ASTVผู้จัดการออนไลน์ - เครื่องบินโดยสารขนาดเล็กบีชคราฟต์ (Beechcraft) ของสายการบินเวียดนามลำหนึ่ง ต้องเอาท้องไถพื้นลงจอดที่สนามบินบวนหม่าท๊วด (Buon Ma Thuot) ในเมืองเอกของ จ.ดั๊กลัก (Dak Lak) ตอนบ่ายวันจันทร์ 25 พ.ย.นี้ เนื่องจากระบบล้อไม่กาง และถึงแม้จะไม่มีเหตุการณ์ร้ายแรงใดๆ ติดตามมา แต่สนามบินต้องปิดเป็นเวลาหลายชั่วโมงเพื่อแก้ไขเหตุการณ์
นับเป็นเรื่องชวนระทึกที่เกิดขึ้นอีกครั้งหนึ่งในเวลาเพียงข้ามเดือน หลังจากเครื่องบิน ATR72-500 ของสายการบินแห่งชาติลำหนึ่งล้อหน้าหลุดหายไป 1 ล้อ ขณะบินขึ้นจากสนามบินก๊าตบ่า (Cat Ba) นครหายฝ่อง โดยยังไม่ทราบสาเหตุจนกระทั่งบัดนี้ และนักบินกล่าวว่า ไม่รู้สึกถึงความผิดปกติใดๆ จนกระทั่งลงจอดที่ท่าอากาศยานนครด่าหนังจึงรู้สึกเครื่องบินเอียงๆ ไปข้างหนึ่ง แต่ก็ไม่มีเหตุการณ์ร้ายแรงอะไรเกิดขึ้น
เครื่องบินรุ่นคิงแอร์-200 (King Air-200) บินขึ้นจากสนามบินด่าลัต (Dalat) เมืองท่องเที่ยวยอดนิยมใน จ.เลิมโด่ง (Lam Dong) พร้อมนักบิน และผู้โดยสารรวม 9 ชีวิต ในนั้น 5 คน เป็นเจ้าหน้าที่รัฐวิสาหกิจควบคุมการเดินอากาศเวียดนาม หนังสือพิมพ์เตื่อยแจ๋รายงาน
เหตุระบบล้อไม่กางเกิดขึ้นขณะจะลงจอดในจังหวัดที่ราบสูงภาคกลาง เตื่อยแจ๋รายงานในเว็บไซต์ข่าวภาษาเวียดนาม อ้างการสัมภาษณ์นายนายเล เจือง ซยาง (Le Truong Giang) โฆษกของสายการบินแห่งชาติ
เครื่องบีชคราฟต์ลำดังกล่าวที่ประสบเหตุเป็นของสายการบิน VASCO (Vietnam Air Service Co) บริษัทลูกของเวียดนามแอร์ไลน์ส และนักบินกล่าวว่า การเอาท้องไถลจงจอดเป็นเพียงวิธีการเดียวเท่านั้น
สนามบินบวนหม่าท๊วด ได้ระดมเจ้าหน้าที่ดับเพลิง กับฝ่ายอื่นๆ รอรับสถานการณ์อยู่แล้ว และเครื่องคิงส์แอร์-200 ลงจอดอย่างปลอดภัยเมื่อเวลา 14.20 น. แต่สนามบินบวนหม่าท๊วด เปิดให้บริการได้ตามปกติอีกครั้งก็เมื่อเวลาประมาณ 19.00 น.
ตามข้อมูลในเว็บไซต์ของบริษัทบีชคราฟต์ คอร์ปอเรชั่น (Beechcraft Corp) ผู้ผลิตในสหรัฐฯ เครื่องบินซีรีส์คิงแอร์ เริ่มผลิต และใช้งานมาตั้งแต่ช่วงกลางทศวรรษที่ 1970 จนถึงปัจจุบันผลิตออกมาเป็นเวอร์ชันต่างๆกว่า 3,500 ลำ มีใช้ทั้งในกองทัพสหรัฐฯ และในฝ่ายพลเรือน ได้ชื่อเป็นอากาศยานยอดนิยมที่มีความปลอดภัยสูงสุดอีกรุ่นหนึ่ง
ลำที่ประสบเหตุการณ์ระทึกเมื่อวันจันทร์ติดหมายเลข VN-B594 ผลิตเมื่อปี 2532 มีการตรวจสภาพครั้งล่าสุดตามกำหนดในปลายเดือน ส.ค.ที่ผ่านมา โดยบริษัท VASCO ซึ่งให้บริการบินแบบเช่าเหมาลำ และขนส่งสินค้าในเวียดนาม โดยสายการบินแห่งชาติถือหุ้นใหญ่
เครื่องบินลำนี้ใช้ในภารกิจการสำรวจ การถ่ายภาพทางอากาศเพื่อจุดมุ่งหมายในการกู้ภัยเป็นหลัก ขณะเกิดเหตุการณ์ก็อยู่ระหว่างปฏิบัติภารกิจเก็บข้อมูลด้านมาตรฐานการบิน ซเวินจี๊ออนไลน์สำนักข่าวภาษาเวียดนามยอดนิยมอีกแห่งหนึ่งรายงาน
สำหรับกรณี ATR72-500 เมื่อเดือนที่แล้ว ข้อมูลในกล่องดำไม่ได้บ่งชี้ถึงความผิดปกติใดๆ แต่เจ้าหน้าที่มาตรฐานความปลอดภัยยังคงสืบหาสาเหตุต่อไป เพื่อหาทางป้องกันมิให้เกิดขึ้นอีก สื่อออนไลน์กล่าว.