xs
xsm
sm
md
lg

“หอพระแก้ว” โทรมหนักลาวกางแผนบูรณะใหญ่ในรอบ 70 ปี

เผยแพร่:   โดย: MGR Online

<bR ><FONT color=#000033>หอพระแก้วเวียงจันทน์ในสภาพที่สมบูรณ์ ภาพถ่ายวันที่ 12 พ.ย.2550 หรือเกือบ 6 ปีก่อน ที่เห็นในภาพนี้เป็นหลังที่ก่อสร้างขึ้นใหม่จนแล้วเสร็จเมื่อ 71 ปีที่แล้วในยุคอาณานิคมฝรั่งเศส และ มีการซ่อมแซมในปี พ.ศ.2536 แต่ปัจจุบันสภาพภายในผุกร่อนและทรุดโทรมหนัก สื่อของลาวกล่าวว่าการฟื้นฟูบูรณะครั้งใหญ่นี้จะต้องใช้งบประมาณถึง 7,000 ล้านกีบ. -- Commons.Wikimedia.Org/Alcyon</b>
.

ASTVผู้จัดการออนไลน์ - ทางการลาวได้ออกแผนการบูรณปฏิสังขรณ์หอพระแก้วเวียงจันทน์ ซึ่งเคยเป็นวัดเก่าแก่คู่ราชบัลลังก์อดีตกษัตริย์ และเป็นที่ประดิษฐานพระแก้วมรกต หรือ พระพุทธมหามณีรัตนปฏิมากร ซึ่งปัจจุบันอยู่ในสภาพทรุดโทรมเนื่องจากผุพังในหลายจุด หลังจากเวลาผ่านไป 70 ปี นับตั้งแต่ก่อสร้างขึ้นใหม่ครั้งล่าสุดในยุคอาณานิคม และผ่านการบูรณะย่อยมาครั้งหนึ่งเมื่อ 20 ปีที่แล้ว

การบูรณปฏิสังขรณ์ครั้งนี้อาจจะต้องใช้งบประมาณถึง 7,000 ล้านกีบ (27.7 ล้านบาท) สำนักข่าวสารปะเทดลาวสื่อของทางการรายงานอ้างผลการสำรวจและประเมินโดยคณะกรรมการชุดหนึ่งหลังจากได้ลงเก็บข้อมูลข้อเท็จจริงในพื้นที่

“โครงการปฏิสังขรณ์หอวัดพระแก้ว รวมเป็นงาน 3 แขนงใหญ่เพื่อปรับปรุงสภาพที่ทรุดโทรมอันเกิดมาจากการก่อสร้างเป็นเวลาหลายทศวรรษ ถ้าอิงตามการสำรวจตรวจตราเก็บข้อมูลทางด้านวิชาการ และคิดประเมินมูลค่าปฏิสังขรณ์จะต้องใช้งบประมาณถึง 7,000 ล้านกีบ” ขปล.กล่าว

การลงเก็บข้อมูลจากสถานที่จริงระหว่างวันที่ 2-5 ก.ค.ที่ผ่านมา ได้พบจุดที่จะต้องซ่อมแซมซึ่งประกอบด้วย ส่วนหลังคาที่ผุกร่อนถึง 80% ต้องปรับเปลี่ยนกระเบื้องดินเผามุงหลังคาที่รั่วซึมเวลาฝนตก จะต้องเปลี่ยนกระเบื้องใหม่ถึง 50% ที่เหลือของเดิมยังมีสภาพดี และอาจจะต้องทำช่อฟ้าใหม่โดยรักษารูปร่างเดิม และต้องติดตั้งสายล่อฟ้ากันฟ้าผ่าเพิ่มเติม

โครงเพดานของหอพระแก้วยังมีสภาพดี เพียงแต่มีแผ่นไม้เพดานในบางบริเวณที่โป่งพอง นอกจากนั้น ภาพเขียนบนเพดาน และลวดลายวิจิตรต่างๆ มีสภาพเลือนราง เนื่องจากสีซีดจางลง มองเห็นไม่ชัดต้องเขียน หรือระบายสีใหม่ ตัวอาคารจะต้องซ่อมแซมบานประตู ซุ้มหน้าต่าง แท่นพระประธาน ซ่อมแซมระเบียง ฯลฯ ซึ่งการฟื้นฟูบูรณปฏิสังขรณ์ทั้งหมดนี้จะให้แล้วเสร็จในปี 2558 ขปล.กล่าว

ตามประวัติศาสตร์ของฝ่ายลาวพระแก้วมรกตประดิษฐานอยู่ในเวียงจันทร์เป็นเวลากว่า 200 ปีนับตั้งแต่สมเด็จพระเจ้าไซเสดถาทิลาด (ไชยเชษฐาธิราช) มีพระราชประสงค์ให้สร้างวัดพระแก้วขึ้นในปีพ.ศ.2108 เพื่อให้เป็นพระอารามหลวงและเป็นที่ประดิษฐานพระแก้วมรกตที่ทรงอัญเชิญไปจากนครเชียงใหม่ (ล้านนา) เมื่อต้องเสด็จฯ กลับไปครองนครจันทะบูลีศรีสตนาคนหุต

แต่ก็เป็นเวลากว่า 230 ปีมาแล้วที่ภายในหอพระแก้วเหลือเพียงแท่นประดิษฐานส่วนพระแก้วมรกตถูกอัญเชิญไปประทับที่กรุงธนบุรีในรัชสมัยสมเด็จพระเจ้ากรุงธนบุรี โดยสมเด็จเจ้าพระยามหากษัตริย์ศึก
.
<bR ><FONT color=#000033>ประตูใหญ่ด้านหน้า ริมถนนเสดถาทิลาด ที่เปิดให้นักท่องเที่ยวเข้าชมหอพระแก้วในภาพเดือน ต.ค.2547 ลาวอยู่ระหว่างเตรียมการบูรณปฏิสังขรณ์โบราณสถานเก่าแก่แห่งนี้ เนื่องจากภายในอยู่ในสภาพผุพังและทรุดโทรม ซึ่งหมายถึงการปิดและงดการเข้าชม เพียงแต่ยังไม่ทราบในขณะนี้ว่าการบูรณะจะเริ่มเมื่อไร. -- ภาพโดย วุฒิพงษ์ หลักคำ-บุญญะสาร. </b>
2
<br><FONT color=#000033>ภาพถ่ายเดือน ต.ค.2547 แผ่นไม้สักสลักข้อความบอกความเป็นมาของหอพระแก้ว บรรทัดที่ 4-5 มีข้อความว่า ..แต่ปัจจุบันนี้องค์พระแก้วมรกตดังกล่าวได้ถูกนำไปประดิษฐานอยู่ต่างประเทศแล้ว<i>ตั้งแต่ปี ค.ศ.1779.</i>  -- ภาพโดย วุฒิพงษ์ หลักคำ-บุญญะสาร.</b>
3
<bR ><FONT color=#000033>ทางเดินด้านหน้าเข้าสู่หอพระแก้วเวียงจันทน์ในภาพเดือน ต.ค.2547 ขณะนักท่องเที่ยวชาวไทยกลุ่มหนึ่งกำลังก้าวขึ้นบันไดเพื่อเข้าเยี่ยมชมและนมัสการพระพุทธรูป. -- ภาพโดย วุฒิพงษ์ หลักคำ-บุญญะสาร.</b>
4
กองทัพสยามได้อัญเชิญพระแก้วมรกตไปจากเวียงจันทน์ในปี พ.ศ.2322 และทรงประดิษฐานที่วัดแห่งหนึ่งใกล้กับวัดอรุณราชวรารามฝั่งธนบุรีเป็นเวลา 5 ปี ก่อนจะอัญเชิญไปประดิษฐานที่วัดพระศรีรัตนศาสดารามเมื่อพระบาทสมเด็จพระพุทธยอดฟ้าจุฬาโลกมหาราชทรงสถาปนากรุงเทพฯ เป็นเมืองหลวงแห่งใหม่

ตามประวัติศาสตร์ของฝ่ายลาว วัดพระแก้วเวียงจันทน์ถูกกองทัพสยามเผาทำลายถึง 2 ครั้ง ครั้งแรกในรัชสมัยสมเด็จพระเจ้ากรุงธนบุรีและครั้งหลังในสงครามปี พ.ศ.2371-2372 ที่นักประวัติศาสตร์ฝ่ายสยามเรียกว่า “สงครามปราบกบฏเจ้าอนุวงศ์เวียงจันทน์” ในรัชสมัยสมเด็จพระมหาเจษฎาราชเจ้า พระเจ้าอยู่หัวรัชกาลที่ 3

หลังถูกเผาทำลายโดยกองทัพสยามในสมัยกรุงธนบุรี พระเจ้าอนุวงศ์ได้ทรงให้ก่อสร้างวัดพระแก้วขึ้นใหม่เป็นครั้งแรกเมื่อเสด็จกลับจากกรุงเทพฯ ไปครองกรุงเวียงจันทน์ ก่อนจะถูกเผาทำลายอีกครั้งหนึ่งโดยกองทัพสยามสมัยกรุงรัตนโกสินทร์ ภาพที่บันทึกเอาไว้โดยชาวฝรั่งเศสในอีกกว่า 100 ปีถัดมา แสดงให้เห็นวัดพระแก้วกลายเป็นเพียงซากที่เหลือจากไฟไหม้ เสาสีดำตั้งโด่อยู่บนฐานรากที่เป็นเถ้าถ่าน

การก่อสร้างขึ้นใหม่ครั้งที่ 3 ดำเนินการโดยผู้ปกครองชาวฝรั่งเศสระหว่างปี พ.ศ.2479-2485 ในยุคที่ลาวเป็นดินแดนอาณานิคมภายใต้การกำกับดูแลของเสด็จฯ เจ้าสุวันนะพูมา ที่ทรงสำเร็จการศึกษาสาขาวิศกรรมศาสตร์จากกรุงปารีสและต่อมาทรงเป็นนายกรัฐมนตรีของราชอาณาจักรลาวเป็นเวลาสั้นๆ หลังจากได้รับเอกราช

หลังจากนั้น วัดพระแก้วได้ตกอยู่ในสภาพที่ขาดการเอาใจใส่เป็นเวลาหลายสิบปีเนื่องจากความขัดแย้งทางการเมืองภายในและประเทศเข้าสู่ภาวะสงคราม จนกระทั่งมีการบูรณะแบบ “ซ่อมเล็ก” อีกครั้งหนึ่งเมื่อปี พ.ศ.2536 โดยทางการลาวยุคใหม่ซึ่งอยู่ต่อมาในสภาพที่เห็นอยู่ปัจจุบัน

หอพระแก้วไม่ได้มีสภาพเป็นวัดอีกแล้วแต่เป็น “หอพิพิธภัณฑ์” ที่ใช้เก็บพระพุทธรูปศิลปะล้านช้างที่มีพุทธลักษณ์งดงามหลายองค์ กับโบราณวัตถุล้ำค่าอีกจำนวนมาก ตั้งอยู่ริมถนนเสดถาทิลาดติดบริเวณหอคำทำเนียบประธานประเทศ เยื้องกันอีกฝั่งหนึ่งของถนนเป็นวัดสีสะเกดซึ่งเป็นวัดเก่าแก่เพียงแห่งเดียวที่รอดพ้นรอดพ้นจากการเผาทำลายครั้งที่ 2 โดยกองทัพสยาม

ในช่วงปี 2551-2552 ทางการลาวได้ฟื้นฟูบูรณะหอไตรวัดสีสะเกดที่มีสภาพทรุดโทรมขึ้นใหม่เป็นการร่วมฉลองครบรอบ 450 ปี การก่อตั้งนครเวียงจันทน์ ปัจจุบันเป็นแหล่งท่องเที่ยวยอดนิยมอีกแห่งหนึ่งในเมืองหลวงของลาวเช่นกัน.
<bR ><FONT color=#000033>ภาพวันที่ 7 มี.ค.2550 หรืออีก 3 ปีต่อมา เป็นทางเดินด้านหน้าไปยังหอพระแก้ว ต่างจากภาพก่อนหน้านี้ มีการติดตั้งเสาไฟส่องสว่างด้านหน้าหอ สื่อของทางการรายงานว่าภายในหอพระแก้วชำรุดทรุดโทรมหนัก และจะต้องบุรณะปฏิสังขรณ์ครั้งใหญ่. -- ภาพโดย วุฒิพงษ์ หลักคำ-บุญญะสาร.</b>
5
<br><FONT color=#000033>จากบันไดทางขึ้นหอพระแก้วมองย้อนกลับไปยังทางเดิน นักท่องเที่ยวจากยุโรปกลุ่มนี้กำลังมุ่งหน้ามาเที่ยวชม ในภาพวันที่ 7 มี.ค.2550  ที่นี่เป็นจุดท่องเที่ยวยอดนิยมแห่งหนึ่งของเวียงจันทน์ แต่นักท่องเที่ยวกลุ่มใหญ่ที่สุดในช่วงหลายปีมานี้เป็นชาวไทย. -- ภาพโดย วุฒิพงษ์ หลักคำ-บุญญะสาร.</b>
6
<br><FONT color=#000033>พระพุทธรูปปางมารวิชัย พุทธลักษณ์สมัยล้านช้างประดิษฐานอยู่ระเบียงด้านหนึ่งของหอพระแก้วเวียงจันทน์ในภาพเดือน ต.ค.2547  แต่ไม่มีพระแก้วประดิษฐานอยู่ที่นั่นมากว่า 230 ปีแล้ว. -- ภาพโดย วุฒิพงษ์ หลักคำ-บุญญะสาร.</b>
7
<bR ><FONT color=#000033>พระพุทธรูปสำริดปางพระอิริยาบทยืน ประดิษฐานที่มุมหนึ่งของระเบียงหอพระแก้วเวียงจันทน์ในภาพเดือน ต.ค.2547 ที่นี่ไม่มีสภาพเป็นวัดอีกแล้วหลังจากถูกเผาทำลายถึง 2 ครั้ง การก่อสร้างใหม่ครั้งที่ 2 มีขึ้นเมื่อ 71 ปีก่อนโดยทางการปกครองฝรั่งเศสเจ้าอาณานิคม และ มีการบูรณะอีกครั้งหนึ่งเมื่อปี 2536 แต่คราวนี้จะเป็นการปฏิสังขรณ์ครั้งใหญ่. -- ภาพโดย วุฒิพงษ์ หลักคำ-บุญญะสาร.</b>
8
<bR><FONT color=#000033>พระพุทธรูปปางพระอิริยาบทยืนประดิษฐานอยู่ข้างเสาระเบียงหอพระแก้ว ข้างหลังเป็นบานประตูสลักลวดลายสวยงามกับซุ้มประตูสลักนูน ในภาพเดือน ต.ค.2547 หรือเมื่อ 9 ปีที่แล้ว สื่อของทางการรายงานว่าปัจจุบันอยู่ในสภาพทรุดโทรม ทั้งสองรายการนี้จะต้องได้รับการฟื้นฟูบูรณะด้วย.  -- ภาพโดย วุฒิพงษ์ หลักคำ-บุญญะสาร.</b>
9
<bR><FONT color=#000033>ซุ้มหน้าต่างหอพระแก้วในภาพเดือน ต.ค.2547 เป็นอีกรายการหนึ่งที่สำนักข่าวของทางการรายงานว่าจะต้องฟื้นฟูใหม่.  -- ภาพโดย วุฒิพงษ์ หลักคำ-บุญญะสาร.</b>
10
กำลังโหลดความคิดเห็น