xs
xsm
sm
md
lg

เรื่องจริงช็อกโลก เวียดนามพบ “คนป่า” สองพ่อลูก 40 ปี หนีศิวิไลซ์ไปนุ่งเปลือกไม้ ใช้ขวาน

เผยแพร่:   โดย: MGR Online

<bR ><FONT color=#000033>นายโห่วันลวาน (Ho Van Loan) ถูกนำกลับสู่ โลกศิวิไลซ์ อีกครั้งหนึ่งในสัปดาห์นี้ หลังจากบิดาพาหลบหนีสังคมเข้าไปอาศัยอยู่ในป่าลึก จังหวัดกว๋างหงาย (Quang Ngai) ตั้งแต่อายุ 2 ขวบ บิดาคือ นายโห่วันแทง (Ho Van Thanh) ซึ่งปัจจุบันอายุกว่า 80 และร่างกายอ่อนแออยู่แล้วล้มป่วยทันทีที่กลับสู่เมือง แต่เจ้าตัวยังยืนกรานจะกลับไปใช้ชีวิตในป่าดงดิบเช่นเดิม เรื่องราวของสองพ่อลูก กลายเป็นเรี่องช็อกโลกช็อกสังคม. -- ภาพ: หนังสือพิมพ์ Lao Dong Online. </b>
.

ASTVผู้จัดการออนไลน์ - ทางการท้องถิ่น อ.เตยจา (Tay Tra) จ.กว๋างหงาย (Quang Ngai) ในภาคกลางเวียดนาม ได้นำชาย 2 พ่อลูกออกจากป่าลึกใกล้ชายแดนลาวในสัปดาห์นี้ ก่อนหน้านั้นมีชาวบ้านพบเห็นคนทั้งสองซึ่งมีพฤติกรรมลึกลับ และดูแปลกประหลาด จึงสะกดรอย และวางแผนติดตามตัวอยู่เป็นเวลานานเกือบเดือนจึงพบ ทั้งนี้ เนื่องจากมีความชำนาญป่ามาก ทั้งสองคนถูกนำออกไปยังหมู่บ้านใกล้เคียง และพบว่า สามารถพูดภาษาดั้งเดิมได้เพียงน้อยนิดเท่านั้น เนื่องจากไม่ได้คบค้าสมาคมกับโลกภายนอกเลยตลอด 40 ปีที่ผ่านมา

หลังจากเดินป่าเป็นเวลา 5-6 ชั่วโมง ทีมงานของทางการซึ่งประกอบด้วย อาสาสมัครในท้องถิ่นจำนวนหนึ่ง ได้ติดตามสะกดรอยไปจนถึง “บ้าน” ที่สองพ่อลูกอาศัยอยู่บนต้นไม้ หนังสือพิมพ์ออนไลน์อานนีงถูโด “ข่าวสารกฎหมายเพื่อชีวิตประจำวัน” รายงานในเว็บไซต์

เจ้าหน้าที่ทางการท้องถิ่นได้นำสองพ่อลูกไปยังโรงพยาบาลประจำอำเภอ ให้แพทย์ตรวจสุขภาพร่างกาย ฉีดวัคซีน ขณะที่ฝ่ายสังคมสงเคราะห์ออกโครงการช่วยฟื้นฟูสภาพร่างกายกับจิตใจ เพื่อนำกลับเข้าไปใช้ชีวิตปกติในสังคมศิวิไลซ์อีกครั้งหนึ่ง สำนักข่าวภาษาเวียดนามหลายแห่งรายงาน

อย่างไรก็ตาม เรื่องนี้ยังขัดความประสงค์ของคนที่เป็นบิดาคือ นายโห่วันแทง (Ho Van Thanh) วัย 82 ปี ซึ่งร่างกายอ่อนแอด้วยชราภาพ แต่ก็ยังยืนยันจะกลับไปใช้ชีวิตอาศัยอยู่ใน “บ้าน” บนต้นไม้ในป่าลึกตามเดิม เจ้าหน้าที่ต้องมัดมือไว้บนเตียงขณะนอนพักในโรงพยาบาล ป้องกันหลบหนี หนังสือพิมพ์ลาวดง (Lao Dong) หรือ “แรงงาน” รายงานในวันศุกร์ 9 ส.ค.นี้

ส่วน นายโห่วันลวาน (Ho Van Loan) อายุ 42 ปี ที่บิดานำเข้าป่าไปด้วยตั้งแต่ยังเป็นเด็กเล็ก ดีใจที่ได้พบกับญาติพี่น้องในเมืองอีกครั้ง แม้ว่าเขาจะไม่เคยรู้จักกับคนเหล่านั้นเลยก็ตาม และสิ่งหนึ่งที่ตัวเขาเองโปรดปรานมากที่สุดในโลกศิวิไลซ์ก็คือ โทรศัพท์มือถือ ที่ทำให้สามารถพูดคุยกับญาติๆ อีกหลายคนที่อยู่ต่างอำเภอ แม้ว่าจะไม่รู้จักญาติเหล่านั้นก็ตาม

สภาพเมื่อเจ้าหน้าที่กับราษฎรในท้องถิ่นไปพบก็คือ นายแทง กับนายลวานอาศัยอยู่ “บนบ้าน” ที่สร้างขึ้นบนคบไม้สูงจากพื้นราว 6 เมตร ซึ่งช่วยให้ปลอดภัยจากสัตว์ป่าดุร้าย หรืออสรพิษ คนป่าทั้งสองสวมเสื้อผ้าที่ทำจากเปลือกไม้ทุบตัดเป็นชิ้นๆ ใช้เถาวัลย์ชนิดหนึ่งสอดมัดเข้าด้วยกันให้เป็นรูปทรง ปกปิดร่างกาย และให้ความอบอุ่น

บน “บ้าน” ยังมีสิ่งของเครื่องใช้สารพัดเท่าที่จะหาได้ ซึ่งรวมทั้งขวานหิน กับขวานเหล็กที่ทำด้ามทำจากกิ่งไม้

เจ้าหน้าที่กล่าวว่า อาหารที่สองพ่อลูกรับประทานกันเป็นหลัก ได้แก่ ข้าวโพด กับมันสำปะหลัง ทั้งที่ปลูกเองและขึ้นตามธรรมชาติ ออกหาผลไม้ป่าและออกล่าสัตว์ป่าขนาดเล็ก จุดไฟหุงหาอาหารโดยใช้วิธีดั้งเดิมแบบดึกดำบรรพ์ หนังสือพิมพ์เตื่อยแจ๋งานในเว็บไซต์ข่าวภาษาเวียดนาม

สองพ่อลูกเป็นชนชาติส่วนน้อยเผ่ากอร์ (Kor) ใน จ.กว๋างนาม ซึ่งปัจจุบันเหลือประชากรอยู่ไม่มาก และเนื่องจากได้หายไปดำรงชีวิตอยู่อย่างโดดเดี่ยวเป็นเวลากว่า 4 ทศวรรษ แทบไม่มีโอกาสได้พบปะสมาคมกับผู้คนจากโลกภายนอก ทำให้จำคำในภาษาดั้งเดิมของตัวเองได้เพียงน้อยนิด และจะมีญาติๆ คอยช่วยเหลืออยู่ข้างๆ ในขณะพูดคุยกับคนอื่น เตื่อยแจ๋กล่าว

ย้อนกลับไปเมื่อกว่า 40 ปีก่อน นายโห่วันแทง เคยอาศัยอยู่กับครอบครัวในท้องที่คอมมูนจ่าแกม (Tra Kem) ปัจจุบัน เขาถูกเกณฑ์เป็นทหารเพื่อทำสงครามกับสหรัฐฯ และรัฐบาลเก่าในระบอบไซ่ง่อนในอดีต

นายแทง มีบุตรกับภรรยา 3 คน และลูกชายคนเล็กเพิ่งคลอดเมื่อเขาต้องออกจากบ้านไปกับกองทัพ เมื่อกลับไปอีกครั้งหนึ่งในอีก 2 ปีต่อมา ก็ได้พบว่า ไม่มีบ้านที่เคยอยู่เหลืออยู่อีกแล้ว ญาติๆ รวมทั้งภรรยากับลูก 2 คนเสียชีวิตในหลุมหลบภัยจากการทิ้งระเบิดครั้งหนึ่งของเครื่องบินสหรัฐฯ ซึ่งมีคนตายเป็นจำนวนมากในคราวเดียวกัน

ชีวิตของนายแทง เหลือบุตรชายคนเล็กเพียงคนเดียวที่ญาติๆ เลี้ยงดูให้ ซึ่งบัดนี้กลายมาเป็นนายนายลวาน ก็จึงนำลูกชายเข้าป่าหายลับไป

เจ้าหน้าที่ทางการกล่าวว่า นักสังคมสงเคราะห์ และจิตแพทย์กำลังพยายามทุกวิถีทางช่วยนายแทงฟื้นฟูความจำ เพื่อศึกษาสาเหตุที่เขาตัดสินใจไปใช้ชีวิตแบบบุพกาล หลายฝ่ายเชื่อว่าสิ่งนี้เกิดจากอาการช็อก เนื่องจากได้สูญเสียลูกๆ กับภรรยา และคนในครอบครัวไปเกือบทั้งหมด ลาวดงกล่าว.
.
กลับสู่ความศิวิไลซ์

2

3

4

5

6

7

8

9

10

11

12
กำลังโหลดความคิดเห็น