางทางประวัติศาสตร์และทางด้านดินแดนสืบเนื่องจากการที่ญี่ปุ่นยึดครองเกาหลีระหว่างปี 1910-1945 นอกจากนั้น เจ้าหน้าที่อเมริกันยังต้องการให้ความมั่นใจกับญี่ปุ่น ที่ต้องเผชิญการท้าทายจากจีนกรณีพิพาทอธิปไตยเหนือหมู่เกาะในทะเลจีนตะวันออกแทบไม่เว้นแต่ละวัน
กรณีพิพาทระหว่างญี่ปุ่นกับเกาหลีใต้ และญี่ปุ่นกับจีนเหล่านี้ อันที่จริงเรื้อรังมายาวนาน แต่ได้กลับมาเป็นประเด็นร้อนอีกครั้งเมื่อปีที่แล้ว ส่งผลให้ความสัมพันธ์ของโตเกียวกับโซลและกับปักกิ่งเครียดขมึง อีกทั้งกระทบต่อนโยบายสำคัญของประธานาธิบดีบารัค โอบามา ซึ่งมุ่งปรับสมดุลของกองกำลังความมั่นคงต่างๆ ในเอเชียตะวันออกกันใหม่ โดยที่จุดมุ่งหมายอย่างหนึ่งของเรื่องนี้คือการรับมือการก้าวผงาดขึ้นมาของจีน
ในการแถลงข่าวสัปดาห์ที่แล้ว วิกตอเรีย นูแลนด์ โฆษกกระทรวงการต่างประเทศสหรัฐฯ ระบุว่า วอชิงตันต้องการให้รัฐบาลชุดใหม่ของญี่ปุ่นและเกาหลีใต้ และทุกประเทศในเอเชียตะวันออกเฉียงเหนือ ร่วมมือกันและแก้ไขข้อขัดแย้งต่างๆ ด้วยการเจรจา
สำนักข่าวรอยเตอร์รายงานว่า คณะผู้แทนระดับสูงจากทำเนียบขาว เพนตากอน และกระทรวงการต่างประเทศสหรัฐฯ ได้ออกเดินทางมุ่งสู่เอเชียในวันจันทร์ (14) การเดินทางคราวนี้เกิดขึ้นเพียงไม่นานหลังจากพรรคการเมืองที่มีแนวทางชาตินิยมในญี่ปุ่นชนะการเลือกตั้งได้เป็นรัฐบาลสดๆ ร้อนๆ เมื่อเดือนที่แล้ว และก่อนที่ประธานาธิบดีใหม่แดนโสมขาวจะสาบานตนเข้ารับตำแหน่งในเดือนหน้า
วอชิงตันหวังว่า โซลและโตเกียวจะละวางความบาดหมางทางประวัติศาสตร์และทางด้านดินแดนสืบเนื่องจากการที่ญี่ปุ่นยึดครองเกาหลีระหว่างปี 1910-1945 นอกจากนั้น เจ้าหน้าที่อเมริกันยังต้องการให้ความมั่นใจกับญี่ปุ่น ที่ต้องเผชิญการท้าทายจากจีนกรณีพิพาทอธิปไตยเหนือหมู่เกาะในทะเลจีนตะวันออกแทบไม่เว้นแต่ละวัน
กรณีพิพาทระหว่างญี่ปุ่นกับเกาหลีใต้ และญี่ปุ่นกับจีนเหล่านี้ อันที่จริงเรื้อรังมายาวนาน แต่ได้กลับมาเป็นประเด็นร้อนอีกครั้งเมื่อปีที่แล้ว ส่งผลให้ความสัมพันธ์ของโตเกียวกับโซลและกับปักกิ่งเครียดขมึง อีกทั้งกระทบต่อนโยบายสำคัญของประธานาธิบดีบารัค โอบามา ซึ่งมุ่งปรับสมดุลของกองกำลังความมั่นคงต่างๆ ในเอเชียตะวันออกกันใหม่ โดยที่จุดมุ่งหมายอย่างหนึ่งของเรื่องนี้คือการรับมือการก้าวผงาดขึ้นมาของจีน
ในการแถลงข่าวสัปดาห์ที่แล้ว วิกตอเรีย นูแลนด์ โฆษกกระทรวงการต่างประเทศสหรัฐฯ ระบุว่า วอชิงตันต้องการให้รัฐบาลชุดใหม่ของญี่ปุ่นและเกาหลีใต้ และทุกประเทศในเอเชียตะวันออกเฉียงเหนือ ร่วมมือกันและแก้ไขข้อขัดแย้งต่างๆ ด้วยการเจรจา