เอเอฟพี - บรรดานักอนุรักษ์ต่างยินดี และมีความหวังต่อความอยู่รอดของนกช้อนหอยใหญ่ (Giant Ibis) ที่ใกล้สูญพันธุ์ หลังพบรังของนกสายพันธุ์ดังกล่าวในแหล่งที่อยู่อาศัยที่ไม่รู้จักมาก่อนหน้า ในพื้นที่ทางภาคตะวันออกเฉียงเหนือของกัมพูชา
การสูญเสียแหล่งที่อยู่อาศัย และการล่า ส่งผลให้นกช้อนหอยใหญ่ ซึ่งมีลักษณะโดดเด่นจากหัวที่ล้านโล่งเตียน และมีจะงอยปากยาว อยู่ในสภาพเสี่ยงต่อการสูญพันธุ์ ด้วยจำนวนที่เหลือเพียงแค่ 345 ตัวในโลก ซึ่งร้อยละ 90 ของทั้งหมดอาศัยอยู่ในกัมพูชา
เกษตรกรใน จ.สตึงเตรง พบรังของนกชนิดนี้ในบริเวณผืนป่าชุ่มน้ำแม่น้ำโขงที่มีความหลากหลายทางชีวภาพเมื่อเดือนก่อน กองทุนสัตว์ป่าโลก (WWF) ระบุในคำแถลงฉบับหนึ่ง และในเวลาต่อมา ทีมสำรวจจาก WWF ได้เห็นนกโตเต็มวัยนั่งอยู่บนรังพร้อมไข่ 2 ฟอง
“การค้นพบรังนกช้อนหอยใหญ่บริเวณแม่น้ำโขงมีความสำคัญอย่างมากเพราะนำมาซึ่งความหวังของการอยู่รอดของสัตว์สายพันธุ์นี้” โสก โก เจ้าหน้าที่บริหารป่าไม้และเจ้าหน้าที่โครงการเบิร์ดเนสต์ WWF กล่าว
นกช้อนหอยใหญ่ หรือ Thaumatibis gigantea ถูกจัดอยู่ในบัญชีรายชื่อสิ่งมีชีวิตที่มีสถานภาพเสี่ยงต่อการสูญพันธุ์ของสหภาพนานาชาติเพื่อการอนุรักษ์ธรรมชาติและทรัพยากรธรรมชาติ (IUCN) ในปี 2537 โดยอยู่ในสถานภาพใกล้สูญพันธุ์อย่างยิ่ง เนื่องจากแหล่งที่อยู่อาศัยมีอยู่อย่างจำกัดในกัมพูชา ลาว และเวียดนามเท่านั้น
“เพื่อความอยู่รอดของนกช้อนหอยใหญ่... นี่คือกุญแจที่จะรักษาการเพาะพันธุ์ในหลายพื้นที่มากขึ้น รังนกที่พบนี้เป็นส่วนหนึ่งของการรักษาอนาคตของนกสายพันธุ์นี้” เจอร์รี ไรอัน ที่ปรึกษาทางเทคนิคการวิจัยของ WWF กล่าว
WWF เตือนว่า ภัยคุกคามยังคงมีอยู่ เนื่องจากผืนป่าในพื้นที่ลุ่มต่ำที่เป็นแหล่งที่อยู่อาศัยของนกสายพันธุ์นี้ยังคงมีการระบายน้ำ และแผ้วถางเพื่อทำการเกษตร ขณะเดียวกัน ไข่ของนกชนิดนี้ก็ถูกชาวบ้านเก็บไป
ไรอัน ระบุว่า ความพยายามที่จะอนุรักษ์พื้นที่บริเวณแม่น้ำโขงซึ่งเป็นที่ที่พบรังนกนั้นได้นำรางวัลมาให้
“นกช้อนหอยใหญ่ไม่ชอบถูกรบกวน และขี้อายมากๆ พวกมันมักจะใช้ชีวิตอยู่ห่างไกลจากที่อยู่อาศัยของมนุษย์” เจ้าหน้าที่จาก WWF กล่าวและว่า การปรากฏตัวของนกประจำชาติของกัมพูชาเป็นข้อพิสูจน์ว่าความพยายามในการจัดการ และการอนุรักษ์พื้นที่ และความหลากหลายทางชีวภาพของประเทศนั้นมีความคุ้มค่า และเผยให้เห็นผล.