xs
xsm
sm
md
lg

ตามรอยสุวรรณภูมิ.. สนามบินลองแถ่งเวียดนามลากยาว

เผยแพร่:   โดย: MGR Online

<bR ><FONT color=#000033>แปลนอาคารผู้โดยสารของสนามบินแห่งใหม่อยู่บนแผ่นกระดาษมานานมากว่า 10 ปีแล้ว หลายฝ่ายเร่งเร้าให้เริ่มก่อสร้างเสียทีเพื่อให้เปิดใช้เฟสแรกในปี 2563 ซึ่งสนามบินนครโฮจิมินห์จะเริ่มโกลาหลไม่สามารถรองรับการสัญจรทางอากาศที่เติบโตอย่างรวดเร็วมากในช่วงหลายปีมานี้ เฟสที่ 1 ของสนามบินแห่งใหม่จะรับผู้โดยสารได้ 25 ล้านคนต่อปี และขยายเป็น 50 ล้านคนในเฟสที่ 2 เพิ่มเป็น 120 ล้านคนในเฟสที่ 3 ซึ่งมีกำหนดแล้วเสร็จในปี 2573 แต่หลายเหตุการณ์บ่งบอกว่าการก่อสร้างอาจจะไม่เป็นไปตามกำหนด.  </b>
.

ASTVผู้จัดการออนไลน์ - สนามบินสุวรรณภูมิที่เห็นในวันนี้ต้องใช้เวลา 30-40 ปีก่อนจะเริ่มก่อสร้างได้ และในวันนี้ก็ยังไม่เสร็จสิ้นสมบูรณ์ทั้งโครงการ หลายฝ่ายในเวียดนามวิตกว่า สนามบินลองแถ่ง (Long Thanh) ซึ่งเป็นหนึ่งในอภิมหาโปรเจกต์โครงการลงทุนขนาดใหญ่ อาจดำเนินรอยตามด้วยหลากหลายปัญหา และจะไม่ทันเปิดใช้เฟสที่ 1 ในปี 2563 ซึ่งจะทำให้การสัญจรทางอากาศในภาคใต้อยู่ในสภาพโกลาหล

คณะกรรมการที่รับผิดชอบได้จัดการประชุมสัมมนาเกี่ยวกับการลงทุนก่อสร้างโครงการขึ้นในสัปดาห์นี้ และได้ผลสรุปว่า เฟสที่ 1 อาจจะแล้วเสร็จปี 2566 ล่าช้าจากเดิม 3 ปี และมีข้อแม้ว่าโครงการจะต้องผ่านความเห็นชอบของรัฐสภาในสมัยประชุมปลายปี คือเดือน ต.ค.ปีนี้ งานพื้นฐานต่างๆ โดยเฉพาะอย่างยิ่งงานหน้าดิน และการเวนคืนที่ดิน การจ่ายเงินชดเชยต้องดำเนินไปตั้งแต่บัดนี้ สำนักข่าวออนไลน์ภาษาเวียดนามรายงาน

การก่อสร้างสนามบินใหญ่ในเฟสที่ 1 จะใช้เงินทุนกว่า 5,600 ล้านดอลลาร์ ในนั้นจะเป็นเงินความช่วยเหลือเพื่อการพัฒนาอย่างเป็นทางการของต่างประเทศ (Official Development Assistance) ซึ่งส่วนใหญ่จะเป็นเงินกู้ และรัฐบาลญี่ปุ่นพร้อมจะให้กู้ราว 53% ของโครงการ เงินทุนส่วนที่เหลือจะต้องพึ่งพาภาคเอกชน

สนามบินลองแถ่ง (หรือ “ลองเทิน”) อยู่ห่างจากนครโฮจิมินห์ ไปทางตะวันออกเฉียงเหนือราว 30 กิโลเมตร ในเขตอำเภอชื่อเดียวกันของ จ.โด่งนาย (Dong Nai) เป็นฐานทัพอากาศเก่าของสหรัฐตั้งแต่สมัยสงครามซึ่งมีการก่อสร้างฐานรากต่างๆ ไว้อย่างแน่นหนา อยู่ในที่สูงพ้นจากน้ำท่วมในฤดูน้ำหลาก เมื่อก่อสร้างแล้วเสร็จทั้ง 3 เฟสในอีก 17 ปีข้างหน้า จะรองรับผู้โดยสารได้ 120 ล้านคนต่อปี

สนามบินเฟสที่ 1 (2557-2563) ออกแบบให้รองรับผู้โดยสาร 25 ล้านคน จะช่วยระบายความแออัดคับคั่งของสนามบินเตินเซินเญิ๊ต (Tan Son Nhat) นครโฮจิมินห์ ที่มีปัญหาในชั่วโมงเร่งด่วนมา 2-3 ปีแล้ว และคาดว่าในปี 2563 จะแน่นขนัดจนไม่อาจจะรองรับการบินได้อีกต่อไปหากไม่มีสนามบินแห่งที่สองรองรับ

ท่าอากาศยานนานาชาตินครโฮจิมินห์ แต่เดิมตั้งอยู่ห่างจากตัวเมืองเพียง 8 กม. ในวันนี้ชุมชนได้โอบล้อมเอาไว้ทุกด้าน อาคารผู้โดยสารหลังใหม่เปิดใช้งานเมื่อปี 2552 และไม่มีพื้นที่ขยับขยายได้อีก และไม่คุ้มที่จะดำเนินการ

โครงการสนามบินแห่งใหม่ได้รับความเห็นชอบจากนายกรัฐมนตรีตั้งแต่ปี พ.ศ.2548 มีเนื้อที่ราว 25,000 เฮกตาร์ (156,250 ไร่) ครอบคลุมพื้นที่ 6 นิคมของอำเภอ มีราษฎรได้รับผลกระทบราว 10,000 คน ที่จะต้องโยกย้ายออก โดยมีค่าชดเชยรวมประมาณ 1,000 ล้านดอลลาร์ จึงจะสามารถเริ่มงานพื้นผิวดินได้

ปี 2556 นี้ ทางการจังหวัดได้ร้องขอเงินงบจากรัฐบาลกลาง 470,000 ล้านด่ง (ราว 22.38 ล้านดอลลาร์) เพื่อดำเนินการเบื้องต้น ทั้งด้านจัดเตรียมเอกสาร จ่ายชดเชย และเคลียร์หน้าดิน แต่ยังไม่ได้รับ ในขณะที่การประชุมสัมมนาสัปดาห์นี้สรุปว่าการก่อสร้างควรจะเริ่มขึ้นให้ได้ในปีหน้า

รัฐบาลโดยกระทรวงขนส่งกำลังเร่งก่อสร้างถนนมอเตอร์เวย์ขนาด 6 ช่องทางจากนครโฮจิมินห์ไปยัง อ.ลองแถ่ง เพื่อเป็นเส้นเลือดใหญ่ในการเชื่อมต่อการคมนาคมขนส่ง กับอีกสายหนึ่งจากสนามบินลองแถ่งไปยังท่าเรือน้ำลึกใน จ.บ่าเหรียะ-หวุงเต่า (Ba Ria- Vung Tau) ที่อยู่ใต้ลงไป

ผู้แทนสมาคมวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีการบินเวียดนาม กล่าวว่า การก่อสร้างสนามบินล่าช้ามามากแล้ว และไม่ควรล่าช้าอีกต่อไป ทั้งที่การศึกษาความเป็นไปได้ของโครงการพบว่า มีอัตราผลตอบแทนสูงถึง 22.1% ซึ่งเป็นอัตราสูงมากเมื่อเทียบกับมาตรฐานโครงการก่อสร้างภาครัฐทั่วไปในเวียดนาม ที่มีอยู่ระหว่าง 10-12% สำนักข่าวเวียดนามเอ็กซ์เพรสรายงาน
.
<bR ><FONT color=#000033>มุมหนึ่งของอาคารผู้โดยสารสนามบินนานาชาติลองแถ่งในมโนภาพของจิตรกร หน่วยงานที่ศึกษาเรื่องนี้บอกว่าเป็นการลงทุนที่คุ้มค่าที่สุดและลงทุนต่ำที่สุด เมื่อเทียบกับการขยายสนามบินเตินเซินเญิ๊ตนครโฮจิมินห์หรือสนามบินเบียนหว่า ใน จ.โด่งนาย. </b>
.
ขณะเดียวกัน สมาคมฯ ได้แสดงความห่วงใยต่อภาระหนี้สาธารณะ ในขณะที่เวียดนามมีหนี้ต่างประเทศในระดับสูงอยู่แล้ว และเงินกู้ญี่ปุ่นโดยส่วนใหญ่จะมีอัตราดอกเบี้ยสูง จึงควรแสวงหาเงินกู้ดอกเบี้ยต่ำกว่า ซึ่งสามารถแลกเปลี่ยนโดยตอบแทนเป็นผลประโยชน์ในรูปแบบอื่นๆ ให้แก่ผู้ปล่อยกู้ได้

ที่ประชุมสัมมนายังเสนอให้ฝ่ายบริหารโครงการลดการลงทุนของภาครัฐลง และเปิดให้ภาคเอกชนเข้าลงทุนในหลายส่วนที่คู่ขนานกัน รวมทั้งการก่อสร้างอาคารจอดรถด้วย

สำนักงานบริหารโครงการสนามบินลองแถ่ง ซึ่งเป็นหน่วยงานหนึ่งของรัฐวิสาหกิจท่าอากาศยานภาคใต้ กล่าวว่า สนามบินแห่งนี้เป็นทางออกที่คุ้มค่าที่สุดในการรองรับการสัญจรทางอากาศในอนาคต การก่อสร้างทั้ง 3 เฟสคาดว่าจะใช้เงินลงทุนเพียงประมาณ 8,000 ล้านดอลลาร์

การขยายท่าอากาศยานเตินเซินเญิ๊ต จะต้องใช้เงินถึง 9,100 ล้านดอลลาร์ และ 7,500 ล้านดอลลาร์สำหรับสนามบินเบียนหว่า (Bien Hoa) หรือสนามบินจังหวัดโด่งนาย แต่คณะกรรมการที่ศึกษาเรื่องนี้ได้ตัดแห่งหลังออกไป เนื่องจากยังไม่สามารถจัดการเก็บกู้สารพิษไดออกซินที่หลงเหลือมาตั้งแต่ครั้งสงครามได้ทั้งหมด

ตามแผนแม่บทการพัฒนาการขนส่งทางอากาศที่ได้รับอนุมัติจากนายกรัฐมนตรีเหวียนเติ๋นยวุ๋ง ภายในปี พ.ศ.2563 ทั่วเวียดนามจะมีสนามบินที่เปิดดำเนินการ จำนวน 26 แห่ง เทียบกับ 21 แห่งในปัจจุบัน ซึ่งในนั้น 10 แห่ง เป็นสนามบินนานาชาติ อีก 16 แห่ง จะเป็นสนามบินใช้เฉพาะภายในประเทศ

นักวิเคราะห์กล่าวว่า สถานที่ตั้งของสนามบินลองแถ่งอยู่ในจุดที่เหมาะสมมากคือ อยู่ทางตะวันออกสุดของแผ่นดินใหญ่เอเชียตะวันออกเฉียงใต้ จึงมีโอกาสที่จะเป็นศูนย์กลางการบินสำคัญอีกแห่งหนึ่งในอนุภูมิภาคในอนาคต.
กำลังโหลดความคิดเห็น