ASTVผู้จัดการออนไลน์ - ศาลในนครเวียงจันทน์ ได้พิพากษาตัดสินให้ประหารชีวิตชายชาวลาว จำนวน 2 คน ฐานค้า และมียาเสพติดในครอบครอง นับเป็นอีกหนึ่งกรณีที่ทางการแสดงความมุ่งมั่นในการปราบปราม และกำจัดยาเสพติดทุกชนิดที่ทำให้มีชาวลาวหลงเสพเป็นจำนวนมาก
นายสอน ไซยะลาด อายุ 29 ปี กับนายมน ทิบพะวง วัย 23 ปี ทั้ง 2 คนเป็นชาวเมือง (อำเภอ) จันทะบูลี นครเวียงจันทน์ ถูกจับเมื่อวันที่ 6 มี.ค.2556 พร้อมยาบ้าของกลาง จำนวน 15 ห่อ รวมน้ำหนัก 3.4 กก. กับอาวุธปืนพกสั้นกึ่งอัตโนมัติ 1 กระบอก พร้อมกระสุน จำนวน 5 นัด
กฎหมายของลาวบัญญัติให้ผู้ที่มียาบ้า หรือสารกระตุ้นประสาทชนิดต่างๆ ในครอบครองเกิน 3,000 กรัม หรือผลิต จำหน่าย แจกจ่าย นำเข้า ส่งออก หรือขนส่งยาบ้า และสารกระตุ้นประสาทดังกล่าวภายในดินแดนสาธารณรัฐประชาธิปไตยประชาชนลาว จะถูกตัดสินลงโทษด้วยการประหารชีวิตเพียงสถานเดียว สำนักข่าวสารปะเทดลาวรายงาน
ตั้งแต่ต้นปีมานี้ สื่อของทางการได้รายงานการจับกุมผู้กระทำผิดเกี่ยวกับยาเสพติดหลายครั้ง แต่ทั้งนายสอน กับนายมน ดูจะเป็นรายแรกๆ ที่ถูกศาลสั่งประหารชีวิตผู้ที่ผลิต ค้าขาย เสพติด ขนส่ง จำหน่ายจ่ายแจกเฮโรอินตั้งแต่ 500 กรัมขึ้นไป มีโทษประหารชีวิตเช่นกัน
ต้นปี 2552 ศาลนครเวียงจันทน์ ได้ตัดสินลงโทษประหารชีวิตรวมทั้งกรณี น.ส.ซาแมนธา โอโรบาตอร์ (Samantha Orobator) สาวชาวอังกฤษ ถูกจับกุมพร้อมเฮโรอีน น้ำหนัก 680 กรัม ขณะจะขึ้นเครื่องบินที่สนามบินวัดไตเดินทางเข้ากรุงเทพฯ แต่เธอตั้งครรภ์อย่างเป็นปริศนาในเรือนจำที่คุมขังผู้ต้องโทษหญิง จึงต่อสู้ในชั้นศาลอีกครั้งหนึ่ง ทำให้ศาลลาวติดสินลดหย่อนโทษให้เป็นจำคุกตลอดชีวิต
อย่างไรก็ตาม เพียงไม่เดือนถัดมาหลังจากลาวกับสหราชอาณาจักรลงนามในข้อตกลงแลกเปลี่ยนนักโทษกัน ทำให้ซาแมนธา ถูกปล่อยตัวกลับประเทศ ขณะที่ศาลอังกฤษรับประกันว่าเธอจะรับโทษทัณฑ์ที่เหลือไปจนครบ
เวลาต่อมา นักโทษชาวอังกฤษรายนี้คลอดทารกเพศหญิงออกมาก่อนกำหนดโดยไม่มีการเปิดเผยรายละเอียดใดๆ และการตั้งครรภ์ในคุกลาวยังคงเป็นปริศนามาจนกระทั่งวันนี้
เป็นที่ยอมรับกันว่า ในลาวยังคงมีการลักลอบปลูกฝิ่นอย่างผิดกฎหมาย และได้รับความช่วยเหลือจากประชาคมระหว่างประเทศในการหาทางกำจัด
แต่ลาวไม่ใช่แหล่งผลิตยาเสพติดให้โทษ หากเป็นทางผ่านสำคัญของยาเสพติดหลากชนิดจากประเทศเพื่อนบ้านไปยังประเทศที่สาม โดยเฉพาะอย่างยิ่งเฮโรอีน กับยาบ้า ทำให้มีเยาวชนลาวที่เสพ และติดยาเสพติดเหล่านี้เป็นจำนวนมากเช่นกัน.
.