อั้นไม่อยู่ ลาวพิมพ์แบงก์ใบละแสน เริ่มใช้ ก.พ.นี้

<bR><FONT color=#000033>ภาพธนบัตรใหม่มูลค่า 100,000 กีบ ที่ลาวพิมพ์ออกมาใช้เป็นครั้งแรก หลังจากอั้นมาเป็นเวลา 2 ปี เนื่องจากเกรงว่าหากพิมพ์ออกมาใช้หมุนเวียนก็อาจเป็นตัวกระตุ้นให้เงินเฟ้อพุ่งขึ้นสูง แต่ปีนี้สถานการณ์ได้เปลี่ยนไป ลาวมั่นใจและประกาศนำ แบงก์ใหญ่ ออกใช้ ซึ่งธนาคารแห่ง สปป.ลาวกล่าวว่า เพื่อสนองความเรียกร้องต้องการของสังคมในระยะใหม่. </b>

ASTVผู้จัดการออนไลน์ -- หลังปฏิเสธและยืนยันมาตั้งแต่ 2 ปีที่แล้วว่า จะไม่มีการพิมพ์ธนบัตรใบละ 100,000 ออกใช้หมุนเวียนในตลาด เนื่องจากเกรงจะทำให้เกิดเงินเฟ้อรุนแรง แต่สัปดาห์นี้ธนาคารแห่งชาติของลาว ได้ประกาศจะเริ่มนำธนบัตรมูลค่าสูงสุด ใหม่ล่าสุดออก ใช้ตั้งแต่วันที่ 1 ก.พ.เป็นต้นไป โดยกล่าวว่า เพื่อสนองความเรียกร้องต้องการของการพัฒนาเศรษฐกิจสังคมในช่วงใหม่

ธนบัตรใหม่มูลค่า 100,000 กีบ ป้องกันการปลอมแปลงได้เป็นอย่างดีและทนทานกว่าธนบัตรที่ออกมาก่อนหน้านี้ เนื่องจากพิมพ์ด้วยกระดาษชนิดพิเศษคุณภาพสูง ธนาคารแห่งสาธารณรัฐประชาธิปไตยประชาชนลาว ระบุในคำแถลงฉบับหนึ่งลงวันที่ 24 ม.ค.2554 และ ตีพิมพ์เผยแพร่ในเว็บไซต์ในวันพฤหัสบดี 26 ม.ค.ศกนี้

ในปี 2553 ธนาคารแห่งชาติลาวพิมพ์ธนบัตรใบละ 100,000 กีบออกมาเป็นครั้งแรก เพื่อรำลึกครบรอบ 450 ปีการก่อตั้งนครเวียงจันทน์ ในท่ามกลางความวิตกกังวลของหลายฝ่าย ที่หวั่นเกรงว่า หากนำออกหมุนเวียนในตลาดจะเป็นตัวกระตุ้นให้เกิดเงินเฟ้อ ขณะที่ลาวเริ่มได้รับผลกระทบจากสถานการณ์เศรษฐกิจโลกที่ย่ำแย่ลง

เจ้าหน้าที่ของธนาคารแห่งชาติได้ออกอธิบายในเวลาต่อมา ว่า ธนบัตรฉบับละ 100,000 กีบ พิมพ์ออกมาจำนวนจำกัด เพื่อเป็นที่ระลึกเนื่องในโอกาสฉลอง 450 ปีการก่อตั้งเมืองหลวงเช่นเดียวกับของที่ระลึกชนิดอื่นๆ อีกหลายรายการ แต่จะไม่มีการนำธนบัตรราคาแสนกีบ ออกหมุนเวียนและไม่สามารถใช้ชำระค่าสินค้าได้

ธนบัตรรำลึก 450 ปีของเมืองหลวง พิมพ์เป็นรูปพระบรมราชานุสาวรีย์พระเจ้าไซเสดถาทิลาด บรมกษัตริย์ผู้ทรงก่อตั้งนครเวียงจันทน์ มีรูปดอกจำปาซึ่งเป็นดอกไม้ประจำชาติลาว กับรูปพระธาตุหลวงสิ่งศักดิ์สิทธิ์คู่บ้านคู่เมืองอยู่เบื้องหลัง

ธนาคารแห่ง สปป.ลาว ระบุในคำแถลงสัปดาห์นี้ ว่า การนำธนบัตรใบละ 100,000 กีบ ฉบับจริงออกใช้ในครั้งนี้ก็เพื่อ “ตอบสนองคงวามเรียกร้องต้องการของพื้นฐานเศรษฐกิจแห่งชาติที่นับวันนับเติบใหญ่ขยายตัว สร้างความสะดวกในการชำระสินค้าและการบริการ ประกอบส่วนเสริมสร้างคุณค่าของเงินกีบและรักษาเสถียรภาพเงินตรา แห่งชาติให้มั่นคงยาวนาน”
.
<bR><FONT color=#000033>ดูด้านหน้ากันอีกที ธนาคารแห่ง สปป.ลาวได้แสดงให้เห็นจุดต่างๆ ที่พิมพ์ขึ้นมากันการปลอมแปลงทั่วทั้งใบ นอกจากนั้นธนบัตรใบละ 100,000 ยังพิมพ์ด้วยกระดาษชนิดพิเศษที่มีความทนทาน หลังจากอั้นมา 2 ปีในที่สุดลาวก็มี แบงก์ใหญ่ ออกมาใช้. </b>

<bR><FONT color=#000033>ดูด้านหน้ากันอีกที ธนาคารแห่ง สปป.ลาวได้แสดงให้เห็นจุดต่างๆ ที่พิมพ์ขึ้นมากันการปลอมแปลงทั่วทั้งใบ นอกจากนั้นธนบัตรใบละ 100,000 ยังพิมพ์ด้วยกระดาษชนิดพิเศษที่มีความทนทาน หลังจากอั้นมา 2 ปีในที่สุดลาวก็มี แบงก์ใหญ่ ออกมาใช้. </b>

<bR><FONT color=#000033>เจ้าหน้าที่รับผิดชอบของธนาคารแห่ง สปป.ลาว เปิดแถลงในวันพุธ 25 ม.ค.2554 แจ้งการนำธนบัตรฉบับละ 100,000 กีบ ออกหมุนเวียน โดยจะเริ่มตั้งแต่วันที่ 1 ก.พ.ศกนี้ เป็นต้นไป หลังจากพิมพ์ออกมาเป็นครั้งแรกในปี 2553 เพื่อรำลึก 450 ปีการก่อตั้งเมืองหลวงแต่ไม่มีการนำออกหมุนเวียน. -- ภาพ: เว็บไซต์ธนาคารแห่งสปป.ลาว. </b>

<br><FONT color=#0000330>โฉมหน้าของ แบงก์ที่ระลึก มูลค่า 100,000 กีบ ที่ธนาคารแห่ง สปป.ลาว พิมพ์ออกมาให้เป็นที่ฮือฮาของสังคมในปี 2553 แต่ก็รีบออกแถลงสำทับว่าทำขึ้นมาเป็นที่ระลึกเท่านั้น จะไม่นำออกใช้และใช้ชำระค่าสินค้าและบริการไม่ได้เพราะอาจจะทำให้เงินเฟ้อรุนแรง สัปดาห์นี้แบงก์ชาติลาวออกแถลง สังคมจะได้ใช้ธนบัตรฉบับละแสนตัวจริงเป็นครั้งแรกวันที่ 1 ก.พ.เป็นต้นไป. </b></font>

.

ด้านหน้าของธนบัตรใบละแสนกีบเป็นรูปประธาน ไกสอน พมวิหาน ผู้นำการต่อสู้เพื่อเอกราชของลาวกับรูปวัดพระธาตุหลวงและตราประเทศ ส่วนด้านหลังเป็นรูปอนุสรณ์สถานประธานไกสอนและพิพิธภัณฑ์ไกสอน พมวิหานในนครเวียงจันทน์

ธนบัตรพิมพ์ลายน้ำเอาไว้ทั่ว และยังมีมีภาพเงาสะท้อนแสง (Hologram) ของอดีตผู้นำป้องกันการปลอมแปลง นอกจากนั้น ก็ยัง “มีระบบป้องกันการปลอมแปลงกระจายอยู่ตลอดทั้งใบ” คำแถลงระบุ

ธนาคารแห่ง สปป.ลาว ได้เรียกร้องให้ชาวลาวตลอดจนชาวต่างชาติใช้ธนบัตรที่ออกใหม่ในการชำระค่าสินค้าและบริการ และช่วยกันเก็บรักษาอย่างดีเพื่อให้ใช้ได้ยาวนาน

หลายปีมานี้ทางการลาวได้รณรงค์การใช้เงินกีบแทนเงินสกุลต่างประเทศในการซื้อขายและจับจ่ายในชีวิตประจำวัน ซึ่งเป็นอีกมาตรการหนึ่งที่ทำให้เงินสกุลของลาวมีเสถียรภาพค่อนข้างสูงในช่วงที่ผ่านมา แม้เศรษฐกิจโลกภายนอกจะมีความปั่นป่วนก็ตาม

อัตราแลกเปลี่ยนของธนาคารการค้่าต่างประเทศประจำวันพฤหัสบดี 26 ม.ค.คือ 8,023 กีบต่อ 1 ดอลลาร์ และ 256.50 กีบต่อ 1 บาท เทียบกับ 265 กีบ/บาท ในไตรมาสที่ 3 ปีที่แล้ว

คำแถลงของธนาคารแห่งชาติยังเรียกร้องให้ประชาชน “มีสติเป็นเจ้าการสกัดกั้นการปั่นป่วนทางด้านแนวคิดจิตศาสตร์ หรือโฆษณาใส่ร้ายป้ายสีธนบัตรใหม่ฉวยโอกาสแสวงหากำไรและผลประโยชน์ในทางที่ไม่ถูกต้อง” อีกด้วย