.
ASTVผู้จัดการออนไลน์ - ชาวประมงนครด่าหนังคนหนึ่งจับแมวน้ำลายประหลาดได้ตัวหนึ่งในเช้าตรู่วันจันทร์ 19 ส.ค.นี้ เมื่อเขานำกลับเข้าฝั่งชาวบ้านในย่านนั้นแห่กันไปดู มีหลายคนจำมันได้ดี เพราะมันเป็นแมวน้ำตัวเดิมที่เป็นข่าวใหญ่ต้นเดือนที่แล้ว ซึ่งทางการได้นำกลับออกไปปล่อยคืนสู่ท้องทะเล โดยหวังว่ามันจะจากไป
เรื่องนี้สร้างความประหลาดใจให้แก่ผู้คน เพราะว่านอกจากจะไม่ไปไหนแล้ว เจ้าแมวน้ำลายเสือดาว (Leopard Seal) ตัวนี้ยังกลับไปขโมยกินปลาของชาวประมงอีก โดยนายอึงวันทวน (Ung Van Thaun) ราษฎรชาวคอมมูนหว่าเค (Hoa Khe) จับมันได้ เมื่อเวลาประมาณตี 2 ขณะลากอวนอยู่ในบริเวณอ่าวด่าหนัง
“มันว่ายน้ำเข้าทางปากอวน ขโมยกินปลา แต่มันว่ายหนีกลับไม่ทันก็จึงติดอวนขึ้นมาด้วย ผมสงสัยว่ามันจะขโมยกินปลาด้วยวิธีนี้มาหลายครั้งแล้ว แต่ครั้งนี้มันโชคร้าย” นายทวนกล่าวกับหนังสือพิมพ์เตื่อยแจ๋ซึ่งรายงานเรื่องนี้ในเว็บไซต์ข่าวภาษาเวียดนาม
นายทวน นำแมวน้ำโชคร้ายกลับเข้าถึงฝั่งเมื่อเวลาประมาณ 08.00 น. เขาบอกแก่สื่อออนไลน์ว่า เคยเห็นสัตว์คล้ายแมวน้ำแบบนี้ผลุบๆ โผล่ๆ ในบริเวณอ่าวมาหลายวันแล้ว
กลับเข้าฝั่งคราวนี้ เจ้าแมวน้ำจากขั้วโลกอ้วนขึ้นอย่างเห็นได้ชัด มันอาจจะหนักถึง 30 กิโลกรัม เทียบกับ 20 กก. เมื่อถูกนำกลับเข้าฝั่งในวันที่ 8 ก.ค.2556 ใน อ.แถ่งเข (Thanh Khe) ซึ่งอยู่ถัดขึ้นไปทางเหนือไม่ไกล ซึ่งในวันเดียวกันนั้น ทางการท้องถิ่นได้นำมันกลับออกไปปล่อยคืนสู่ทะเลในบริเวณที่พบ และถูกจับได้
เจ้าตัวเล็กโตขึ้นมาก วันนี้ลำตัวยาวขึ้นอีกราว 20 เซนติเมตร เป็นประามาณ 1 เมตร แต่ก็ไม่มีทางอื่นให้เลือกนอกจากต้องนำมันไปมอบให้เจ้าหน้าที่ตำรวจอีกครั้งหนึ่ง และตกไปสู่มือของสำนักงานประมงท้องถิ่นในที่สุด
เจ้าหน้าที่ประมงกล่าวว่า กำลังประสานงานกับศูนย์ศึกษาธรรมชาติเวียดนาม ซึ่งเป็นองค์กรอนุรักษ์ธรรมชาติและสภาพแวดล้อมของ เพื่อจัดการนำมันกลับคืนท้องทะเลอีกครั้งหนึ่ง เตื่อยแจ๋กล่าว
แมวน้ำลายเสือดาว ได้ชื่อเป็นแมวน้ำขั้วโลกพันธุ์ดุร้ายที่สุด มีเขี้ยวแหลมในการกัดแทะ และมีฟันคมสำหรับเคี้ยวบด ทำให้มันสามารถต่อสู่ป้องกันตัวจากสัตว์ตัวโตกว่าได้เป็นอย่างดี แต่มันก็มีศัตรูสำคัญในธรรมชาติซึ่งได้แก่ ปลาฉลาม กับพวกวาฬเพชฌฆาต
ยังไม่มีผู้ใดสามารถอธิบายการมาปรากฏตัวในทะเลเขตร้อนของสัตว์ชนิดนี้ได้ ซึ่งโดยธรรมชาติจะอาศัยในเขตที่น้ำทะเลมีอุณหภูมิต่ำถึงขั้นหนาวเย็น หรือในบริเวณใกล้ขั้วโลก แม้หลายคนจะตั้งข้อสันนิษฐานว่า มันอาจจะได้รับผลกระทบจากการเปลี่ยนแปลงของอุณหภูมิพื้นผิวมหาสมุทรจึงหลงทิศหลงทางไปทั่ว.