![<bR><FONT color=#000033>การก่อสร้างเขื่อนกั้นลำน้ำทั้งสายจะต้องทำทีละครึ่งโดยผันน้ำให้ไหลออกไปจากบริเวณก่อสร้างสลับกัน พิธีเปลี่ยนทางน้ำไหลจัดขึ้นวันที่ 10 ธ.ค.2556 สำหรับเขื่อนผลิตไฟฟ้าขนาด 120 เมกะวัตต์ซึ่งเป็นแห่งแรกในบรรดา 7 แห่งที่จะสร้างก้นลำน้ำสายเดียวกันนี้ ตั้งแต่แขวงผ่งสาลีไปลงไปจนถึงแขวงหลวงพระบาง. [ภาพประกอบทั้ง 3 ภาพโดยเวียงจันทน์ใหม่] </b>](https://mpics.mgronline.com/pics/Images/556000016034101.JPEG)
ASTVผู้จัดการออนไลน์ - ทางการลาวได้ทำพิธีผันทางน้ำไหลในลำน้ำอูสัปดาห์นี้ เพื่อเริ่มการก่อสร้างตัวเขื่อนที่เตรียมการมานานกว่า 2 ปี และจะใช้เวลาก่อสร้างอีก 3 ปี มีกำหนดปั่นไฟเข้าสู้ระบบในปลายปี 2559 สื่อของทางการรายงาน
พิธีจัดขึ้นที่ไซต์งานก่อสร้างเขื่อนน้ำอู 2 ในเขตเมืองงอย แขวงหลวงพระบาง วันที่ 10 ธ.ค.ที่ผ่านมา โดยนายสมสะหวาด เล่งสะหวัด รองนายกรัฐมนตรี ผู้ชี้นำงานด้านเศรษฐกิจเป็นประธานในพิธี มีนายคำขัน จันทะวิสุก รองเจ้าแขวงหลวงพระบาง กับผู้แทนฝ่ายจีน กับแขกรับเชิญอีกจำนวนมากเข้าร่วมในพิธีด้วย หนังสือพิมพ์เวียงจันทน์ใหม่รายงาน
เขื่อนน้ำอู 2 มีกำลังปั่นไฟ 120 เมกะวัตต์ เป็นโครงการที่ 1 ในบรรดาเขื่อน 7 แห่ง ที่สร้างขึ้นกั้นลำน้ำสายยาวที่มีต้นกำเนิดจากป่าต้นน้ำในบริเวณเทือกเขาชายแดนลาว-จีน ในแขวงผ่งสาลี เขื่อนทั้ง 7 แห่ง จึงเรียงรายเป็นเสมือนขั้นบันได ตั้งแต่ผ่งสาลี ลงไปตามความคดเคี้ยวของลำน้ำ จนกระทั่งไหลลงสู่แม่น้ำโขงทางตอนเหนือของเมืองหลวงพระบาง
ระบบเขื่อนน้ำอู 1-7 เป็นการร่วมลงทุนภายใต้สัมปทานแบบ BoT เป็นเวลา 29 ปี ระหว่างกลุ่มบริษัทซิโนไฮโดร (Sinohydro Group) บริษัทไฟฟ้าพลังน้ำยักษ์ใหญ่ของรัฐบาจีน กับรัฐวิสาหกิจไฟฟ้าลาว ที่ถือหุ้นในสัดส่วน 85% กับ 15% ตามลำดับ ไฟฟ้าที่ผลิตได้จะส่งจำหน่ายให้แก่รัฐวิสาหกิจของลาวทั้งหมด
ลำน้ำอูจึงเป็นลำน้ำสาขาแม่น้ำโขงที่จะมีการสร้างเขื่อนกั้นมากที่สุดในดินแดนลาว.
.
2
3
